เปิดตัวรถใหม่ All-new Honda WR-V ครั้งแรกในไทย ค่าตัวเริ่ม 799,000 บาท
- โดย : รัฐศิลป์ รัตนกู้เกียรติ
- 10 มี.ค. 66 00:00
- 22,133 อ่าน
หลังจากที่ทาง Honda Thailand ปล่อยทีเซอร์เรียกน้ำย่อยกันไปแล้วก่อนหน้านี้ ล่าสุดทางค่ายได้เปิดตัวรถใหม่อย่างเป็นทางการเรียบร้อยกับ All-new Honda WR-V ยนตรกรรมเอสยูวีอเนกประสงค์ 5 ที่นั่งล่าสุด โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยวทันสมัย ผสานความแกร่งในสไตล์เอสยูวี
สำหรับรถใหม่ All-new Honda WR-V ได้เผยโฉมแล้วในตลาดต่างประเทศที่อินโดนีเซียเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ปี 2022 โดย ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ เน้นนำเสนอมาด้วยดีไซน์สปอร์ตสุดเท่ มีสไตล์ แข็งแกร่ง และให้ความรู้สึกพรีเมียม ทันสมัย ตามสไตล์ชีวิตยุคใหม่ ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเบาะนั่งด้านหลังแถว 2 ปรับพับได้ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์
พร้อมขุมกำลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว และระบบเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที รองรับพลังงานทางเลือก E20 โดยทางฮอนด้าเผยตัวเลขความประหยัดอยู่ที่ 16.7 กม./ลิตร และมีระบบความปลอดภัย Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย
ดีไซน์ภายนอกของ Honda WR-V ใหม่ โดดเด่นมาด้วยกระจังหน้าโครเมียม มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ ไฟหน้าพร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED sequential และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED ระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับไฟฟ้า ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา และระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง เสาอากาศแบบครีบฉลาม รวมไปถึงล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
และในรุ่นย่อย RS ที่เพิ่มเติมความสปอร์ตไปอีกขั้น แตกต่างด้วยกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ RS ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว ที่ใหญ่กว่า
ภายในห้องโดยสารตกแต่งมาในธีมสีดำ มีวัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่งแถบสีเงิน เบาะที่นั่งแถวหลังปรับพับได้แบบ 60:40 (ซ้ายหรือขวา) มีมือจับประตูด้านในสีเงิน เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีน้ำเงิน รวมไปถึงพวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำเงิน ปรับระดับสูง-ต่ำได้
และในรุ่น RS สปอร์ตกว่าด้วยภายในห้องโดยสารตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่ง Piano black แถบสีแดง เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ พร้อมวัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีแดง พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ปรับระดับสูง-ต่ำได้ มีคิ้วบันไดสเตนเลสที่ประตูหน้า พร้อมสัญลักษณ์ RS
ด้านของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากับระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมระบบทำความเย็นเร็วและโหมดทิศทางลมเพื่อความสะดวกสบาย ที่เท้าแขนด้านหน้า (รุ่น SV) หรือด้านหน้าและด้านหลัง (รุ่น RS) แผงบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้าด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น SV) และแบบมีฝาปิด พร้อมไฟส่องสว่างด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS) กระจกมองหลังแบบตัดแสง กระจกไฟฟ้า 4 บานพร้อมระบบปรับขึ้นลงอัตโนมัติด้านคนขับ ช่องเก็บของหลังเบาะผู้โดยสารด้านหน้า ที่วางแก้ว 6 ตำแหน่ง ที่แขวนของในพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ไฟภายในห้องโดยสาร 2 ตำแหน่ง ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย ราวมือจับ 3 ตำแหน่ง (รุ่น SV) และ 4 ตำแหน่ง (รุ่น RS)
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด (Eco Indicator) ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS) ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น SV) และ 6 ตำแหน่ง (รุ่น RS)
สำหรับระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ในทุกรุ่นย่อยมากับระบบ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC)
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
และยังมีเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ
• ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น RS)
• ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS)
• ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags)
• ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) (รุ่น RS)
• ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
• ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
• กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera)
• ระบบล็อกประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ (Auto Door Lock by Speed)
• ระบบเซ็นทรัลล็อกพร้อมสวิตช์ควบคุมตำแหน่งคนขับ
• ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า
• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง แบบดึงกลับอัตโนมัติ พร้อมเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารแถวที่ 2 แบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง
• ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย
• สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
• ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
• ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
• ระบบป้องกันล้อล็อกและระบบกระจายแรงเบรก (ABS & EBD)
• โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACETM ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง
• จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
• ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
ทั้งนี้ Honda WR-V ใหม่ ยังรองรับการเชื่อมต่อและสั่งการ ไม่ว่าจะเป็น
• ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
• ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
• ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
• Honda CONNECT เทคโนโลยีที่เชื่อมคุณและรถยนต์เข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการทำงานของแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน (รุ่น RS)
ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่
• รุ่น RS ราคา 869,000 บาท
• รุ่น SV ราคา 799,000 บาท
กับสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก) ,สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) / หลังคาสีดำ (ทูโทน) (เฉพาะรุ่น RS) ,สีดำคริสตัล (มุก) ,สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และ สีขาวทาฟเฟต้า
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com