ยลโฉมจริง!! Toyota C-HR Crossover เหนือระดับ…สำหรับชีวิตที่สมบูรณ์แบบ เริ่ม 979,000 บาท
- โดย : Autodeft
- 8 มี.ค. 61 00:00
- 24,516 อ่าน
หลังจากให้สาวกชาวไทยได้สัมผัสและเปิดรับจองยนตกรรมระดับโลก All New Toyota C-HR ตั้งแต่ปีกลาย จนยอดลงะทเบียนจองสิทธิ์ล่วงหน้ากว่า 3,000 คัน ล่าสุด Toyota เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในราคาที่คุ้มค่า
Toyota C-HR (Coupe-High Rider) มาในร่าง 5 ประตู ออกแบบเพื่อตอกย้ำแนวคิด Ever-better Cars ภายนอกหล่อด้วยไฟหน้า Projector แบบ Bi-LED พร้อมไฟท้าย Full LED ล้ออัลลอยสำหรับเมืองไทยมาเป็นแบบ 5 ก้าน 17 นิ้วคู่กับยาง 215/60 R17 โดยสร้างจาพื้นฐาน Toyota’s New Global Architecture หรือ TNGA มิติตัวรถมีความยาว 4,360 มม. ความกว้าง 1,795 มม. ความสูง 1,565 มม. ฐานล้อ 2,640 มม.ระยะต่ำสุดจากพื้น 154 มม. น้ำหนักรถ 1,380-1,455 กก. และความจุถังน้ำมัน 43 กับ 50 ลิตร
ภายในสุดล้ำสมัยด้วยคอนโซลหน้าออกแบบเส้นสายมีความต่อเนื่องโค้งมน มาพร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านทรงสปอร์ต ช่องปรับอากาศดีไซน์เก๋และเย็นทั่วคันด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual-zone พร้อมเครื่องเล่น DVD แบบจอสัมผัส มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูล 4.2 นิ้ว เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 สมารถขนของได้จุใจ ทันสมัยด้วยนระบบ Toyota T-Connect Telematics เชื่อต่อทุกเส้นทางอย่างสมบูรณ์แบบผ่าน Smart phone และ Apple watch ทั้งค้นหาพิกัดรถ เชื่อมต่อสัญญาณ WI-FI เป็นต้น
ขุมพลังสำหรับตลาดเมืองไทย Toyota เลือกเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร มาประจำการ โดยมีถึง 2 ทางเลือกตั้งแต่ เครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-I ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FBE 140 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 175 นิวตัมเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ CVT
ปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร 2ZR-FXE จาก Toyota Prius ให้กำลังสูงถึง 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร ทำให้ได้แรงม้ารวมถึง 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT โดยจะจำหน่ายในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า เท่านั้น โดยรุ่น 1.8 Hybrid เป็น Hybrid เจเนอเรชั่นใหม่ได้รับการพัฒนาให้แบตเตอรี่มีขนาดเล็กลง แต่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้มากขึ้น มีความทนทานและประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น โดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 24.4 กม./ลิตร ด้วยการย้ายตำแหน่งของแบตเตอรี่ทำให้สามารถระบายความร้อนได้ดีขึ้น
พร้อมระบบความปลอดภัยขั้นเทพ Toyota Safety Sense ประกอบด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre-collision safety system, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Active cruise control, ระบบไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam, ระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถเมื่อเบี่ยงออกนอกเลน Lane departure alert with steering assistและ ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind-spot monitor พร้อมกล้องมองหลังพร้อมสัญญาณกะระยะ กับถุงลมนิรภัย 7 จุด
Crossoverรุ่นล่าจาก โตโยต้า มีสีภายนอกตัวรถสำหรับรุ่น Hybrid มีให้เลือก 6 สี (Premium Red/Black Roof, Blue Metallic/Black Roof, Radiant Green Metallic/Black Roof, White Pearl Crystal, Metal Stream Metallic, Attitude Black Mica) และ 3 สี สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน (White Pearl Crystal, Metal Stream Metallic, Attitude Black Mica) และราคาจำหน่าย มีดังนี้
- รุ่น 1.8 Entry ราคา 979,000 บาท
- รุ่น 1.8 Mid ราคา 1,039,000 บาท
- รุ่น 1.8 HV Mid ราคา 1,069,000 บาท
- รุ่น 1.8 HV Hi ราคา 1,159,000 บาท
นอกจากนี้ยังมีการขยายเวลารับประกันคุณภาพรถใหม่เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมฟรีค่าแรงเช็คระยะถึง 100,000 กม. หรือ 5 ปี แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน พิเศษ!! สำหรับรุ่น Hybrid มอบความคุ้มครองด้วย Hybrid Package กับการรับประกันแบตเตอรี่ Hybrid 10 ปี และระบบ Hybrid 5 ปี และโปรแกรมการรับประกันมูลค่ารถในอนาคต ที่ Toyota Sure
(สีพิเศษได้แก่ Premium Red, Blue Metallic และ Radiant Green Metallic พร้อมหลังคาสีดำเพิ่ม 10,000 บาท สี White Pearl Crystal เพิ่ม 10,000 บาท)
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com