All New Volvo XC60 อเนกประสงค์พรีเมี่ยมแดนไวกิ้ง..บุกไทยแล้ว เริ่ม 3.09 ล้านบาท
- โดย : Autodeft
- 9 พ.ย. 60 00:00
- 18,188 อ่าน
ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา Volvo XC60 มาในฐานะ Compact Premium SUV ที่ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายมากกว่า 1 ล้านคันทั่วโลก และ Volvo พร้อมแล้วที่จะสร้างประวัติศาสตร์สถิติยอดขายถล่มทลายอีกครั้งกับการเปิดตัว All New Volvo XC60 อย่างเป็นทางการในเมืองไทย
รูปลักษณ์ Compact SUV ค่าย วอลโว่ หล่อคล้ายกับอเนกประสงค์รุ่นพี่อย่าง Volvo XC90 ผสานความสง่างามเข้ากับความทรงพลังได้อย่างลงตัว ตั้งแต่กระจังหน้าพร้อมโลโก้ Iron Mark อันเป็นเอกลักษณ์ของวอลโว่ ไฟหน้า Thor’s Hammer แบบ LED พร้อมไฟ DRL หรือ Daytime Running Light ฝังไว้ในโคมเป็นรูปตัว T ไฟท้ายทรง L Shaped พร้อมกระจกมองข้างดีไซน์สปอร์ต และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/60 R18 ในรุ่น Momentum ส่วนรุ่นสปอร์ต R-Design ติดตั้งออพชั่นจากโรงงาน ทั้ง กระจังหน้า R-Design สีดำเงา ท่อไอเสีย R-Design แบบคู่ กรอบกระจกมองข้าง R-Design สีเงินด้าน ล้อแม็คขนาด 19 นิ้ว ลาย diamond cut ที่ดูโฉบเฉี่ยว พร้อมยาง 235/55 R19
All New Volvo XC60 สร้างจากพื้นฐานแพลตฟอร์ม SPA หรือ Scalable Product Architecture ปรับในเรื่องน้ำหนักตัวรถให้เบาขึ้นกว่าเก่า พร้อมมิติตัวรถที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่ความยาว 4,688 มม. ความกว้าง 1,902 มม. ความสูง 1,658 มม. ฐานล้อ 2,865 มม. และความสูงใต้ท้องรถ 216 มม.
ภายใน Volvo ใหม่หมด ตั้งแต่ออกแบบแผงคอนโซลหน้าคล้ายกับ Volvo XC90 กับ S90 แต่ปรับให้เข้ากับรุ่นนี้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมระบบความบันเทิง Sensus system ผ่านจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารให้แม่นยำผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto และสั่งการได้ด้วยเสียง Voice Control ของผู้ขับขี่ พร้อมระบบ CleanZone ที่สามารถดักจับ ฝุ่นละอองและมลพิษต่างๆเพื่อให้บรรยากาศภายในห้องโดยสารสดชื่น พร้อมความเท่ด้วย พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังพิเศษ
ในรุ่น R-Design มาพร้อมพวงมาลัยหนังและแป้นเหยียบคันเร่งและเบรก R-Design รีโมทคอนโทรลหุ้มด้วยหนัง Nappa แท้สีดำพร้อมลายฉลุ และเบาะหนังแท้ Nappa ที่มีความนุ่มเป็นพิเศษ สามารถรองรับกับสรีระให้ความรู้สึกโอบอุ้ม ปลอดภัย และมั่นใจในทุกการเดินทางที่รถพุ่งทะยานไปข้างหน้า สุนทรีย์ในการฟังเพลงด้วยเครื่องเสียงติดรถยนต์ Premium Sound by Bowers & Wilkins สเตอริโอรอบทิศทางที่ให้คุณภาพเสียงคมชัด มีมิติ และสมจริง ระบบเสียงชั้นนำนี้มาพร้อมกับแอมพลิฟายเออร์ขนาด 1,400 วัตต์ 12-แชนเนล คลาส-ดี และลำโพง 19 ตัวรอบห้องโดยสาร สามารถเลือกฟังได้ 3 โหมด ได้แก่ Studio Individual Stage และ Gothenburg Concert Hall ที่สร้างสรรค์ประสบการณ์การได้ยินเหมือนนั่งอยู่ใน Gothenburg Concert Hall
ขุมพลังแรงเร้าใจด้วยระบบส่งกำลัง Drive-E Powertrains ให้เลือกทั้ง 2 ขนาดตั้งแต่เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ทวินเทอร์โบพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีด i-Art รหัส D4204T14 ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.4 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 17.9 กม./ลิตร ปล่อย CO2 เพียง 146 กรัมต่อกิโลเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Geartronic และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ AWD
รักษ์โลกด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Twin Engine AWD Plug-In Hybrid 2.0 ลิตร รหัส B4204T35 ผสานการทำงานของเทอร์โบชาร์จ (Turbocharger) และซูเปอร์ชาร์จ (Supercharger) เข้าด้วยกันให้กำลังสูงสุด 320 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 2,220-5,400 ต่อนาที พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 87 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร และเมื่อรวมกับกำลังเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า จึงได้เครื่องยนต์ที่มีพละกำลังแรงถึง 407 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 640 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ในเวลาเพียง 5.3 วินาที เท่านั้น อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 47.6 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพียง 50 กรัมต่อกิโลเมตรเท่านั้น และสามารถวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียว (Pure mode) ได้ไกลถึง 44.92 กิโลเมตร จับคู่กับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Geartronicและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ AWD
ปลอดภัยสูงสุดด้วยระบบช่วยในการขับขี่ใหม่ล่าสุดอย่างระบบช่วยบังคับรถหักเลี้ยวหลบ (Steer Assist) ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนผู้ขับขี่ในการบังคับเลี้ยวรถหลบโดยอัตโนมัติเพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่ออุบัติเหตุการชน โดยระบบนี้ถูกเพิ่มเข้าไว้ในระบบ City Safety เจนเนอเรชั่นใหม่ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนรถยนต์ ผู้ใช้รถใช้ถนน และสัตว์ขนาดใหญ่ ระบบ Steer Assist จะช่วยบังคับหักเลี้ยวหลบทำงานที่ความเร็วระหว่าง 50 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ติดตั้งระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา หรือ Blind Spot Information with Steer Assist ช่วยป้องกันการถูกชนท้ายโดยรถที่อยู่ในจุดอับสายตาจากด้านหลังในขณะที่กำลังเปลี่ยนเลน ด้วยการบังคับพวงมาลัยให้รถกลับเข้ามาอยู่ในเลนอีกครั้ง เสริมระบบ Oncoming Lane Mitigation ซึ่งจะช่วยในการบังคับพวงมาลัยเพื่อหักหลบรถที่กำลังวิ่งสวนมาทางด้านหน้า ระบบจะเตือนผู้ขับขี่ซึ่งอาจเผอเรอขับรถออกนอกช่องทางจราจร และจะช่วยบังคับพวงมาลัยเพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทางเดินรถโดยอัตโนมัติ ระบบนี้ทำงานในช่วงความเร็ว 60-140 กม./ชม.และระบบช่วยในการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ (Pilot Assist) ที่สามารถทำงานได้ที่ความเร็วรถสูงสุดถึง 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
All New Volvo XC60 มีให้เลือกถึง 3 รุ่นดังนี้
รุ่น |
ราคา |
รุ่น T8 Twin Engine Plug-IN Hybrid AWD R-Design |
3,590,000 บาท |
รุ่น T8 Twin Engine Plug-IN Hybrid AWD Momentum |
3,290,000 บาท |
รุ่น D4 AWD Momentum |
3,090,000 บาท |
และมีสีภายนอกและภายใน ดังนี้
|
ภายนอก |
สีภายใน/สีเบาะ |
R-Design |
ใหม่! สีฟ้าเข้มพรีเมี่ยมเมทัลลิค (Bursting Blue Premium Metallic) |
ใหม่! R-Design /Nubuck Fine Nappa Perforated Leather
|
|
สีขาว (Ice white Solid) |
|
|
สีเทาเมทัลลิค (Osmium Grey Metallic) |
|
|
สีดำเมทัลลิค (Onyx Black Metallic) |
|
Momentum |
ใหม่! สีน้ำตาล เมทัลลิค (Maple Brown Metallic) |
Leather/Charcoal |
|
สีเงินเมทัลลิค (Bright Silver Metallic) |
Leather/Charcoal |
|
สีขาว (Ice white Solid) |
ใหม่! Leather/Maroon Brown |
|
สีเทาเมทัลลิค (Osmium Grey Metallic) |
ใหม่! Leather/Maroon Brown |
|
สีดำเมทัลลิค (Onyx Black Metallic) |
ใหม่! Leather/Maroon Brown |
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com