All New Honda CR-V SUV เจนใหม่ ที่คุณจินตนาการได้ เริ่มต้น 1.399 ล้านบาท
- โดย : Autodeft
- 24 มี.ค. 60 00:00
- 48,859 อ่าน
กว่า 20 ปี ที่ Honda CR-V มาในฐานะ Compact SUV ยอดนิยมที่ได้รับการตอบรับอย่างดี รวมถึงความเด่นในด้านเทคโนโลยี ความสะดวกสบายและดีไซน์จนกวาดยอดขายในไทย และกลายเป็นต้นแบบให้กับรุ่นอื่นๆได้เฉิดฉายในตลาดอย่างเต็มภาคภูมิ ทั้งรุ่น HR-V และ BR-V
วันนี้ Honda สานต่อความสำเร็จด้วย Honda CR-V เจเนอเรชั่นที่ 5 ใหม่หมดด้วยการออกแบบทันสมัย แต่ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งแต่ กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูแบบ Honda’s Solid Wing Grille design เข้ามารับกับไฟหน้า LED สะกดทุกสายตาในทุกช่วงเวลากับไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Light – DRL) กันชนใหม่ดีไซน์แข็งแกร่งขึ้น บั้นท้ายมาพร้อมไฟท้ายดีไซน์รูปตัว L-shaped LED พร้อม ล้ออัลลอยสีทูโทน ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/60/R18 และ 17 นิ้ว พร้อมยาง 235/65 R17
มิติตัวรถใหม่หมดและใหญ่ขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่ ความยาว 4,571 มม. ความกว้าง 1,855 มม. ความสูง 1,657-1,667 มม.ฐานล้อ 2,660-2,662 มม.ความสูงใต้ท้องรถ 198-208 มม. และความจุถังน้ำมัน 57 ลิตร
ภายในมาพร้อมความใหญ่โอ่โถงด้วยเบาะนั่ง 3 ตอน 7 ที่นั่งสะท้อนความหรูหราผ่านเบาะหนังสีดำ แผงคอนโซลด้านหน้าขนาดใหญ่ที่ตกแต่งเส้นสายด้วยลายไม้และวัสดุสี Piano Black ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสามก้าน มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ระบบเพื่อความบันเทิง Advanced Touch infotainment มาพร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ 7 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Aut oมอบความสุนทรีย์ด้วยลำโพง 8 ตำแหน่ง รวมถึงเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ ซ้าย-ขวา i-Dual Zone ระบบเบรกมือไฟฟ้า Electric Parking Brake (EPB)
โดยมาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม อาทิ ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติแบบไฟฟ้าด้วยระบบแฮนด์ฟรี (Hands-free Power Tailgate) พร้อมควบคุมการเปิด-ปิดด้วยรีโมท และสามารถปรับระดับความสูงของการเปิดฝากระโปรงท้ายได้ตามต้องการ
เครื่องยนต์สำหรับตลาดไทยมีให้เลือกถึง 2 ขนาด และเป็นครั้งแรกของค่ายกับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ I-DTEC VGT ขนาด 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดแบบ ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วยสวิตช์ (Shift by Wire) ให้ทั้งอัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 18.9 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอัตราที่ต่ำเพียง 141 กรัม/กิโลเมตร พร้อมระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ในรอบเดินเบา (Idle Stop System)
เด่นด้วยระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ 2 จังหวะ (2-stage Turbocharger)ควบคุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่รวดเร็วและแม่นยำตอบสนองทั้งกำลังแรงบิดและอัตราเร่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกการขับขี่และช่วยในการตอบสนองต่ออัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจในช่วงรอบต้น อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน
การระบายความร้อนของไอดี (Intercooler) ระบบจะทำหน้าที่ระบายความร้อนของไอดีที่ถูกอัดมาจากการทำงานของเทอร์โบชารจ์เจอร์ซึ่งมีความร้อนสูงให้เย็นตัวลงก่อนที่จะผ่านเข้าห้องเผาไหม้ ทำให้มวลอากาศโดยรวมเล็กลง เพื่อนำอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ปริมาณที่มากขึ้น ทำให้การเผาไหม้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบหลายจุด (Multi Injection) จะทำงานแปรผันให้เหมาะสมกับรอบการทำงานของเครื่องยนต์ ช่วยในเรื่องอัตราประหยัดน้ำมันและลดการสั่นสะเทือนจากการทำงานของเครื่องยนต์
แถมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ระบบหมุนเวียนไอเสีย (Exhaust Gas Recirculation System - EGR) กับ ตัวกรองอนุภาคไอเสียดีเซล (Diesel Particulate Filter - DPF) ทำหน้าที่ดักจับเขม่าของน้ำมันที่ออกมากับไอเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าตัวกรองอากาศเขม่าทั่วไป ทำให้มั่นใจในการควบคุมการปล่อยไอเสีย
นอกจากนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน I-VTEC 2.4 ลิตร 173 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 224 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT เป็นทางเลือกสำหรับคนชอบความแรง และยังรองรับ E85 ได้
ระบบขับเคลื่อนนอกจากมีรุ่น 2WD แล้วยังแนะนำรุ่น 4WD มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Real-Time AWD ทำงานโดยเปลี่ยนการควบคุมการส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยระบบไฟฟ้า ตอบสนองการทำงานได้รวดเร็วพร้อมกับให้แรงบิดที่ล้อหลังสูงขึ้น อีกทั้งเพิ่มความแม่นยำของการปรับแรงบิดที่ล้อหน้าและล้อหลังให้สมดุล
มั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย อาทิ ระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (Driver Attention Monitor) ผ่านการควบคุมพวงมาลัยและแจ้งเตือนผ่านหน้าจอ TFT พร้อมการสั่นเตือนที่พวงมาลัย ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ (Agile Handling Assist) ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold) ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ Dual i-SRS ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbag และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags
Honda CR-V เจนใหม่ มีให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่สีขาวออร์คิด (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีใหม่ คือ สีเขียวดาร์กโอลีฟ (เมทัลลิก) และมีรุ่นย่อยดังนี้
- รุ่น 1.6 DT EL 4WD Diesel ราคา 1,699,000 บาท
- รุ่น 1.6 DT E Diesel ราคา 1,549,000 บาท
- รุ่น 2.4 EL 4WD Gasoline ราคา 1,549,000 บาท
- รุ่น 2.4 E Gasoline ราคา 1,399,000 บาท
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com