The All New BMW 3 Series เก๋งหรูสปอร์ตประกอบในประเทศ ออพชั่นมากกว่าในราคาเริ่มต้น 2.549 ล้านบาท
- โดย : Autodeft
- 26 ก.พ. 63 00:00
- 24,692 อ่าน
หลังจากทำตลาดมา 1 ปีแต็ม สำหรับ The All New BMW 3 Series เก๋งหรูยอดนิยมจากเมืองมิวนิกที่ครองใจชาวไทยมายาวนานด้วยเทคโนโลยี และดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร แต่มีสาวกกลุ่มหนึ่งที่อยากได้ค่าตัวที่ย่อมเยาและออพชั่นที่มากกว่าจึงเป็นที่มาของการเผยเวเอร์ชั่นประกอบในประเทศ (CKD) นั่นเอง
จะว่าไปแล้ว The All New BMW 3 Series เวอร์ชั่นประกอบในประเทศ มีออพชั่นคล้ายๆกับเวอร์ชั่นนำเข้าแต่งานนี้ให้ออพชั่นที่มากกว่าในราคาที่ถูกลงกว่าเดิม 410,000-560,000 บาท ภายนอกเริ่มที่กระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ขึ้นในกรอบ พร้อมระบบ Active Air Flap แผ่นปิดด้านในกระจังหน้าไตคู่เจเนอเรชั่นล่าสุด และการจัดระเบียบทิศทางการไหลของอากาศผ่าน Air Curtains ที่ช่วยลดแรงเสียดทานอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมกับไฟหน้าคู่ LED ทรงเรียวยาวดีไซน์ใหม่พร้อมระบบส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง และไฟตัดหมอกหน้า LED รับกับช่องดักอากาศรูปทรง T เพิ่มความโดดเด่นให้แก่ด้านหน้าของรถ ด้านข้างของตัวรถโดดเด่นด้วยกรอบหน้าต่างดีไซน์แบบ Hofmeister Kink ออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกับเสา C-pillar มอบมิติ ไร้ขอบหรูหรายิ่งขึ้น พร้อมด้วยไฟท้ายดีไซน์รูปทรง L แนวนอนสีหม่นแบบสามมิติ และ ท่อไอเสียแบบคู่ให้ท้ายรถดูกว้างและสปอร์ตกว่าเดิม
พร้อมออพชั่นเฉพาะแตกต่างกันเริ่มที่รุ่น 320d M Sport มาพร้อม ล้ออัลลอย M ขนาด 18 นิ้วลาย Double Spoke พร้อมยาง 225/45 R18 และ ขนาด 19 นิ้ว ลาย Double Spoke พร้อมยาง พร้อมยาง 225/40 R19 ในล้อหน้า และ ยาง 255/35 R19 ในล้อหลัง ในรุ่น 330e M Sport หลังคาซันรูฟ แต่การตกแต่งโดยรวมเหมือนกันตั้งแต่ ชุดแต่ง M Aerodynamics ทั้งในส่วนด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลังของรถยนต์ กระจังหน้าทรงไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูได้ถูกออกแบบเป็นพิเศษบริเวณซี่กระจังหน้าไตคู่สีดำเงาและขอบช่องดักอากาศแบบสี Chrome เพิ่มความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น
มิติตัวรถเท่าเดิมในรหัส G20 ที่ตัวรถใหญ่ขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่ความยาว 4,709 มม. ความกว้าง1,827 มม. ความสูง 1,435 มม. ในรุ่น 320d และ 1,444 มม. ในรุ่น 330eฐานล้อ 2,851 มม. น้ำหนักรถ 1,530-1,740 กก.
ภายในเหมือนเวอร์ชั่นนำเข้าไม่ว่าจะเป็น คอนโซลดีไซน์คล้ายกับ BMW X5 รหัส G05 ตั้งแต่มาตรวัดขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว แบบ Control Display พร้อมจอสัมผัสตรงกลางคอนโซลหน้าทั้งขนาด 10.25 นิ้ว และจอเหนือแผงคอนโซลหน้า head-up display ในรุ่น 330 e เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ 3 โซน สะดวกสบายด้วยพื้นที่ด้านหน้าและด้านหลังที่กว้างขวางยิ่งขึ้นในรุ่น 330 e รวมถึงพื้นที่จุสัมภาระถึง 480 ลิตรในรุ่น 320 d และ 375 ลิตรในรุ่น 330 e หรูหราด้วยไฟ ambient light ระบบเครื่องเสียงคุณภาพจาก Harman Kardon ในรุ่น 330 e และลำโพง HiFi loudspeaker ในรุ่น 320 d
พร้อมออพชั่นสปอร์ตทั้ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหนังแท้ 3 ก้าน แบบ M ภายในตกแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียมลาย Mesheffect เพดานหลังคาภายในสี Anthracite และที่นั่งด้านหน้าแบบสปอร์ตในรุ่น 320 d ส่วนรุ่น 330 e พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหนังแท้ 3 ก้าน แบบ M คอนโซลด้านบนบุด้วยหนัง Sensatec ภายในตกแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียม Tetragon เพดานหลังคาภายในสี Anthracite ระบบการเชื่อมต่อ BMW ConnectedDrive เพื่อการเชื่อมต่ออย่างไรขีดจำกัด ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และฟังก์ชันสั่งงานระบบ iDrive ด้วยการเคลื่อนไหวมือ (BMW Gesture Control)
ขุมพลังยังคงเดิมจากตระกูล TwinPower Turbo ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ 2.0 ลิตร รหัส B47D20B 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 6.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic ระบบขับเคลื่อนล้อหลังระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันตามการหมุนและความเร็วแบบ Servotronic และช่วงล่าง M Sport ในรุ่น 320d
ส่วนรุ่น 330 e มาพร้อมขุมพลังใหม่เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร รหัส B48B20A 184 แรงม้าที่ 5,000-6,500 รอบ/นาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่ 1,350-4,000 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 113 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังมากสุด 292 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร ควบคู่กับประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นของแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน Gen 4 รุ่นใหม่ ที่มีขนาดความจุ 12 kWh
สามารถเพิ่มกำลังส่งในการเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นในโหมด SPORT เพียงเหยียบคันเร่งเพื่อกระตุ้นการทำงานของ XtraBoost และปลดปล่อยพละกำลังเสริมมากถึง 40 แรงม้า ภายในเวลาเพียง 10 วินาที ทำให้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic และระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
โหมดการขับขี่แบบ HYBRID ในรุ่น 330 e สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 110 กม./ชม. ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้า 30 กม./ชม. โดยใช้เพียงพลังงานไฟฟ้าก่อนสลับไปเป็นการใช้พลังงานเครื่องยนต์ ขณะเดียวกันในโหมด ELECTRIC ซึ่งเป็นโหมดการขับขี่แบบไร้มลพิษ สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 140 กม./ชม. มากกว่ารุ่นเดิมที่ทำได้ 120 กม./ชม. และยังได้ปรับปรุงอัตราการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าปลอดมลพิษให้มากกว่ารุ่นก่อน 50 เปอร์เซ็นต์ ในระยะทางขับขี่สูงสุดที่ 55-68 กิโลเมตร ยังลดการใช้อัตราการสิ้นเปลืองและการปล่อยมลพิษในโหมดขับขี่อื่น ๆ ได้มากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ระบบสร้างเสียงจำลองเพื่อให้ผู้ใช้ทางเท้าได้ยินจะถูกเปิดใช้ในขณะขับขี่ด้วยระบบพลังงานไฟฟ้าเพื่อส่งเสียงเตือนผู้ใช้ทางเท้าผ่านระบบลำโพงติดตั้งภายนอกรวมถึง ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันตามการหมุนและความเร็วแบบ Servotronic คาลิเปอร์เบรกแบบ M Sport เพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่ และช่วงล่าง Adaptive M
ระบบความปลอดภัยมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างระบบช่วยนำรถเข้าที่จอด (Parking Assistant) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control พร้อมฟังก์ชั่นช่วยลดความเร็ว เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) กล้องมองภาพรอบคันในรุ่น 330 e เซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลังกล้องมองภาพด้านหลังในรุ่น 320 d
ระบบ Driving Assistant ในรุ่น 330 e ประกอบด้วย ระบบเตือนเมื่อถออกนอกช่องจราจร Lane Departure Warning, ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Lane Change Warning, ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด Crossing-traffic Warning Rear, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ขณะถอยเข้าจอด Rear Collision Prevention ระบบอ่านป้ายจราจร Speed Limit Info and no-overtaking indicator
The All New BMW 3 Series เวอร์ชั่นประกอบไทย มี จำหน่าย 2 รุ่น พร้อมราคาใหม่รวมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard ดังนี้
-รุ่น 320d M Sport ราคาจำหน่าย: 2,549,000 บาท (ส่วนต่างจากรุ่นนำเข้า 410,000 บาท)
- รุ่น 330e M Sport ราคาจำหน่าย: 2,799,000 บาท (ส่วนต่างจากรุ่นนำเข้า 560,000 บาท)
ชม Gallery The All New BMW 3 Series CKD ได้ที่นี่!!
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com