2022 Nissan Terra Big Minorchange พีพีวีหรูใหม่ เท่ใหม่สำหรับครอบครัว เริ่ม 1.199 ล้านบาท
- โดย : Autodeft
- 19 ส.ค. 64 00:00
- 7,215 อ่าน
ในที่สุด ประเทศไทย เป็นที่ๆสองต่อจากกลุ่มตะวันออกลางในการเปิดตัวที่สุดพีพีวีอัจฉริยะหน้าใหม่ หล่อใหม่ หรูใหม่ ที่งานนี้เปลี่ยนแปลงจนแทบไม่เหลือภาพจำเดิมๆ ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้กับ Nissan Terra Big Minorchange
Nissan Terra Big Minorchange พีพีวีอัจฉริยะปรับครั้งใหญ่ในรอบ 3 ปี เปลี่ยนดีไซน์ด้วยความละเอียดประณีต ถึงแม้จะพัฒนาตามแนวคิด “Unbreakable Design” ที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง ให้ความรู้สึกที่หรูหราด้วยกระจังรูปตัววี หรือ V Motion ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เส้นโครเมียมแนวนอนด้านในกระจังช่วยเสริมบุคลิกที่หรูหรา รับกับเส้นสายที่ต่อเนื่องจากฝากระโปรง เสริมแผ่นกันกระแทกด้านล่างที่เป็นสีเงินรับกับกันชนหน้าดีไซน์ใหม่เป็นหนึ่งเดียวพร้อมไฟตัดหมอกแบบ LED ล้อมด้วยกรอบโครเมี่ยมขนาดใหญ่ เท่ด้วยไฟหน้า Quad LED 4 ดวง ดีไซน์ใหม่ ประสิทธิภาพสูงให้ความสว่างมากขึ้นถึง 34% พร้อมไฟ DRL LED ในโคมเดียวกัน ล้ออัลลอยลายใหม่สีทูโทนปัดเงา 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/60 R18 ด้านท้ายดีไซน์ใหม่ด้วยคิ้วโครเมี่ยมขนาดใหญ่เหนือโลโก้ Nissan ไฟท้าย LED แบบ Light Guide เส้นคู่ ให้ความรู้สึกล้ำสมัย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เสาอากาศครีบฉลาม สปอยเลอร์หลังใหม่ ราวหลังคาสีเงิน ติดตั้งช่องระบายอากาศทรงเดียวกับคู่แข่งจากแดนมะกัน ติดตั้งซ้าย-ขวา บังโคลน และใหม่ ฝาประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์ด้านใต้กันชนหลัง (Auto Lift Gate) เพื่อความสะดวกในการเปิด-ปิด เพียงแค่ยื่นเท้าเข้าหาบริเวณกึ่งกลางของกันชน โดยไม่ต้องสัมผัสสวิตช์ที่ประตู ระบบป้องกันการหนีบเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
ในการปรับปรุงครั้งนี้ทำให้ตัวรถมีมิติที่ใหญ่ขึ้นด้วยความยาว 4,890 มม. ความกว้าง 1,865 มม. ความสูง 1,865 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. ระยะความสูงใต้ท้องรถ 225 มม. รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร
ภายในเปลี่ยนใหม่หมดด้วยแผงคอนโซลหน้าที่ลืมของเก่าไปได้เลยพร้อมให้เลือก 2 โทนสีทั้ง สีดำ-แดงเบอร์กันดี (Burgundy) หรือ โทน สีดำ-เบจ แต่ยังมีจุดเด่นกับห้องโดยสารขนาดใหญ่ 7 ที่นั่งสามารถพับเบาะใช้งานได้หลายรูปแบบ โดยเฉพาะเบาะนั่งตอน 2 มาพร้อมระบบพับเบาะอัตโนมัติ (1-Touch Remote Fold and Tumble Seats) สามารถสั่งการได้จากตำแหน่งผู้ขับ แค่เพียงการกดที่ปุ่มเดียว เย็นสบายด้วยเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมแอร์บนหลังคาและหลังกล่องคอนโซลกลาง มาตรวัดเรืองแสงใหญ่หน้าจอสีแสดงผลสามมิติแบบ TFT ความละเอียดสูง ขนาด 7 นิ้วพร้อมจอแสดง Off-Road Meter จอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว อินโฟเทนเมนท์ความละเอียดที่สูงขึ้นกว่าเดิมที่ระดับ WXGA (1024x768) Nissan Connect เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกับรถได้อย่างราบรื่น ฟังเพลงผ่าน Bluetooth, ระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Recognition) พร้อมระบบนำทาง (Navigation system) และ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto หน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ 11 นิ้วบนเพดาน สามารถสตรีมมิ่งช่องโปรด เช่น NetFlix และ YouTube ผ่านช่อง HDMI ได้อย่างง่ายดาย พร้อมช่องชาร์จไฟที่ช่วยให้ความบันเทิงไม่มีสะดุดตลอดการเดินทาง พร้อมลำโพงคุณภาพจาก Bose 8 จุด และช่องชาร์จ USB สำหรับผู้โดยสารแถวทีสาม โดยทั้งคันมี USB-A 3 จุด และUSB-C 2 จุด รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ และการชาร์จแบตเตอรี่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ดีไซน์ท้ายตัดหุ้มหนัง
ใหม่ด้วย คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่ปลี่ยนมาใช้เบรกมือไฟฟ้า (เฉพาะรุ่น VL 2WD และ VL 4WD) เพิ่มพื้นที่ใช้สอยบริเวณคอนโซลกลาง รวมถึงสามารถเพิ่มพื้นที่ที่วางแขนพร้อมช่องเก็บของที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เทคโนโลยีชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger) ให้กำลังการชาร์จไฟสูง 15 วัตต์ ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลหน้า เพียงแค่วางสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ที่รองรับก็สามารถชาร์จได้ทันที พร้อมไฟแสดงสถานะการชาร์จตลอดเวลา หมดปัญหาเรื่องพกพาสายชาร์จ หรือช่องชาร์จแบบ USB ไม่เพียงพออีกต่อไป
เพิ่มฉนวนลดเสียงรบกวนทุกจุดสำคัญของโครงสร้างของรถ และเป็นรุ่นเดียวในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ระดับเดียวกันที่มีการติดตั้งกระจกตอนหน้าและประตูคู่หน้าแบบ Acoustic Glass เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก ผู้โดยสารจึงสัมผัสได้ถึงความเงียบสบายในห้องโดยสารอย่างแท้จริงและ เทคโนโลยี Intelligent Rear View Mirror ติดกล้องความละเอียดสูงที่กระจกบานหลัง ให้จุดเด่นด้านความปลอดภัยตลอดการขับขี่ เสริมทัศนวิสัยที่ดีขึ้นในทุกสภาพอากาศ สามารถปรับมุมมองได้ตามความต้องการของผู้ขับ เพิ่มความชัดเจนแม้มีผู้โดยสารตอนหลัง
Nissan Terra Big Minorchange สเปกไทยยังเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ รหัสYS23DDTT 190 แรงม้าที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที ทั้ง 2 ความแรงจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด โดยเลือกได้ทั้งรุ่น 2WD ยกสูง กับ 4WD พร้อม 4WD-DIFF lock และระบบป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD) เสริมยางกันกระแทกที่ติดตั้งระหว่างตัวถัง และแชสซีส์มากถึง 10 จุด ภายในห้องโดยสารจึงมีความเงียบและนุ่มนวลเหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ 5 ลิ้งค์ (5-Link) พร้อมคอยล์สปริง ลดการสะเทือนได้มาก และช่วยให้หน้ายางสัมผัสพื้นถนนเต็มที่ตลอดเวลา พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ (เฉพาะรุ่น VL 2WD และ VL 4WD)
360° Safety Shield เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน มั่นใจได้ทุกสถานการณ์ แบบ 360 องศา ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (Intelligent Forward Collision Warning - IFCW) เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Intelligent Emergency Braking – IEB) ระบบเตือนคนขับอัจฉริยะ (Intelligent Driver Alertness) เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง (Lane Departure Warning) เทคโนโลยีควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ (Intelligent Lane Intervention) เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning-BSW) เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) ที่ทำงานควบคู่กับ เทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน (Moving Object Detection – MOD) ช่วยให้เห็นอุปสรรครอบคันขณะขับขี่ลุยไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ ในรุ่น VL 4WD เพิ่มระบบ Off-Road Mode เมื่อเปิดระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งช่วยเพิ่มมุมมองรอบตัวรถขณะขับขี่ให้คุณมั่นใจและปลอดภัย แม้ในทางที่ลำบาก รวมถึงการทำงานร่วมกับ Parking Sonar ที่ติดตั้งเซนเซอร์ที่กันชนหน้า 4 จุด และกันชนหลัง 4 จุด เมื่ออยู่ในเกียร์ D และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 10 km/h ทันทีที่เซนเซอร์ตรวจพบวัตถุ จะส่งเสียงเตือนและระบบ IAVM จะแสดงภาพโดยอัตโนมัติที่หน้าจอเครื่องเสียง เพิ่มทัศนวิสัยให้ผู้ขับขี่ ลดข้อจำกัดสำหรับรถยนต์ที่มีความสูงได้เพิ่มมากขึ้น เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA) เทคโนโลยีเตือนผู้ขับขี่เมื่อรู้สึกถึงการขาดสมาธิหรือเหนื่อยล้า(Intelligent Driver Alertness - IDA)
พร้อมระบบความปลอดภัยพิ้นฐานทั้ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VDC) พร้อมเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป (LSD) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) จุดยึดที่นั่งเด็กสำหรับเบาะหลัง ISOFIX ถุงลมนิรภัย 6 จุด รวมใต้เข่าคนขับ กระจกมองหลังอัจฉริยะ (Smart Rear View Mirror) ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นทัศนวิสัยด้านหลัง เทคโนโลยีตรวจสอบแรงดันลมยาง TPMS คอยตรวจวัดแรงดันลมยางของล้อทั้งสี่ล้อ และแจ้งเตือนเมื่อแรงดันลมยางเกิดการเปลี่ยนแปลง ช่วยยืดอายุการใช้งานของตัวยาง และยังช่วยป้องกันความปลอดภัยได้อีกระดับ และระบบล็อกความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
Nissan Terra Big Minorchange พร้อมแล้วที่จะนำเสนอสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สีได้แก่ สีขาว ไวท์ เพิร์ล (White Pearl), สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเวอร์ (Brilliant Silver), สีดำ แบล็ค สตาร์ (Black Star), และสีเทา ทไวไลท์ เกรย์ (Twilight Gray) ขณะที่รุ่น VL (VL 2WD และ VL 4WD) มีสีพิเศษเพิ่ม ได้แก่ สีแดง คูลีส์ (Coulis Red) และสีทองแดง ฟอร์จ คอปเปอร์ (Forged Copper) พร้อมทางเลือกของการตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบทูโทน ทั้งโทน สีดำ-แดงเบอร์กันดี (Burgundy) หรือ โทน สีดำ-เบจ (เฉพาะรุ่น VL 2WD และ VL 4WD) และจำหน่าย 3 รุ่นย่อยดังนี้
- 2.3 E 2WD 7AT ราคา 1,199,000 บาท (ลงจากรุ่นเดิม 100,000 บาท)
- 2.3 VL 2WD 7AT ราคา 1,449,000 บาท (เพิ่มจากรุ่นเดิม 100,000 บาท)
- 2.3 VL 4WD 7AT ราคา 1,499,000 บาท (เพิ่มจากรุ่นเดิม 40,000 บาท)
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com