Deft Versus : Mitsubishi Mirage Vs. Suzuki Celerio จากจริงผู้ใช้ ....ความเหมือนที่แตกต่าง

จับเชงประชันสองอีโค่คาร์ที่หลายคนหมายตา เมื่อ Mitsubishi Mirage ต้องเจอคู่ปรับใหม่ Suzuki Celerio ประหยัดเหมือนแต่ยังเหลือในเรื่องความแตกต่าง

 

เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง

 

ทุกวันนี้เราคงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า พวกเราจำนวนไม่น้อย ต่างมองรถยนต์ที่มีขนาดที่เพียงพอต่อการใช้งาน เช่นเดียวกับ ความลงตัวในสมรรถนะการขับขี่ที่ยังต้องมาพร้อมความประหยัดน้ำมัน

รถที่กล่าวถึงนี้คงไม่ใช่รถอะไรอื่นไกล นอกจากรถยนต์อีโค่คาร์ที่เราหลายคนคุ้นเคย แต่ในหลายรุ่นที่วางจำหน่าย นาทีนี้มีคนถามมามากมายเหลือเกินระหว่างสองค่ายที่กำลังหั่นกันอย่างสนุกสนาน ฝั่งแดง คือ  Mitsubishi Mirage  อีโค่คาร์ที่ขึ้นชื่อว่าคุ้มที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด ส่วนอีกด้านเป็นน้องใหม่ ไฉไลที่แตกต่างด้วยขนาดเครื่องยนต์และช่วงตัวที่เล็กกว่า แต่เราพิสูจน์มันในการทดสอบ  Suzuki Celerio  นี้ไม่ธรรมดา แต่ใครจะดีกว่า...คนที่ตอบได้ดีที่สุดคือผู้ใช้

ต้องยอมรับว่าคงไม่ใช่ความคิดที่ดีนักที่เราจะยื่นรถทดสอบให้ใครสักคนขับ แต่กับคนข้างกายที่เว้าวอนอยากจะหาความเหมือนที่แตกต่าง ระหว่างรถที่เขาใช้ทุกวัน  Mitsubishi mirage  เมื่อเทียบเจ้าเปี้ยกน้องใหม่ Suzuki Celerio  นั้น การรีวิวสั้น ในสไตล์ผู้ใช้ รีวิวนี้ก็จึงบังเกิด

 

Mitsubishi Mirage  ตัวเปี้ยกร้อยออพชั่น ....ความกินขาดที่ยากจะกลืน

 

ย้อนกลับในช่วงที่โครงการรถยนต์คันแรกเริ่มต้นขึ้น ตอนนั้นรถยนต์อีโค่คาร์ยังมีไม่มากมายหลายรุ่นนัก และรถรุ่นหนึ่งที่อยู่ในสายตามาตลอด คงไม่พ้น  Mitsubishi mirage  อาจจะไม่ใช้เพราความสนใจในตัวรถเสียทีเดียว แต่เพราะพรีเซนเตอร์หนุ่มหล่อหน้ามล “นิชคุณ” ที่เชื่อว่า จะทำให้ใครหลายๆคนต้องเคลิ้มไม่มากก็น้อย

ตัวตนของ  Mitsubishi mirage จะว่าไปมันคือการนำเสนอตัวตนในการเดินทางสไตล์สปอร์ตรุ่นเล็กที่ราคาสามารถจับต้องได้ ด้วยเส้นสายที่วางให้รถยนต์คันนี้ถ่ายทอดดีเอ็นเอความสปอร์ตจากรุ่นพี่ที่ทำตลาดอยู่ดั้งเดิม มาตอบความต้องการของความประหยัด ตัวรถในรุ่นท๊อปมาพร้อมความลงตัวทางด้านหลักอากาศพลศาสตร์ ลงตัวกับสปอร์ยเลอร์หลังคา

แต่ความโดดเด่นที่แท้จริง อยู่ที่การให้ฟังชั้นและออพชั่นที่จำเป็นต่อการใช้งานครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะระบบออพชั่นไฟฟ้าต่างๆ ที่เรียกว่า  ETAC  รวมถึง กุญแจแบบสมาร์ทเอ็นทรี่ เป็นอีกไฮไลท์สำคัญ ส่วนภายในห้องโดยสาร คุณภาพวัสดุไม่ย่ำแย่อย่างที่หลายคนจะไม่เยื่อใยอีโค่คาร์ แต่กลับลงตัวในสไตล์สปอร์ต รุ่นท๊อปยังมาพร้อมเครื่องสียงหน้าจอสัมผัส แต่อย่างรุ่นที่คนใกล้ตัวใช้อยู่นี้เป็นรุ่นรองท๊อป ออพชั่นที่ว่านี้จึงขาดตกไป

ใต้ฝากระโปรงเครื่องยนต์ เป็นแบบ 3  สูบแถวเรียงขนาด  1.2  ลิตร  ขับมาในเมืองก็ค่อนข้างประหยัดเอาเรื่องอยู่ เคยวัดได้เฉลี่ยในยามรถติดได้ ราวๆ  15 ก.ม./ลิตร และนอกเมือง เฉลี่ยอยู่ที่  17 ก.ม./ลิตร โดยประมาณ แล้วแต่สภาพการขับขี่ และการใช้งานระบบเกียร์ CVT  ยิ่งคุ้นเคยก็ยิ่งประหยัดมากขึ้น 

เมื่อมองในภาพรวมแล้ว  Mitsubishi Mirage  ยังเป็นอีโค่คาร์ที่ให้ความคุ้มค่าเอาไว้ค่อนข้างมาก ในตัวตน เมื่อเทียบกับราคาที่ต้องจ่ายไป

 

Suzuki Celerio  ประชันความต่างด้วยความประหยัด

 

นาทีที่เราได้ข้อสรุปในเจ้ารถบ้าน Mitsubishi Mirage   ก็ถึงเวลาที่ให้คุณเธอไปลองทดสอบ Suzuki Celerio  เจ้าเปี้ยกอีโค่คาร์ ที่ใครๆ ก็คงจะต้องร้อง จริงดิ!! เมื่อเราพูดว่ามันมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.0  ลิตร

ตัวตนของ Suzuki Celerio   ค่อนข้างต่างจาก  Mitsubishi  Mirage  มากพอสมควร แม้จะเคยมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเป้าหมายหลักของ  Suzuki Celerio  คือการมาถล่มเกย์ทับกระเทยจัด รถยนต์จากค่ายทรีไดมอนด์

ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็พอจะเทียบได้อยู่บ้าง แต่สิ่งที่แฟนบอกทีแรกคือ Suzuki Celerio   อาจจะต้องพิสูจน์ตัวตนในเรื่องการออกแบบ ซึ่งในรุ่นท๊อป ต้องยอมรับว่ามันมีดีกว่า เจ้าน้องเต่าแดง (Mitsubishi Mirage)  อยู่บ้างตรงในเรื่องของการเติมพวกชิ้นส่วนที่ดูราวกับถอดออกมาเป็นชุดแต่ง แต่จะมีเฉพาะรุ่นท๊อป เท่านั้นที่ให้มา (ก่อนหน้านี้ เคยไปแอบเดินดูรุ่นกลางที่โชว์รูม)

ในขณะที่การเข้ารถยังอาจจะใชเรีโมทธรรมดา และคุณยังต้องบิดสตาร์ทเหมือนรถทั่วไปไม่ได้สร้างความหวือหวา แต่มันก็สร้างความเรียบง่าย แง่ที่ดีกว่า คือ เบาะนั่งตอนหน้าที่นั่งได้ค่อนข้างสบายกว่า แต่เบาะนั่งตอนหลัง สมควรจะปรับปรุงเรื่องหมอนรองคอ และเครื่องเสียงก็ไม่ใช่ นาวิเกชั่นหรือสัมผัสอะไรอย่างที่เป็น แต่มันดีพอในเรื่องของพลังเสียง ที่ขับกล่อมสุนทรีย์ในการเดินทาง

มาถึงตรงนี้อาจจะคิด ไม่มีอะไรที่จะดีกว่าเลยหรอ แต่เดี่ยวก่อน สิ่งที่ดีกว่าของ  Suzuki celerio  นั้นกลับกลายเป็นสมรรถนะในการขับขี่ เริ่มจากความประหยัดที่มากกว่าของเครื่องยนต์ 3  สูบ แถวเรียงขนาด 1.0  ลิตร ที่ไม่ว่ามองด้านไหน ก็คงต้องมีความประหยัดกว่าแน่ และสมรรถนะการขับขี่จากที่ได้ลองขับ เธอบอก มันดีกว่า 1.2  ลิตรในเจ้าเต่าแดงด้วยซ้ำ

ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนัก  เมื่อ Suzuki Celerio  มีความเบากว่า ในตัวตนของมัน ด้วยน้ำหนักเพียง   835 กก.  ในขณะที่ Mitsubishi Mirage  มาพร้อมพิกัด  875  กก. ในรุ่นรองท๊อป อย่างที่บ้านใช้อยู่ หรือเบากว่า 40 กก.  และในรุ่นท๊อปมันมีพิกัดถึง   880  กก. หรือมากกว่า  45 กก.  ใสขณะที่เครื่องยนต์มีกำลังแตกต่างกัน 10  แรงม้า เท่านั้นเอง

นั่นหมายถึง อัตราเร่งค่อนข้างพุ่งกว่าเล็กน้อยใน Suzuki Celerio  และ พร้อมกัน ยังมีภาษีในเรื่องความประหยัดมากกว่า อย่างการขับในเมืองตัวเลข  20.9  ก.ม./ลิตร มีให้เห็นและเป็นไปได้ โดยที่ไม่ต้องเข้าโหมดประหยัดเพื่อสร้างตัวเลขมากมายนัก

อีกสิ่งที่นาชื่นชมเลย คือ พวงมับที่มีน้ำหนักเบากว่าคู่ชก ทำให้มันมีความคล่องตัวมากกว่าอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่อีกนัยเมื่อขับความเร็วสูง มันก็ยากที่จะควบคุม  แม้จะไม่ใช่นักทดสอบมืออาชีพ อย่างผู้เขียน แต่เจ้าตัวก็กล้าที่จะพูดว่า  “มันไม่เหมาะกับมือใหม่หัดขับ”

แต่แม้มันอาจจะดูไม่ลงตัว ด้วยเป้าหมายที่ Suzuki  ต้องการจับกลุ่มนักศึกษาและพ่อแม่ที่อยากให้ลูกมีรถยนต์ใช้ไปเรียน หรือเริ่มต้นทำงาน หากว่า สิ่งที่ต้องยอมรับ คือระบบช่วงล่างของ  Suzuki Celerio  ค่อนข้างเซทมาดี มันลงตัวต่อการใช้งาน และเกาะถนนเป็นเลิศ ทว่าปัญหาการควบคุมบนพวงมาลัยนั้น็น่ากังวลอยู่

 

ถ้าถามว่าควรเลือกคันไหนเป็นรถคู่ใจ เมื่อคุณมองสองรถยนต์อีโค่คาร์ที่โดนใจใครหลายคน อาจจะต้องยอมรับว่ามันพูดยากมาก เพราะความต้องการของแต่ละคนต่างกัน แต่ท้ายสุดเอาเป็นว่า ชอบคันไหน เลือกคันนั้น ...เราแค่พอชี้แนะความแตกต่างให้ได้ 

 

ขับโดย จินตนา เรียบเรียงเรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

[GALLERY522]

[GALLERY696]