2021 New Audi RS 5 Coupé quattro คูเป้สายฮาร์ดคอร์จากเยอรมันพกพลังโหด 450 แรงม้าเริ่ม 5.99 ล้านบาท
- โดย : Autodeft
- 5 มี.ค. 64 00:00
- 7,765 อ่าน
นับเป็นค่ายรถยนต์ที่ส่งรถรุ่นใหม่แบบไม่ขาดสายสำหรับ Audi ค่ายรถหรูจากเยอรมนี หลังจากเปิดตัว New Audi TT ,Audi Q3 quattro และ Audi RSQ3 เพื่อตอบรับความต้องการของสาวกรถหรู และล่าสุดส่งยานยนต์ลำดับล่าสุดจากตระกูล RS Model มาเพิ่มความต้องการอย่างไม่มีขีดจำกัดนั่นคือ New Audi RS 5 Coupé quattro
New Audi RS 5 Coupé quattro เติมความโหดเข้มทั้งคัน สะดุดตาเมื่อแรกเห็น ตั้งแต่กระจังหน้าแบบ Single frame ที่ถูกปรับให้กว้างขึ้น ด้วยดีไซน์แบบ pure and clean ตามการออกแบบของรุ่นพี่อย่าง RS 6 และ RS 7 ขณะที่ช่องระบายอากาศเหนือกระจังหน้าถูกออกแบบให้มีความรู้สึกคลาสสิก ซุ้มล้อที่กว้างขึ้น 15 มม. (1.6 นิ้ว) มาพร้อมล้ออัลลอยสีดำ EVO design ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 275/30R20 พร้อมตกแต่งคาลิปเปอร์เบรกด้วยสีแดงสะดุดตากับไฟหน้า Matrix LED ไฟเลี้ยวแบบ dynamic สามารถปรับลำแสงส่องสว่างตามสภาพการขับขี่อัตโนมัติเพื่อให้ความสว่างสูงสุดอย่างต่อเนื่องโดยไม่รบกวนรถที่วิ่งสวนมา เพิ่มความดุดันมากยิ่งขึ้นด้วยการตกแต่งด้วยแถบข้าง air intake สีดำที่ส่วนปลายของโคมไฟหน้าหลัง เสริมให้มีความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยโลโก้หน้า-หลังสีดำ สปอยเลอร์ท้ายรถ Ducktail พร้อมทั้งกระจกมองข้าง รวมถึงกระจกหน้าต่างล้วนเป็นสีดำ ท่อไอเสียแบบ RS สปอร์ต ขอบข้างแผ่นดิฟฟิวเซอร์ที่ส่วนท้ายซึ่งล้อมรอบท่อไอเสียขนาดใหญ่สองท่อถูกปรับดีไซน์ใหม่ สีดำเงา หลังคาพาโนรามิคขนาดใหญ่ และตกแต่งหลังคาด้านนอกด้วยสีดำ Mythos black metallic บริเวณส่วนท้ายของหลังคาจรดกระจกบังลมด้านหลัง ช่วงล่างจัดเต็มด้วยการปรับจูนแบบ RS สปอร์ต เพื่อการขับขี่ไดนามิก
ภายในออกแบบให้ก้าวล้ำแบบ Touch instead of turn เพื่อให้ทุกการขับขี่ เต็มไปด้วยความมั่นใจ สนุกสุดมันส์ในทุกเส้นทางอย่างแท้จริง พวงมาลัยท้ายตัดหุ้ม Alcantara เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ มือจะไม่ลื่นจากพวงมาลัยอย่างแน่นอน เบาะนั่งหุ้มหนัง Fine Nappa สีดำเดินด้ายสีแดงตัดเย็บลายรังผึ้ง (honeycomb) เสริมด้วยฟังก์ชั่นนวด เข็มขัดนิรภัยสีดำตกแต่งด้วยขอบสีแดง สะดวกสบายกับจอแสดงผลการขับขี่ Audi Virtual Cockpit plus ความละเอียดสูงขนาด 12.3 นิ้ว แบบ 3 มิติ ที่มีความละเอียดสูง ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลในขณะการขับขี่ง่ายเพียงแค่กดปุ่ม “view” บนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น สามารถเลือกทั้งแบบ “classic” หรือแบบ “infotainment” หน้าจอแบบ RS แสดงผลแบบสปอร์ตเช่นเดียวกับมาตรวัดของรถแข่ง เพิ่มความปลอดภัย กับจอแสดงข้อมูลขณะขับขี่ Head-up display ผู้ขับขี่สามารถมองมาตรวัดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ตรงกระจกบังลมหน้า หน้าจอแบบสัมผัส MMI Navigation plus ขนาด 10.1 นิ้ว เพิ่มฟังก์ชั่นแสดง ค่า G เพื่อช่วยในการวัดผลการขับเคลื่อน การเพิ่มหรือลดความเร็วของรถ หรือการเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ ซึ่งต้องมาพร้อมกับอัตราเร่ง การออกตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งนิยมนำมาประมวลผลประสิทธิภาพการขับขี่ของนักแข่งมืออาชีพ งานนี้ต้องมีอาการหลังติดเบาะกันบ้าง เพิ่มความสุนทรีย์กับ Smartphone interface มาพร้อมกับระบบเสียงรอบทิศทาง Bang & Olufsen ที่ให้คุณภาพเสียงแบบ 3 มิติ ผ่านลำโพงคุณภาพสูงรวม 19 ตำแหน่ง ให้กำลังขับรวมทั้งสิ้น 755 วัตต์ และระบบควบคุมอุณหภูมิ 3 โซน
ส่วนระบบอำนวยความสะดวกและให้ความบันเทิง MMI navigation plus เป็น generation ที่ 3 (MIB 3) ที่มีฟังก์ชั่นมากมาย ซึ่งความสปอร์ต หรูหรา และระบบ Infotainment ที่สะดวกสบายจัดเต็มเรียกว่า จะทำให้คุณรักจนไม่อยากลงจากรถกันเลยทีเดียว
สนุกสุดเหวี่ยงกับพละกำลังที่เร้าใจจากขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V6 2.9 ลิตร เทอร์โบชาร์จ รหัส DEC พร้อมประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ quattro ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง(direct injection) ให้พละกำลังสูงสุด 450 แรงม้าที่ 5,700-6,700 รอบ/นาที และแรงบิด 600 นิวตันเมตรที่ 1,900-5,000 รอบ/นาทีเร้าใจ ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่สามารถทำได้ภายในอัตราเร่ง 0-100 เพียง 3.9 วินาที ระบบเบรกแบบ RS ตกแต่งคาลิปเปอร์เบรกสีแดงหน้า-หลัง จับคู่กับ เกียร์ tiptronic 8 จังหวะ
ให้ฟิลลิ่งเหมือนขับขี่อยู่ในสนามแข่งมากยิ่งขึ้น ด้วยระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ต (RS Sports suspension) เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ระบบจะช่วยเสริมทำให้เกาะถนนมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจในทุกช่วงความเร็วและทุกสภาพถนน พร้อม Audi drive select ยังเลือกระบบ dynamic handling system และยังมีโหมดใหม่สองโหมด ได้แก่ RS1 และ RS2 เมื่อผู้ขับขี่ตั้งค่าโหมดทั้งสองให้เหมาะกับความชอบส่วนตัวและบันทึกไว้ ยังสามารถเปิดใช้งานได้โดยตรงผ่านปุ่ม “RS MODE” บนพวงมาลัยโดยไม่ต้องสั่งผ่าน MMI touch response อีก ซึ่งระบบจะเข้าถึงองค์ประกอบทางเทคนิคที่สำคัญ ทำให้มีความสะดวกสบายไร้กังวลเมื่อขับขี่ พร้อมเปิดตัวในราคาเพียง 5,990,000 บาท เปิดจองแล้วตั้งแต่วันนี้ที่โชว์รูมอาวดี้ ทั่วประเทศ
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com