ยลโฉมจริง!! Toyota Yaris ATIV MY2021 มาดใหม่เก๋งอีโคคาร์สุดสมาร์ท สุดเท่ ในราคาเดิมเริ่ม 539,000 บาท
- โดย : Autodeft
- 21 ก.ย. 64 00:00
- 10,455 อ่าน
นอกจากแนะนำรุ่นยกสูงแต่งพิเศษ Toyota Yaris X-Urban แล้ว รุ่นปกติอย่าง Toyota Yaris ATIV เก๋งเล็กยอดนิยมขวัญใจคนเมืองก็มีการปรับเปลี่ยนเช่นกัน ตอบโจทย์ความทันสมัย ตอบโจทย์ความเท่อย่างเต็มรูปแบบโฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์ใหม่ มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและฟังก์ชันความปลอดภัยที่ครบครัน
Toyota Yaris ATIV รุ่นปรับปรุงใหม่ หรือ MY2021 มีการปรับเปลี่ยนไม่มากเริ่มที่ภายนอกสปอร์ต พรีเมียม ด้วยกระจังหน้าด้านบนสีดำเงาใหม่ วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอกใหม่ สเกิร์ตด้านข้างซ้าย-ขวาใหม่ (เฉพาะรุ่น Sport Premium / Sport) และสเกิร์ตด้านหลัง ออกแบบใหม่ (เฉพาะรุ่น Sport Premium / Sport) สปอยเลอร์หลังใหม่ (เฉพาะรุ่น Sport Premium / Sport) ตลอดจนล้ออัลลอยปัดเงาลายเดิมแต่ตกแต่งใหม่สีดำตกแต่งด้วยขอบสีเงินขนาด 15 นิ้วพร้อมยาง 185/60R15 (เฉพาะรุ่น Sport Premium) บนพื้นฐานเดิมทั้งไฟหน้า LED แบบมัลติรีเฟลกเตอร์ พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบ Follow-Me-Home พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Light Guiding ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED เพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ให้ ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding เท่ห์ในทุกมิติ มีสไตล์ในทุกมุมมองและตลอดจนล้ออัลลอยลายเดิมและกระทะล้อพร้อมฝาครอบล้อขนาด 15 นิ้วพร้อมยาง 185/60R15
ภายในได้ปรับแบบ Soft Touch หุ้มหนังชนิดนุ่มพิเศษ สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่หลากหลายพวงมาลัยหุ้มหนังนุ่มพิเศษตกแต่งด้วยด้ายสีเทา (เฉพาะรุ่น Sport Premium / Sport) พร้อมออพชั่นเดิมทั้งช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB 2 ช่อง สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ที่ปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ มาตรวัดเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว หน้าจอสัมผัสขนาด 6.7 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay เบาะหนังและหนังสังเคราะห์ พร้อมเบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต หรูหราทุกสัมผัส รองรับทุกสรีระของผู้ขับขี่ ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry และระบบสตาร์ทอัจฉริยะ Push Start
ขุมพลังยังคงเดิมกับเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-IE ขนาด 1.2 ลิตร รหัส 3NR-FKE ให้กำลังสูงถึง 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อมฟังก์ชัน S Mode ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ อัตราเร่งที่ดีขึ้น มั่นใจทุกการเร่งแซง รองรับพลังงานสูงสุด E20 และ ระบบความปลอดภัยครบครันเช่นเดิมทั้ง ถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบคัน ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ระบบเบรก ABS ระบบกระจายเบรก EBD พร้อมชุดซ่อมยางฉุกเฉิน และกล้องมองหลัง ด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน “Fun-To-Drive” เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน มาพร้อมสีภายนอกตัวรถให้เลือก 10 สี ดังนี้
ใหม่...สีขาวมุกหลังคาดำ Platinum White Pearl with Black Roof* (เฉพาะรุ่น Sport Premium) ใหม่...สีน้ำเงินหลังคาดำ Grayish Blue Metallic with Black Roof (เฉพาะรุ่น Sport Premium) ใหม่...สีแดงหลังคาดำ Red Mica Metallic with Black Roof (เฉพาะรุ่น Sport Premium)
สีขาวมุก Platinum White Pearl (เฉพาะรุ่น Sport Premium) สีน้ำเงิน Grayish Blue Metallic (เฉพาะรุ่น Sport / Entry) สีแดง Red Mica Metallic (เฉพาะรุ่น Sport / Entry) สีเงิน Silver Metallic สีเทา Gray Metallic สีดำ Attitude Black Mica สีขาว Super White II (เฉพาะรุ่น Sport / Entry) พร้อมราคาที่ไม่มีการปรับราคาเพิ่มดังนี้
- Sport Premium (Two-Tone) เกียร์อัตโนมัติ ราคา 679,000 บาท
- Sport Premium เกียร์อัตโนมัติ ราคา 674,000 บาท
- Sport เกียร์อัตโนมัติ ราคา 599,000 บาท
- Entry เกียร์อัตโนมัติ ราคา 539,000 บาท
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com