ยลโฉมจริง!! KIA Stinger เก๋งพรีเมี่ยมแดนกิมจิ บุกไทยแล้ว เพียง 2.99 ล้านบาท

หลังจากประสบความสำเร็จ KIA Grand Carnival รถอเนกประสงค์ 11 ที่นั่ง ขนาด Full Size ที่พ่อบ้านชาวไทยสนใจและมียอดจองอย่างล้นหลาม ล่าสุด KIA Thailand โดย ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ กลับมาเปิดตลาดรถยนต์นั่งอีกครั้งด้วยการส่ง KIA Stinger เปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

KIA Stinger เก๋งพรีเมี่ยมหรู แบบ 5 Door Fastback ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของ GT Car และการปรับแต่งในสนามแข่งแห่งตำนาน Nurburgring ทุกรายละเอียดของรถได้รับการออกแบบโดย Peter Schreyer ผู้อยู่เบื้องหลังการดีไซน์ที่ทันสมัยของยนตรกรรมจาก เกีย ในรูปแบบซาลูนพรีเมี่ยมบนดีไซน์การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และสมรรถนะการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพสูงตั้งแต่กระจังหน้าจมูกเสือ (Tiger Nose) ที่โดดเด่น พร้อมกับ LED Daytime Running Light พร้อมเทคโนโลยี Active Hood Lift System ฝากระโปรงหน้าเปิดอัตดนมัติช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเกิดการชนด้านหน้า พร้อมไฟท้ายแบบLED และระบบ Smart Tail Gate กระโปรงท้ายเปิดปิดอัตโนมัติเพื่อความสะดวกในการใช้งาน พร้อมหลังคาที่ออกแบบลาดลงบ่งบอกความเป็น สปอร์ตเต็มขั้น และล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/45 R18 ด้วยขนาดตัวรถที่ใหญ่ ตั้งแต่ความยาว 4,830 มม. กว้าง 1,870 มม. สูง 1,400 มม. ฐานล้อยาว 2,905 มม. และความสูงจากใต้ท้องรถ 130 มม.

ภายใน KIA ยกความเป็น Euro Sport ด้วยแผงคอนโซลหน้าสุดเท่ พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรงท้ายตัด 3 ก้าน ช่องแอร์ทรงกลม 3 ช่อง พร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ LCD 8 นิ้ว และระบบสั่งการด้วยเสียง สามารถเชื่อมต่อ AUX, USB และ Bluetooth สนุกไปอีกขั้นด้วยลำโพง 9 ทิศทางพร้อมซับวูฟเฟอร์ และระบบชาร์จโทรศัพทืมือถือแบบไร้สาย พร้อมระบบเนวิเกชั่นเชื่อมต่อด้วย Apple Car Play และ Android Auto พิเศษด้วย Head-up Display กราฟฟิกแสดงผลการขับขี่ที่กระจกบังลมหน้าเพื่อให้คุณไม่ต้องละสายตาจากการขับขี่

ขุมพลัง KIA Stinger ที่จำหน่ายในเมืองไทยใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Theta II GDI 2.0 ลิตร 255 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิด 353 นิวตันเมตร ที่ 1,400-4,000 รอบ/นาที โดยส่งกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับหลัง ควบคุมการทำงานได้อย่างง่ายดายด้วย Paddle-Shift และสามารถเลือกปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ได้ถึง 5 แบบด้วยฟังก์ชั่น Drive Mode

ระบบความปลอดภัย KIA จัดเต็มไม่ว่าจะะเป็นระบบเบรก ABS , EBD และ BA เพิ่อเสริมแรงเบรกขณะการขับขี่ พร้อมระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัวขณะขับขี่และควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง อุ่นใจด้วยถุงลมนิรภัย 7 จุด สะดวกสบายด้วยเซ็นเซอร์ช่วยจอดหน้าและหลังพร้อมกล้องมองหลังขณะถอยจอด พร้อม Blind Spot Detection ช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง ในราคาพิเศษ 2,990,000 บาท

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com