Lamborghini Urus SE รถ SUV ขุมพลัง PHEV 800 แรงม้า พร้อมขายแล้วในเมืองไทย ในราคาเริ่มต้นที่ 24.98 ล้านบาท
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 17 พ.ค. 67 10:40
- 2,995 อ่าน
บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ลัมโบร์กินีอย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย เปิดตัว “Lamborghini Urus SE” รถใหม่ SUV ระบบ Plug-in Hybrid รุ่นแรกของลัมโบร์กินี เปิดให้จับจองเป็นเจ้าของได้แล้ว ในราคาเริ่มต้นที่ 24.98 ล้านบาท
Lamborghini Urus SE เป็นรถอเนกประสงค์ SUV รุ่นแรกของลัมโบร์กินี ที่ใช้ขุมพลังเป็นแบบ Plug-in Hybrid หรือ PHEV ที่ใช้ขุมพลังหลักเป็นเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร ที่สร้างพละกำลังได้สูงสุด 620 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ผนวกกำลังกับมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnet Synchronous Motor) ที่ให้พลังเพิ่มเติมอีก 192 แรงม้า แรงบิด 483 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 ทำให้รถใหม่ 2024 คันนี้ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ได้ในเวลาเพียง 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 312 กม./ชม.
Lamborghini Urus SE ติดตั้งแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ในความจุไฟฟ้าขนาด 25.9 kWh บริเวณใต้พื้นห้องเก็บสัมภาระด้านบนระบบเฟืองท้ายไฟฟ้า ทำให้รถคันนี้สามารถวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าล้วนได้ไกลสูงสุดที่ 60 กิโลเมตร มี 4 โหมดการขับขี่ที่แตกต่าง ผ่านแผงควบคุม “Tamburo” ที่ถูกติดตั้งบริเวณกลางคอนโซลเพื่อให้ผู้ขับสามารถเลือกโหมดการขับขี่ที่แตกต่างกันได้อย่างง่ายดาย และด้วยการใช้ระบบส่งกำลังแบบไฮบริด เมื่อรวมโหมดการขับขี่ของ Urus ทั้ง 6 แบบเข้ากับการทำงาน Electric Performance Strategies (EPS) แบบใหม่อีก 4 แบบ ทำให้นักขับมีตัวเลือกทั้งหมดมากถึง 11 ออปชัน โดยในรุ่นนี้ โหมดพื้นฐานทั้ง Strada, Sport, Corsa (สำหรับท้องถนนและสนามแข่ง) รวมถึง Neve, Sabbia และ Terra (สำหรับพื้นผิวที่มีการยึดเกาะที่แตกต่างจากพื้นยางมะตอย) จะสามารถทำงานร่วมกับออปชันระบบ EV Drive, Hybrid, Performance และ Recharge ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ดีไซน์ของ Lamborghini Urus SE สะท้อนถึงรูปทรงแบบพลศาสตร์ที่เน้นภาพลักษณ์ความเป็นรถสปอร์ตและความแข็งแกร่งบึกบึนได้อย่างโดดเด่น ส่วนหน้าหรูหราด้วยการออกแบบฝากระโปรงทรงใหม่แบบ Floating Design โดยลบเส้นสายที่เป็นตัวแบ่งส่วนต่าง ๆ ทิ้งไปเพื่อเสริมความรู้สึกลื่นไหลต่อเนื่องและเน้นย้ำถึงรูปทรงแบบนักกีฬา ชุดไฟหน้าที่ใช้เทคโนโลยี Matrix LED ซึ่งเป็นดีไซน์ซิกเนเจอร์ใหม่ล่าสุดที่มีแรงบันดาลใจมาจากหางวัวกระทิงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ลัมโบร์กินีนั่นเอง ตลอดจนการออกแบบส่วนกันชนท้ายและตะแกรงหน้าใหม่ในทุกรายละเอียด
การออกแบบส่วนท้ายให้ความสำคัญกับช่วงกว้าง ตกแต่งด้วยดิฟฟิวเซอร์แบบใหม่และปรับช่องติดป้ายทะเบียนรถให้มีระดับต่ำลง ดีไซน์ตะแกรงหลัง นำแรงบันดาลใจมาจากรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตของลัมโบร์กินีอย่าง Gallardo สำหรับการออกแบบห้องโดยสารภายในยังคงสืบทอดปรัชญา “Feel like a pilot” เพื่อยกระดับปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักขับและระบบดิจิทัลภายใน
การตกแต่งภายในได้รับการอัพเดตใหม่ เพื่อขับเน้นดีไซน์ระดับซิกเนเจอร์ “Feel like a pilot” อันเป็นเสมือนดีเอ็นเอของลัมโบร์กินี โดยนำเสนอฟีเจอร์ใหม่มากมายบริเวณแผงหน้าปัดด้านหน้าและยกระดับภาพลักษณ์รถยนต์น้ำหนักเบาเหมือนกับในรุ่น Revuelto
หน้าจอขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วซึ่งใหญ่กว่ารุ่นเดิม ถูกติดตั้งไว้บริเวณกลางแผงหน้าปัดและมอบการแสดงผลกราฟิก Human Machine Interface (HMI) เวอร์ชั่นใหม่ที่ใช้งานได้ง่ายดายและเป็นธรรมชาติมากขึ้นเหมือนที่พบได้ในรุ่น Revuelto ทีมนักออกแบบ Lamborghini Centro Stile ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบท่อลม โดยตกแต่งด้วยวัสดุอลูมิเนียมเคลือบผิวในรูปทรงตัว “Y” อันเป็นเอกลักษณ์ และยังหุ้มส่วนบานตกแต่ง แผงหน้าปัด เบาะนั่งด้วยวัสดุใหม่ นอกจากนี้ ยังออกแบบแผงปุ่มกดแบบกลไกเพื่อให้ได้สัมผัสของการกดที่สมจริง
ผู้ขับยังสามารถใช้งานทั้งแผงควบคุมรวมแบบดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และจอทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้วที่กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งถูกรวมเข้าไว้ด้วยกันตรงกลางแผงหน้าปัดและยังเป็นเสมือนหัวใจหลักของระบบ Lamborghini Infotainment System (LIS) นอกจากนี้ ยังนำเสนอระบบวัดระยะสำหรับรุ่น SE และจอแสดงผลแบบใหม่ที่ทำงานสัมพันธ์กับระบบช่วยขับต่าง ๆ ช่วยให้ผู้ขับสามารถรับรู้สภาวะรอบด้านได้ดียิ่งขึ้น
Lamborghini Urus SE เปิดให้ชาวไทยได้จับจองเป็นเจ้าของได้แล้ว ในราคาเริ่มต้นที่ 24.98 ล้านบาท
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com