NEW TOYOTA COROLLA ALTIS MY24 ปรับลุคใหม่ในรุ่น HEV GR SPORT พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ทุกรุ่น Hybrid
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 5 พ.ย. 67 22:05
- 1,365 อ่าน
โตโยต้าเดินหน้าปรับทัพรถใหม่ MY2024 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดถึงคิวรถซีดานยอดนิยม TOYOTA COROLLA ALTIS ใหม่ ที่มีการเปลี่ยนลุคใหม่ในรุ่น HEV GR SPORT และเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เป็น Lithium-ion ในทุกรุ่น Hybrid ตั้งราคารุ่นเริ่มต้นเอาไว้ที่ 894,000 บาท
โดย NEW TOYOTA COROLLA ALTIS MY24 รุ่นที่มีการปรับปรุงมากที่สุด จะเป็นตัวท็อปสุดอย่าง HEV GR SPORT ที่เพิ่มความสปอร์ตเร้าใจยิ่งขึ้น ด้วยดีไซน์ทั้งภายนอก และภายในที่ตกแต่งสไตล์ TOYOTA GAZOO Racing โดยภายนอกมีการปรับใหม่ทั้ง กันชนหน้าและกระจังหน้าสีดำเงา ใหม่, หลังคาสีดำเงา ใหม่, สปอยเลอร์หลังสีดำเงา ใหม่, ล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว ใหม่, ไฟท้าย Full LED แบบ Clear Lens ใหม่ และสัญลักษณ์ TOYOTA HEV ใหม่
ภายในของ NEW TOYOTA COROLLA ALTIS HEV GR SPORT MY24 เสริมความเป็น GAZOO Racing อีกหลายอย่าง ทั้งเบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต หนัง Suede แบบเจาะรูและหนังสังเคราะห์ เดินด้ายสีแดง พร้อมสัญลักษณ์ GR ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง และ Lumbar Support แบบไฟฟ้า ใหม่, เข็มขัดนิรภัยสีแดงสไตล์ GR SPORT ใหม่, ภายในเดินด้ายสีแดง ตกแต่งสีแดงและสีเงิน Smoked Silver ใหม่ และพวงมาลัยตกแต่งสัญลักษณ์ GR ใหม่
ในส่วนของเครื่องยนต์ของ NEW TOYOTA COROLLA ALTIS HEV GR SPORT MY24 ถึงแม้จะยังคงใช้เครื่องยนต์ 2ZR-FXE ขนาด 1.8 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าและเกียร์ E-CVT ที่ให้กำลังรวมได้สูงสุด 122 แรงม้า แต่แบตเตอรี่ที่ใส่มานั้น จะเปลี่ยนเป็นแบบ Lithium-ion เหมือนที่ใช้บนรถไฟฟ้า EV ทั่วไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการปรับตั้งค่า Electric Power Steering พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ที่ปรับแต่งเฉพาะรุ่น GR SPORT อีกด้วย
ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ บน NEW TOYOTA COROLLA ALTIS HEV GR SPORT MY24 ที่มีความโดดเด่น ให้ความสะดวกสบายอยู่แล้ว เช่น ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Light Guiding, จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ HUD (Head Up Display), อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา, nanoeX ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารช่วยขจัดกลิ่นและยับยั้งเชื้อโรค, Smart Entry ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ สำหรับผู้ขับ ผู้โดยสารตอนหน้า และห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ, เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor) ก็ยังอยู่อย่างครบถ้วน
ส่วน NEW TOYOTA COROLLA ALTIS ในรุ่น HEV Premium มีการปรับเปลี่ยน Logo HEV ใหม่ และเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้เป็นแบบ Lithium-ion ด้วยเช่นกัน ส่วนอุปกรณ์อื่น เช่น ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Light Guiding, กระจังหน้าดีไซน์ Polygon และไฟตัดหมอกหน้า LED พร้อมคิ้วโครเมียม, ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว , หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ ได้ถึง 0 กม./ชม. (All Speed Dynamic Radar Cruise Control), ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ และระบบเบรกมือไฟฟ้า, ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ในกล่องเก็บของคอนโซลกลาง 1 ตำแหน่งและด้านหลัง 2 ตำแหน่ง, เบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์, เบาะนั่งด้านคนขับ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support แบบไฟฟ้า, เบาะนั่งด้านหลังแบบแยกพับได้ 60:40 พร้อมที่วางแขน และที่วางแก้วน้ำ, Smart Entry ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ สำหรับผู้ขับ ผู้โดยสารตอนหน้า และห้องเก็บสัมภาระตอนท้าย, เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor) ก็ยังมีอยู่ครบถ้วนเช่นเดิม
NEW TOYOTA COROLLA ALTIS รุ่น 1.8 Sport ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2ZR-FBE ขนาด 1.8 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ SUPER CVT-I 7 สปีด พร้อม Sequential Shift กำลังสูงสุด 140 แรงม้า มีการเพิ่มสีใหม่ เป็นสีเทา Cement Gray Metallic เข้ามาเสริมทัพ ส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ ก็ยังอยู่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น, ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Light Guiding, กระจังหน้าดีไซน์ Polygon และไฟตัดหมอกหน้า LED พร้อมคิ้วโครเมียม, ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ ได้ถึง 0 กม./ชม. (All Speed Dynamic Radar Cruise Control), ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ และระบบเบรกมือไฟฟ้า, ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ในกล่องเก็บของคอนโซลกลาง 1 ตำแหน่งและด้านหลัง 2 ตำแหน่ง, เบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์, เบาะนั่งด้านคนขับ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support แบบไฟฟ้า, เบาะนั่งด้านหลังแบบแยกพับได้ 60:40 พร้อมที่วางแขน และที่วางแก้วน้ำ, Smart Entry ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ สำหรับผู้ขับ ผู้โดยสารตอนหน้า และห้องเก็บสัมภาระตอนท้าย, เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor) เป็นต้น
และในรุ่นเริ่มต้นอย่าง NEW TOYOTA COROLLA ALTIS 1.6G ก็เสริมทัพด้วยสีใหม่อย่าง สีเทา Cement Gray Metallic ด้วยเช่นกัน มาพร้อมกับ, กระจังหน้าสีดำสไตล์สปอร์ต, ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ในกล่องเก็บของคอนโซลกลาง 1 ตำแหน่งและด้านหลัง 2 ตำแหน่ง, ช่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งด้านหลัง, เบาะนั่งด้านหลังแบบแยกพับได้ 60:40, กล้องมองภาพขณะถอยหลัง และสัญญาณเตือนกะระยะท้ายรถ, Smart Entry ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ สำหรับผู้ขับ ผู้โดยสารตอนหน้า และห้องเก็บสัมภาระตอนท้าย
NEW TOYOTA COROLLA ALTIS MY24 ประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการออกมาดังนี้
-
NEW TOYOTA COROLLA ALTIS MY24 รุ่น HEV GR SPORT ราคา 1,129,000 บาท
-
NEW TOYOTA COROLLA ALTIS MY24 รุ่น HEV PREMIUM ราคา 1,009,000 บาท
-
NEW TOYOTA COROLLA ALTIS MY24 รุ่น 1.8 SPORT ราคา 979,000 บาท
-
NEW TOYOTA COROLLA ALTIS MY24 รุ่น 1.6 ราคา 894,000 บาท
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com