All New Lexus LS อัครยานยนต์หรูระดับพรีเมี่ยม….คู่ควรผู้นำยุคใหม่ เริ่ม 11.53 ล้านบาท

เกือบ 30 ปี ที่ Lexus LS รับบทบาทเป็นซาลูนรุ่นใหญ่ของค่ายที่ได้รับการต้อนรับจากสาวกเศรษฐี เซเลป รวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงทั่วโลกจนสร้างยอดขายรวมจนถึงปัจจุบันกว่า 570,000 คันในอเมริกา และมากกว่า 800,000 คัน ทั่วโลกและเพื่อตอบสนองกลุ่มจงรักภักดีกับกลุ่มผู้นำรุ่นใหม่ๆด้วยการเผยเจเนอเรชั่นที่ 5 สู่เมืองไทยอย่างเป็นทางการ

ประเทศไทยนับเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้นำเสนอความหรูหราสมบูรณ์แบบให้ลูกค้าชาวไทยได้สัมผัส กันโดย เลกซัส รุ่นนี้ สร้างจากแพลตฟอร์มใหม่หมดที่ชื่อว่า global architecture for luxury vehicles (GA-L) และนำดีไซน์จากรุ่นต้นแบบ LF-FC Concept มาขัดเกลาให้หล่อ หรูสง่างาม แชสซีผลิตจากเหล็กผสมอนูมิเนียมที่มีน้ำหนักเพียง 90 กิโลกรัม เบากว่าที่ใช้ในรุ่นเก่าแต่ความแข็งแรงยังเหมือนเดิม ภายนอกออกแบบตามสไตล์ L-finesse พร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ทรง Spindle Grill ชุดไฟหน้าและไฟส่องสว่าง Ultra-small 3-eye Bi-Beam ผสมผสานการออกแบบขั้นสูงที่กระจายความสว่างได้อย่างยอดเยี่ยม ไฟ LED 16 ดวงที่อยู่ในไฟเลี้ยวส่องประกายสว่างเรียงทีละดวงจากมุมด้านในจนถึงด้านนอกของตัวรถ ไฟท้ายดีไซน์ล้ำอนาคตแบบ combination รวมถึงไฟบนฝากระโปรงหลังเป็นไฟ LED ทั้งหมด นอกจากนี้ไฟเลี้ยวยังส่องสว่างคมชัด เพรียวลงขึ้นด้วยหลังคารถที่ออกแบบลาดเอียง พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 245/50 RF19 และ ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 245/45 RF20

มิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 5,235 มม. ความกว้าง 1,900 มม. ความสูง 1,450 มม. ฐานล้อยาว 3,125 มม. น้ำหนักรวม 2,585 – 2,725 กก.ความจุถังน้ำมัน 82 ลิตร เมื่อเทียบกับรุ่น LS เจน4 จะพบว่ามีความยาว 5,210 มม. ความกว้าง 1,875 มม. และฐานล้อ 3,090 มม.

Lexus ออกแบบภายในใหม่ให้ดูทันสมัยและหรูหราผสานความงดงามแห่งศิลปะดั้งเดิมของญี่ปุ่นกับเทคโนโลยีการผลิตอันก้าวล้ำ ละเมียดละไมในทุกรายละเอียดประดุจงานหัตถศิลป์ชั้นสูง เบาะนั่งตอนหน้าไฟฟ้าปรับ 28 ทิศทาง ระบบนิวเมติก ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระทุกส่วนของร่างกายอย่างพอดี เบาะรองไหล่ช่วยเสริมการขับขี่ สร้างความรู้สึกให้เป็นหนึ่งเดียวกับรถ ส่วน เบาะนั่งตอนหลังควบคุมด้วยไฟฟ้าปรับ 22 ทิศทาง และพนักวางขาไฟฟ้า ควบคุมด้วยไฟฟ้าใช้มอเตอร์ผสานกับระบบนิวเมติกพัฒนาใหม่ โดยระบบสามารถสูบลมเข้าออกถุงลมเพื่อปรับองศาเก้าอี้ได้ในทุกมุม เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดเบาะนั่งหลังด้านซ้ายสามารถปรับพื้นที่วางขาสูงสุดได้ถึง 1020 มม. พร้อมระบบนวดผ่อนคลายพร้อมฟังก์ชั่นกดจุดแบบร้อน ใน่สวนเบาะที่นั่งด้านหลังซ้ายและขวา

เครื่องเสียงคุณภาพ Mark Levinson QLI ระบบเสียงสามมิติ 16 ช่องทาง พร้อม ลำโพง 23 และเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทาง QLI (Quantum Logic Immersion) เติมเต็มห้องโดยสารด้วยเสียงคุณภาพคมชัด ด้านหลังมาพร้อม หน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว 2 หน้าจอ พร้อมด้วยเครื่องเล่นแผ่น Blu-ray ช่องใส่ SD card และสายต่อ HDMI ที่จะให้คุณเชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ทั้งยังเพลิดเพลินไปกับวิดีโอ ดนตรี และสื่อบันเทิงที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือได้โดยใช้ Miracast หรือ DLNA (Digital Living Network Alliance) และระบบปรับอุณหภูมิอัจฉริยะ สามารถตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้นั่งแต่ละคน ด้วยเซนเซอร์วัดแสงอินฟราเรด ปรับความสบายให้เหมาะสมกับผู้นั่งโดยทันที

เร้าใจกับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 3.5 ลิตร V6 ที่มีให้เลือกถึง 3 ระดับความแรงเริ่มจากเครื่องยนต์เบนซินแบบใหม่รหัส V35A-FTS ขนาด 3.5 ลิตร V 6 Twin turbochargers ให้กำลังสูงสุด 421 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,800 รอบ/นาที ในรุ่น LS500 ส่วนรุ่น LS350 มาพร้อมรหัส 8GR-FKS เบนซิน Dual VVT-i 315แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิด 380 นิวตันเมตร ที่ 4,800-4,900 รอบ/นาที โดยทั้งสองขนาดจับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-10A แบบ 10 สปีด และ มี Paddle Shift ให้เปลี่ยนเกียร์ได้บนพวงมาลัย แบบขับหลัง

รักษ์โลกด้วยขุมพลังเบนซิน Hybrid V6 3.5 ลิตร รหัส 8GR-FXS ให้กำลังถึง 299 แรงม้าที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิด 356 นิวตันเมตร ที่ 5,100 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว รุ่น 2NM ให้กำลังถึง 179 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกันได้กำลังสูงถึง 359 แรงม้าคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด Multi Stage Hybrid System ขับหลังในรุ่น LS500h

พร้อม ระบบถุงลมช่วงล่างควบคุมไฟฟ้า ( พร้อม access mode) นอกจากฟังก์ชั่นปรับความสูงของรถที่ปรับเป็นแบบ Normal และ High ได้แล้ว โหมด access จะช่วยยกตัวรถขึ้นอัตโนมัติเมื่อผู้โดยสารต้องการขึ้นหรือลง ทำให้การเข้าออกเป็นไปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

ความปลอดภัยครบครันด้วย Lexus Safety System+ ประกอบไปด้วยเทคโนโลยีเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ล้ำหน้า ได้แก่ - Pre-Collision System ระบบจะส่งสัญญาณเตือนคนขับและสั่งการตัวช่วยเบรกก่อนชนเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรก ถ้าผู้ขับขี่ไม่สามารถเหยียบเบรกได้ ก็จะสั่งการใช้งานเบรกก่อนชนโดยอัตโนมัติ

- Dynamic Radar Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติจะใช้เรดาร์และเซนเซอร์กล้องเพื่อตรวจจับรถที่วิ่งอยู่ข้างหน้าและรักษาระยะห่างระหว่างรถให้พอดีด้วยความเร็วคงที่ นอกจากรักษาระดับความเร็วให้เสถียรแล้ว

- Lane Keeping Assist (LKA) ระบบช่วยรักษาช่องทางวิ่งจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่โดยสั่นที่พวงมาลัย ช่วยประคองไม่ให้รถออกนอกเส้นแบ่งช่องจราจร

- Two-Stage Adaptive High Beam System (AHS) ระบบจะเปิดปิดไฟ LED ไฟสูง 8 ดวง และไฟต่ำ 16 ดวง ในแต่ละข้าง เพื่อกันไม่ให้ไฟสูงจากหน้ารถสาดไปยังรถที่วิ่งสวนมา

- Panoramic View Monitor หน้าจอแสดงผลให้ผู้ขับขี่เห็นรถคันอื่นได้ชัดเจน โดยแสดงผ่านหน้าจอ EMV (Electro Multi-Vision) ขนาด 12.3 นิ้ว

- Automatic Rear Seat Reclining เมื่อไม่มีผู้โดยสารนั่งเบาะหลัง ระบบจะปรับเอนเบาะสอดคล้องกับการเข้าเกียร์ ทั้งยังปรับเบาะให้ต่ำลงเพื่อให้ผู้ขับขี่มองกระจกหลังได้ทัศนวิสัยกว้างขึ้น

เป็นเจ้าของความหรูหรา สมบูรณ์แบบของ All New Lexus LS  4 รุ่น ได้แก่

• LS500h รุ่น Executive Pleat 15,830,000 บาท
• LS500h รุ่น Executive 14,500,000 บาท
• LS500 รุ่น Executive 13,080,000 บาท
• LS350 รุ่น Luxury 11,530,000 บาท

มีสีภายนอกให้เลือกมากถึง 11 สี พร้อมสีใหม่ 2 สี ได้แก่ สี Manganese Luster และ สี Sonic Agate

• Sonic Quartz
• Sonic Silver
• Sonic Titanium
• Black
• Graphite Black Glass Flake
• Red Mica Crystal Shine
• Sleek Ecru Metallic
• Amber Crystal Shine
• Deep Blue Mica

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com