City Car Hatchback ประชันเก๋งเล็กท้ายตัดในงบไม่เกิน 650,000 บาท

ทุกวันนี้รถยนต์ ประเภท Hatchback 5 ประตูขนาดเล็กได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน รวมถึงเริ่มต้นชีวิตครอบครัว ต่างที่จะมองหาเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ

ยิ่งในปัจจุบัน ค่ายรถยนต์ชั้นนำจากญี่ปุ่น และ ยุโรป ส่งรถประเภทนี้ลงตลาดมากมายครอบคลุมความต้องการมากมายทั้งในด้านการออกแบบ เทคโนโลยี ความคล่องตัว ความปลอดภัย และ ความสะดวกสบายรวมไว้ในรถคันเดียว โดยงานนี้ได้รวมรถยนต์กลุ่มนี้ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.2 – 1.5 ลิตร ระดับราคาตั้งแต่ 600,000-650,000 บาท  เริ่มจาก

 

New MG 3 Hatchback 1.5 V ราคา 629,000 บาท

พึ่งจะเปิดตัวสดๆร้อนๆ ไปกับ รถยนต์ สายพันธุ์ยุโรป ปรับครั้งใหญ่จนแทบจำตัวตนเดิมๆไม่ได้ หล่อตั้งแต่หัวจรดท้าย เติมความสดใสด้วยสีสันแนว Brit Duo Colour Styling เริ่มจากกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยม V-type พร้อมไฟหน้า Projector โคมใหม่พร้อมไฟ Daytime ในโคมเดียวกัน รับกับกันชนหน้าสไตล์สปอร์ต หลังคาซันรูฟ ด้านท้ายใหม่หมดด้วยไฟท้าย LED Light guide ที่เปิดประตูท้ายเป็นแบบซ่อนรูปใหม่ เข้ารูปด้วยกันชนท้ายอย่างลตัว และล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 195/55 R16 มิติที่เปลี่ยนไป ความยาว 4,055 มม. ความกว้าง 1,729 มม. ความสูง 1,516 มม. ฐานล้อ 2,520 มม. น้ำหนักรถ 1,190 กก. ระยะต่ำสุดจากพื้น 116 มม. ความจุถังน้ำมัน 45 ลิตร

ภายในใหม่ยกเครื่องใหม่ด้วย สีสันลายโมเดิร์นกราฟิก พร้อมแผงคอนโซลหน้าเด่นด้วย คอนโซลกลางที่มีช่องแอร์ขนาดใหญ่สองฝั่งคั่นกลางด้วยเครื่องเสียงแบบจอสัมผัส infotainment ใหม่ ขนาด 8 นิ้ว ติดตั้งระบบ i-SMART ระบบรองรับการสั่งการของตัวรถ ในแบบภาษาไทยพร้อมระบบน้ำทาง แผงสวิตช์ควบคุมแอร์ใหม่แบบอัตโนมัติ ทันสมัยด้วยปุ่ม Push Start พวงมาลัยมัลติฟงัก์ชั่นสามก้านแบบท้ายตัด พร้อม Cruise Control เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 แต่กุญแจยังใช้ระบบเดิมไม่ใช่ Keyless และ Push Start

ขุมพลังยังคงเดิมแต่เพิ่มเรี่ยวแรงมากกว่าถึง 112 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที กับเครื่องยนต์เบนซินใหญ่สุด 1.5 ลิตร พร้อมระบบส่งกำลังจากเดิมแบบกึ่งอัตโนมัติ 5 สปีด AMT ที่เคยมีเสียงบ่นจากผู้ใช้รถรุ่นนี้เป็นจำนวนมาก คราวนี้หันมาคบกับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด TORQUE CONVERTER

ระบบความปลอดภัยจัดเต็มไม่แพ้เจ้าอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบ ABS (ANTI-LOCK BRAKING SYSTEM) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน EBA ระบบช่วยเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD ระบบช่วยกระจายแรงเบรก SCS ระบบควบคุมการทรงตัว CBC ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง TCS ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ควบคุมการลื่นไถล HAS ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน MSR ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน ฯลฯ ในราคาเพียง 629,000 บาท

 

Mitsubishi Mirage 1.2 GLS-LTD ราคา 606,000 บาท

รถยนต์จากย่านคลองเตยที่ค่าตัวเริ่มต้นในระดับหกแสนต้นๆ ถึงหน้าตายังคงเดิมแต่ปรับปรุงใหม่เพื่อต่อกรกับคู่แข่งด้วยการเพิ่มออพชั่น 8 รายการ ทั้ง ปุ่มล็อกและปลดล็อกประตูบริเวณแผงควบคุมกระจกด้านคนขับ, ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งคู่หน้า, ราวมือจับเหนือศีรษะแบบพับได้ 3 ตำแหน่ง, ที่บังแดดผู้โดยสารตอนหน้าพร้อมกระจกส่องหน้า, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่งแบบปรับระดับสูง-ต่ำได้ , ที่พักแขนเบาะคนขับมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และ กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ

ภายนอกเดิมๆด้วย ชุดไฟตกแต่งแบบ LED บริเวณกันชนหน้า กระจังหน้ารับกันชนหน้าตกแต่งด้วยขอบโครเมี่ยม เสริมหล่อในตัวตนมากขึ้น ตามมาด้วยไฟหน้าใหม่แบบ Projector Bi-XENON HID ไฟหรี่แบบสเปคตรัม LED ภายในโคม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED พร้อมไฟท้าย LED กับสปอยเลอร์หลัง และ ล้ออัลลอยขอบ 15 นิ้ว แบบทูโทนพร้อมยางขนาด 175/55R15 มิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 3,795 มม.ความกว้าง 1,665 มม. ความสูง 1,505 มม. ความยาวช่วงล้อ 2,450 มม. ความจุถังน้ำมัน 35 ลิตร

ภายในหรูด้วย เบาะหนังเดินด้ายแดง พร้อมพวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง ช่องต่ออุปกรณ์ USB พนักพิงศีรษะหลัง 3 ตำแหน่ง เบาะหลังพับได้ พร้อมเครื่องเล่น DVD แบบจอสัมผัส รองรับ Apple CarPlay และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นยังเพิ่มปุ่มรับสายโทรศัพท์ พร้อม Cruise Control

ขุมพลังเดิมด้วยเครื่องยนต์เบนซิน MIVEC 1.2 ลิตร 78 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ Invesc III CVT ระบบความปลอดภัยครบครันทั้งระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCL) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว ที่ความเร็วต่ำ (FCM-LS : Forward Collision Mitigation System-Low Speed Range) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เฉพาะด้านหน้า (RMS-FORWARD : Radar Sensing Misacceleration Mitigation System-Forward)ระบบเบรก ABS EBD และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ในราคา 606,000 บาท

 

Toyota Yaris 1.2 G ราคา  619,000 บาท

มาต่อกันที่อีกหนึ่งท้ายตัดจากค่ายสามห่วงครองยอดขายสูงสุดมาตลอด ด้วยหน้าตาทันสมัยถูกใจคนเมืองโดยปรับความหล่อใหม่ ไปไม่นานมีเสน่ห์ด้วยไฟหน้า Projectorและไฟ LED Light Guiding ในโคมเดียวกัน รับกับกระจังหน้ารูปตัววีโดดเด่นกับกันชนหน้าทรงสปอร์ต ติดตั้งไฟตัดหมอกหน้ากับ Daytime แบบ LED ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ช่วยดูให้หรูหราขึ้นมีเสน่ห์ด้วย เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 15 นิ้วพร้อมยาง 185/60 R15 ตัวรถยังคงมีขนาดเท่าเดิม ตั้งแต่ความยาว 4,145 มม. ความกว้าง 1,730 มม. ความสูง 1,475 มม. ความยาวช่วงล้อ 2,550 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 135 มม. และความจุถังน้ำมัน 42 ลิตร

ภายในอาจเสียรังวัดคู่แข่งในด้านออพชั่นที่ไม่มีเครื่องเสียงจอสัมผัสขนาดใหญ่แต่ก็ได้เปรียบตรงที่ ด้วยพื้นที่วางขาด้านหลังที่ใหญ่กว่าใคร ภายในห้องโดยสารมอบข้าวของมากมายทั้ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมจอแสดงผลแบบ LCD และหัวเกียร์และฐานเกียร์ ตกแต่งเปียโนแบล็ค พร้อม มาตรวัดดีไซน์สปอร์ตพร้อมสัญลักษณ์ ECO แสดงผลเมื่อขับขี่แบบประหยัด จอแสดงข้อมูลขับขี่ MID (Multi-information display) แบบสี TFT และสบายเอาใจคนชอบขนของด้วยเบาะหลังพับได้แบบ 60:40

เครื่องยนต์ที่ทุกคนวางใจได้ในความคล่องแคล่ว แบบเบนซิน Dual VVT-I 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงถึง 86แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อมระบบความปลอดภัย เช่น ถุงลมนิรภัย 7 จุดรอบคัน ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC และระบบเบรก ABS ระบบกระจายเบรก EBD พร้อมชุดซ่อมยางฉุกเฉิน หมดกังวลกับการถอยหลังด้วยสัญญาณกะระยะถอยหลังกับ ค่าตัวที่น่าสนใจเพียง 619,000 บาท

 

Mazda 2 1.3 Sport High Connect ราคา 620,000 บาท

Hatchback สายพันธุ์ Zoom-Zoom ที่ยอดขายดีไม่แพ้เจ้าอื่นๆ ด้วยรุ่น High Connect ที่อาจไม่ใช่รุ่นท็อป เพราะค่าตัวไม่เกิน 650,000 บาท แต่ก็สามารถสู้ได้ ด้วยหน้าตาสไตล์ มาสด้า เริ่มจากชุดไฟหน้าทั้งไฟหน้า Projector ไฟ Day Time Running Light พร้อมไฟตัดหมอก แถมยังเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เสาอากาศครีบฉลาม ล้ออัลอยขนาด15 นิ้วยาง 185/65 R15 ที่ปัดน้ำฝนแบบกระจกหน้าแบบอัตโนมัติ มิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,060 มม.ความกว้าง 1,695 มม. ความสูง 1,495 มม. ความยาวช่วงล้อ 2,570 มม. ความจุถังน้ำมัน 35 ลิตร

ภายในเพิ่มสีสันใหม่ด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อมระบบ Cruise Control แผงคอนโซลหน้าตกแต่งด้วยหนัง พร้อมการจัดวางฟังกชั่นต่างๆ หยิบจับใช้งานง่าย ระบบ MZD Connect เชื่อมต่อสู่โลกออนไลน์ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ เบาะนั่งหุ้มผ้าสีดำลายสปอร์ต พร้อมเบาะหลังปรับพับได้แบบ 60/40 มาตรวัดรอบเครื่องยนต์พร้อมจอแสดงความเร็ว Active Driving Displayแบบสี เป็นต้น

ขุมพลัง SKYACTIV เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 1.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุดที่ 93 แรงม้าที่ 5,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-DRIVE พร้อมโหมด Activematic ติดตั้งระบบ i stop (idling stop system) ปลอดภัยด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (GVC) และฟังก์ชั่นความปลอดภัย i-Activsense ทั้ง ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advance Blind Spot Monitoring, ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert, RCTA) ระบบเบรห 4W-ABS EBD ระบบควบคุมการทรงตัว DSC ระบบควบคุมการลื่นไถล TCS ระบบช่วยออกตัวทางชัน HLA ระบบไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS กล้องมองหลังและเซนเซอร์กะระยะช่วยจอด 4 จุด ในราคาเพียง 620,000 บาท

 

Suzuki Swift 1.2 GLX NAVI ราคา 629,000 บาท

Hatchback ยอดนิยมที่ยังตีตั๋วเป็น Eco-Car เครื่องเล็ก มีสไตล์เด่นในร่างใหม่หมดตั้งแต่ กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมพร้อมกรอบโครเมี่ยมและเส้นสีแดงตัดกระจังหน้า ไฟหน้า LED Projector พร้อม ไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกันไฟตัดหมอกทรงกลม ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/65 R16 เสา A ออกแบบใหม่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Swift พร้อมกันนี้ที่เปิดประตูหลังย้ายตำแหน่งไปติดตั้งใกล้ เสา C และไฟท้าย LED มิติตัวรถมีขนาดใหญ่ตั้งแต่ความยาว 3,840 มม. ความกว้าง 1,695 มม. ความสูง 1,495 มม. ระยะฐานล้อ 2,450 มม. และความสูงใต้ท้องรถ 120 มม.

ภายในใหม่ด้วยแผงคอนโซลหน้า พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสปอร์ตแบบท้ายตัด 3 ก้าน พร้อม Cruise Control ช่องแอร์กลางแบบทรงกลมสไตล์สปอร์ต พร้อมจอแสดงข้อมูล MID แบบ LCD และเครื่องเล่นวิทยุแบบจอสัมผัส Suzuki Smart Connect ขนาด 7 นิ้ว ที่ควบรวมระบบนำทางที่แม่นยำ กับฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่าน Bluetooth พร้อมโปรแกรมสุดล้ำ Apple CarPlay สำหรับ iOS และที่ขาดไม่ได้กับเบาะนั่งหลับที่พับได้แบบ 60/40

ขุมพลังขนาดเดิมแต่พัฒนาใหม่แบบ เบนซินหัวฉีดคู่ DUALJET ๅ1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 83 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ความปลอดภัยเหนือกว่าเจ้าอื่นๆด้วย ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS กับระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESPระบบป้องกันการลื่นไถล TCS ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Hold Control ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และยังเหมาะกับการขับในเมืองด้วยระบบ IDLING STOP ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง กับค่าตัวที่เท่ากับ MG 3 รุ่น V เพียง 629,000 บาท

 

Nissan Note 1.2 VL ราคา 640,000 บาท

ปิดท้ายด้วยรถยนต์จากค่ายเพื่อนที่แสนดีที่ ยังคงเดินหน้าสร้างความนิยมอย่างต่อเนื่องถึงบอดี้ตัวรถจะเข้ามาทำตลาดมาปีกว่าหรูสง่าด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยมรูปตัววี Nissan’s V-motion รับกับไฟหน้าทรง Projector แบบ LED ปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อม LED Signature Light กันชนหน้าทรงสปอร์ต พร้อมแถบโครเมี่ยมตรงช่องกันชนด้านล่าง ติดตั้งไฟตัดหมอกหน้าช่วยให้ตัวรถดูภูมิฐาน ล้ออัลลอยลายเดิมยกชุดจากรุ่น Almera ขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/65 R15 ด้านท้ายติดตั้งชุดไฟท้าย LED ทรง Boomerang Design และสปอยเลอร์หลัง มิติใหญ่ เป็นแน่แท้ ตั้งแต่ความยาว 4,105 มม. ความกว้าง 1,695 มม. ความสูง 1,535 มม. ฐานล้อ 2,600 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 155 มม.

ภายในโปร่งสบายกว่าด้วยหลังคารถที่สูง พร้อมเบาะนั่ง 5 ที่นั่ง และเบาะหลังพับได้ 60/40 เช่นกัน พร้อมออพชั่นถูกจริตวัยรุ่นทั้ง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรงท้ายตัด 3 ก้าน มาตรวัดเรืองแสงอัจฉริยะมัลติฟังก์ชัน สบายด้วยเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ เครื่องเล่น DVD พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วจาก Kenwood ที่ใช้งานค่อนข้างยากเชื่อมต่อได้ AUX, USB, Bluetooth และช่องเชื่อมต่อ AV-in , HDMI ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบ Bluetooth พร้อมลำโพง 4 ตัว

ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์สหกรณ์จากสองศรีพี่น้อง Almera และ March แบบ เบนซิน 1.2 ลิตร 3 สูบให้กำลังสูงสุด 79 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 106 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที คู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT D-Step Logic พร้อมระบบตัดการทงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ Idling Stop

ความปลอดภัยจัดเต็มทั้ง ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSAระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ Intelligent Forward Collision Warning (FCW) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking ทั้งยานยนต์ และ บุคคล Pedestrian (FEB/PFEB) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง Lane Departure Warning (LDW) กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (AVM) ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ คน รอบคัน Moving Object Detection (MOD) ระบบเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA และถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS กับราคาที่สูงสุดในกลุ่มเพียง 640,000 บาท

 

รถยนต์ Hatchback เล็ก 6 รุ่นจากค่ายรถยนต์ชั้นนำ มีจุดดีจุดเสียที่แตกต่างกัน โดยข้อมูลที่กล่าวมา มีประโยชน์ไม่มากก็น้อยเพื่อประกอบในการตัดสินใจเป็นเจ้าของ งานนี้รักใครชอบ คุณลูกค้าเท่านั้นเป็นผู้ชี้ชะตา!!!!!!

 

เรื่องโดย นายเต้ย

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com