2021 Mazda CX-5 Improvement เอสยูวีปรับปรุงใหม่ หล่อหรูสมาร์ทขึ้นในราคาใหม่ เริ่ม 1.32 ล้านบาท

ในที่สุด Mazda เปิดตัว Mazda CX-5 รุ่นปรับปรุงใหม่ หรือ MY2021 เอสยูวีมาดใหม่ที่เพิ่มความเร้าใจใหม่ พร้อมออพชั่นใหม่ในราคาเร้าใจมากขึ้น แต่ยังคงอัดแน่นกับเทคโนโลยี SKYACTIV ทั้งคัน

รถยนต์ใหม่ 2021 อย่าง Mazda CX-5 MY2021 ยังคงใช้หน้าตาเดิมตั้งแต่กระจังหน้าทรง Signature Wing พร้อมกรอบกระจังหน้าโครเมี่ยม ไฟหน้า Projector ทรงเรียวแบนแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน Daytime Running Light เปิด-ปิด และปรับระดับสูง-ต่ำ แบบอัตโนมัติ *ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS (*ยกเว้นรุ่น 2.5 Turbo SP) กันชนหน้าหรูหราแฝงสปอร์ตพร้อมไฟตัดหมอก LED ด้านท้าย ดีไซน์ดูเรียวขึ้นอย่างชัดเจน ฝาท้ายหลังดีไซน์สง่างาม รวมไปถึงแนวกันชนชายขอบด้านล่างที่ไม่สูงขึ้นมาพร้อม ไฟท้าย LED Signature ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 225/55 R19 ที่ให้เลือกถึง 2 ลาย และ ขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 225/65 R17

ภายในคงเดิมแต่เพิ่มออพชั่นใหม่ให้ทันสมัยด้วย ใหม่!! หน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีนใหม่ ขนาด 8 นิ้ว ให้ทุกรุ่นแทนแบบเดิม 7 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander ปุ่มควบคุมอัจฉริยะที่หรูหราและจัดวางในตำแหน่งที่ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น *เติมเต็มความเพลิดเพลินตลอดการเดินทางด้วยระบบเสียง Bose@ รอบทิศทาง 10 จุด (*ยกเว้นรุ่น 2.0 S) รวมถึงการเชื่อมต่อการสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดผ่านระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay® และระบบ Android Auto™ *พร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า Head Up Display แบบ Windshield Active Driving Display ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนนเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น (*ยกเว้นรุ่น 2.0 S กับ 2.0 SP)

ตกแต่งภายในของยังความหรูหรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พิถีพิถันในทุกรายละเอียดเสมือนงานทำมือ และให้ผิวสัมผัสอย่างประณีต โดยการคัดสรรเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยมในทุกจุดสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำตาล และใช้วัสดุตกแต่งภายในแบบ Real Wood และสีเงินซาตินโครม หรือเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำตาลเข้ม ในรุ่น 2.5 Turbo SP ที่เพิ่มความหรูหราและสะท้อนไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้ขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม *สร้างบรรยากาศที่หรูหราด้วยหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า (*ยกเว้นรุ่น 2.0 S กับ 2.0 SP) และไฟส่องสว่างที่ได้รับการออกแบบติดตั้งในหลายตำแหน่ง ติดตั้ง POWER LIFTGATE ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ให้คุณจัดเก็บสัมภาระได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น สามารถเปิด-ปิดได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส

พร้อมอพชั่นประจำรถทั้ง ระบบเบรกมือไฟฟ้าระบบ Auto Hold *เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า และระบบบันทึกตำแหน่งสำหรับเบาะนั่งคนขับ (*ยกเว้นรุ่น 2.0 S) *มาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอล พร้อมจอแสดงผลแบบสีขนาด 7 นิ้ว MID (*ยกเว้นรุ่น 2.0 S) กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ช่อง USB สำหรับชาร์จไฟด้านหน้า 2 ช่อง และด้านหลังอีก 2 ช่อง ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS และตัดช่องใส่ CD/DVD ออกไป

สำหรับสเปกไทยยังคงเดิมกับ 3 ขุมพลังแรงในตระกูล SKYACTIV เริ่มที่ เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G Turbo 2.5 ลิตร รหัส PY-VPTS โดยให้กำลังสูงสุด 231 แรงม้าที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ SKYACTIV-D มีระบบเทอร์โบแปรผันแบบ 2 ชั้น ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อให้การตอบสนองที่รวดเร็วกว่าเดิมในทุกรอบความเร็ว ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นในรหัส SH-VPTS ขนาด 2.2 ลิตร 190 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด โดยทั้งรุ่น 2.5 Turbo และ 2.2 Diesel Turbo มีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ i-Activ all-wheel drive และเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร รหัส PE-VPS 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 210 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที มีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive 6 สปีด

ระบบช่วงล่างพัฒนาเพื่อให้ตอบสนองดียิ่งขึ้น และเพิ่มระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูงหรือ GVC Plus ช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้แม่นยำ มีสมดุล โดยเฉพาะในทางโค้ง รวมไปถึงสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น พร้อม ระบบความปลอดภัย -ACTIVSENSE เทคโนโลยีเพื่อคุณและคนสำคัญ อัดแน่น จัดเต็ม ตั้งแต่

- LAS (Lane-keep Assist System) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในกรณีที่ตรวจพบ การเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะส่ง สัญญาณเตือนหรือเตือนโดยการสั่นที่พวงมาลัย และช่วยปรับทิศทางพวงมาลัยให้รถกลับเข้าสู่เลน

- DAA (Driver Attention Alert) ไฟสูงไม่รบกวนรถคันที่วิ่งสวนมา ระบบจะขึ้นสัญลักษณ์เตือนที่หน้าจอ

- LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบจะส่ง สัญญาณเตือนไฟกะพริบบนหน้าปัด พร้อมส่งเสียง เตือน เมื่อตรวจพบการเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ ตั้งใจ

- MRCC (Mazda Radar Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ระบบจะทำการปรับลดความเร็วลงตามความเร็วของรถคันหน้าและรักษาระยะห่างกับรถคันหน้าให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ (Cruise Control ธรรมดา มีเฉพาะรุ่น 2.0 S)

- RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (ยกเว้นรุ่น 2.0 S)

- ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลนช่วยให้ผู้ขับปลอดภัยขณะเปลี่ยนเลน (ยกเว้นรุ่น 2.0 S)

- SBS (Smart Brake Support) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจาก การชนรถคันหน้า ระบบจะส่งสัญญาณเตือนและเสียง เตือนอย่างต่อเนื่อง

- Advanced SCBS (Advanced Smart Brake Support) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advanced หากระบบตรวจสอบพบว่า ไม่สามารถเลี่ยงการชนได้ 

- SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง ช่วยลด ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการชนขณะขับถอยหลังด้วยความเร็วต่ำ

- ALH (Adaptive LED Headlamps) ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับการทํางานของไฟ สูง - ต่ำ แยกอิสระ ซ้าย - ขวา โดยอัตโนมัติ ให้เหมาะสม กับสภาพถนน

ทุกรุ่นมาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus กุญแจนิรภัย สัญญาณกันขโมย และระบบล็อกและปลดล็อกประตูอัตโนมัติ กล้องมองหลัง ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 ตำแหน่ง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารยิ่งขึ้น ระบบ DSC (Dynamic Stability Control) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว กระจกมองหลังระบบตัดแสงอัตโนมัติ ให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ชัดเจนยิ่งขึ้น ระบ HLA (Hill Launch Assist) ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะขณะถอยหลัง ระบบ ESS (Emergency Signal System) สัญญาณไฟกะพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกรถในภาวะฉุกเฉิน ระบบ ABS 4 ล้อ พร้อม EBD ช่วยกระจายแรงเบรก และระบบแสดงภาพ 360 ̊ รอบทิศทาง (ยกเว้นรุ่น 2.0 S)

เอสยูวีมาดใหม่ที่มาพร้อมแนวคิดใหม่ “พลังความสุข ที่เร้าใจทุกเส้นทาง” หนึ่งในตระกูลเอสยูวี ที่จะเข้ามาเติมเต็มการใช้ชีวิตให้ก้าวไปสู่ความเป็นที่สุด มีให้เลือก 6 สี ประกอบด้วย สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal), สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray), สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl), สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue), สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black) และสีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver) และมีราคาจำหน่ายดังนี้

- รุ่น 2.0 S ราคา 1,320,000 บาท (ลดลงจากเดิม 90,000 บาท)

- รุ่น 2.0 SP ราคา 1,470,000 บาท (ลดลงจากเดิม 90,000 บาท)

- รุ่น 2.2 XDL AWD ราคา 1,770,000 บาท (ลดลงจากเดิม 20,000 บาท)

- รุ่น 2.5 Turbo SP AWD ราคา 1,830,000 บาท (ลดลงจากเดิม 20,000 บาท)

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com