The New Audi e-tron Sportback เอสยูวีสปอร์ตพลังไฟฟ้า 100% สุดพรีเมียม เริ่ม 5.299 ล้านบาท พร้อมส่งมอบภายในปีนี้
- โดย : Autodeft
- 15 ต.ค. 63 00:00
- 5,689 อ่าน
อาวดี้ ประเทศไทย ตอกย้ำจุดยืนในการเป็นผู้นำเทรนด์ยานยนต์ ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ก้าวไปอีกขั้นเปิดตัว “The New Audi e-tron Sportback” รถยนต์พลัง งานไฟฟ้า 100% โมเดลที่ 2 เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ชูจุดเด่นและความสมบูรณ์แบบทางเทคโนโลยีไฟฟ้า 100% ตอบรับกลยุทธ์ของ AUDI AG ที่กำหนดนิยามใหม่ของ “Vorsprung” ให้มีความทันสมัย สะท้อนจุดยืน ความพร้อม และบทบาทของแบรนด์ Audi สำหรับยุคยานยนต์
The New Audi e-tron Sportback 55 quattro S line รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในร่างเอสยูวีทรงสปอร์ตคูเป้ มาพร้อมสมรรถนะทรงพลัง อารมณ์สปอร์ต และแน่นอนความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมในการขับขี่โดยไม่สร้างมลภาวะให้กับโลก ออกแบบให้มีความล้ำสมัย สปอร์ต สมบูรณ์แบบ ภายใต้แนวคิดมุมมองใหม่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% โดยกระจังหน้าแบบคลาสสิกถูกอัพเกรดใหม่เป็น Single frame เส้นสาย รูปทรง สะท้อนเอกลักษณ์ของ Audi คือ ลุคสปอร์ต ขณะที่รูปทรงคูเป้ให้ความสง่า งามในแบบสปอร์ต เส้นสายมีความไดนามิก เพิ่มความแข็งแกร่งดุดัน โดดเด่นด้วยชุดแต่งภายนอกสไตล์สปอร์ต S line สปอยเลอร์หลังและขอบประตูอะลูมิเนียม กล้องแสดงภาพด้านข้าง (Virtual exterior mirrors) นวัตกรรมด้านความสะดวกสบายและความปลอดภัย จะมีจอแสดงผล OLED ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันควบคุมแบบสัมผัส ที่ติดตั้งบริเวณแผงประตูซ้าย-ขวา ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นภาพด้านข้างตัวรถที่ชัดเจนยิ่งขึ้นแม้อยู่ในสภาวะการเดินทางที่ไม่เอื้อ อำนวย
ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งภายในและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ผสมผสานดีไซน์ฟังก์ชัน เทคโนโลยีและลุคสปอร์ตพรีเมียมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกเรียบหรู กว้าง สะดวกสบาย และจากการผสานเทคโนโลยีในรูปแบบดิจิตัลอย่างลงตัว ทำให้ใช้งานง่าย จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว และจอควบคุมมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส พร้อมตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว เพียงปลายนิ้วสัมผัส รองรับการสั่งการด้วยการเขียนด้วยนิ้ว เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถืออย่างง่ายดายด้วย Audi smartphone interface ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ หลังคาเป็นแบบพาโนรามิคเลื่อน เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าให้บรรยากาศที่รื่นรมย์ด้วยแสงสว่างจากธรรมชาติ แพ็คเกจ “Interior S line” เบาะนั่งหุ้มหนัง Valcona คุณภาพสูง ให้ผิวสัมผัสที่ละเอียด เบาะนั่งคู่หน้าแบบ S Sports ตกแต่งแบบ diamond cut พร้อมสัญลักษณ์ S line พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันท้ายตัดหุ้มหนังแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ S line และ Paddle shift
The New Audi e-tron Sportback 55 quattro S line สมรรถนะสูง ทรงพลัง ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบไฟฟ้า (electric quattro) มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ให้พละกำลังสูงสุดถึง 300 กิโลวัตต์ หรือ 408 แรงม้า ระยะทางวิ่งสูงสุด 463 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟ หนึ่งครั้ง (อ้างอิงตามผลการทดสอบโดยใช้มาตรฐาน NEDC) การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่งผสมผสานกับระบบขับเคลื่อน quattro ไฟฟ้าทำให้ Audi e-tron Sportback 55 quattro S line ตอบสนองฉับไว ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ตื่นเต้น เร้าใจ และสนุกสนาน ขณะที่ความเงียบภายในห้องโดยสารให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม รื่นรมย์ เพลิดเพลิน ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และมีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (Recuperation) อย่างชาญฉลาด 2 รูปแบบ คือ ทั้งจากพลังงานจากการปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัว (Coasting) และพลังงานจากการเบรก (Braking)
รูปแบบที่ 1 พลังงานจากการปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัว ซึ่งมีวิธีการตั้งค่าการทำงานรูปแบบนี้ 2 วิธี คือ ตั้งค่าจากแป้น paddle shift ที่สามารถเลือกปรับได้ 3 ระดับ และผู้ขับขี่สามารถเลือกที่จะตั้งระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่โดยอัตโนมัติผ่านฟังก์ชัน Predictive efficiency assist (PEA) ในระบบ MMI ได้อีกด้วย จากการประมวลผลและควบคุมการเคลื่อนที่เชิงฟิสิกส์ ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความเร็วของรถได้จากการถอนเท้าออกจากคันเร่ง โดยที่ไม่ต้องเหยียบเบรกได้
รูปแบบที่ 2 พลังงานจากการเบรก (Braking) เมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกจะส่งผลให้เกิดพลังงานกลับเข้ามาในระบบการขับขี่ หากเหยียบเบรกที่ความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะสามารถนำพลังงานกลับเข้าไปได้สูงสุดถึง 300 Nm และ 220 Kw หรือคิดเป็นมากกว่า 70% ของกำลังที่มอเตอร์ผลิตได้ และการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ในรุ่น e-tron Sportback นี้ สามารถเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้มากถึง 30% ของระยะทางทั้งหมด
The New Audi e-tron Sportback 55 quattro S line สะท้อนวิสัยทัศน์ของอาวดี้ ที่ว่า “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% คืออนาคต” และสะท้อนปรัชญาพื้นฐาน “Vorsprung Durch Technik” ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยี นอกจากนี้ยังสะท้อนปรากฏการณ์สำคัญครั้งใหม่ยุคของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ออกแบบให้มีความปลอดภัยที่เหนือระดับ จุดศูนย์ถ่วงของรถที่ต่ำลง ทำให้เกาะถนนได้ดีขึ้น ขับขี่ได้คล่องแคล่ว แม่นยำ ขณะที่ Balance ของตัวรถ มีการออกแบบการจัดวางส่วนประกอบต่างๆ ของรถมาอย่างลงตัว ทำให้กระจายน้ำหนักได้อย่างสมดุล โดย Perfect balance อยู่ที่ 50:50 ในกรณีที่มีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมพิเศษ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ Glacier white metallic, Floret silver metallic, Mythos black metallic, Daytona grey pearl effect, Siam beige metallic และ Antigua blue metallic โดยมีราคาจำหน่ายที่ 5,299,000 บาท กำหนดส่งมอบตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 เป็นต้นไป
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com