Deft Versus : ประชันโฉม 3 อเนกประสงค์เล็กขวัญใจคนเมืองจากค่ายรถชั้นนำ
- โดย : Autodeft
- 14 พ.ย. 60 00:00
- 126,818 อ่าน
ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาตลาดรถ SUV เมืองไทยได้มีโอกาสเปิดเผยกลุ่มรถประเภทใหม่นั่นคือกลุ่มรถ B-SUV ที่มีขนาดเล็กกว่ากลุ่ม C-SUV เจาะจงเฉพาะคนที่มีไลฟ์สไตล์ ชอบเรื่องเทคโนโลยี ที่แตกต่างกัน โดยส่วนมากจะเป็นคนเมืองหลวงที่เป็นเป้าหมายหลัก
โดยมีความคล่องตัวสะดวกสบาย รวมถึงเทคโนโลยี ความแรง ความปลอดภัยให้มาครบครัน ไม่แพ้รุ่นพี่ C-SUV จนเป็นที่ยอมรับมากขึ้น นำโดย Honda HR-V กับ Mazda CX-3 ดาวค้างฟ้าประจำกลุ่มที่สร้างยอดขายอย่างเป็นกอบเป็นกำแต่แล้วมีผู้ท้าชิ่งลูกครึ่งอังกฤษ-จีน ท้าดวลด้วยการเปิดตัว MG ZS อย่างเป็นทางการทำให้ตลาด รถยนต์ กลุ่ม B-SUV มีความสนุกมากขึ้น ยิ่งใกล้ช่วงงาน Motor Expo 2017 ที่จะจัดขี้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ทำให้ Autodeft จับ 3 รุ่นในกลุ่ม B-SUV มาเทียบกันจะๆ เพื่อเป็นข้อมูลการตัดสินใจซื้อ ก่อนที่คู่แข่งรายสำคัญเตรียมจะเปิดตัวเร็วๆนี้ถึง 2 ยี่ห้อ เริ่มกันที่
MG ZS น้องใหม่ล่าสุดจากค่าย MG ที่ขอร่วมชิงเค้กก้อนนี้ ด้วยดีไซน์ออกแบบแบบฉบับ Brit Dynamic คล่องตัวปราดเปรียว ด้านหน้ามาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่แบบเดียวกับรถหรู Jaguar ให้ความรู้สึกหรูหรา ส่องสว่างด้วยไฟหน้า Projector ไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวัน Daytime ด้านหลังโดดเด่นด้วยไฟท้าย LED TUBE เปิดประสบการณ์ที่กว้างกว่าด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา มอบความรู้สึกโปร่งสบายกว่า ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED อีกทั้งยังได้ติดตั้งไฟตัดหมอกหน้า-หลังไว้อีกด้วย และล้ออัลลอย ทั้ง 16 นิ้วพร้อมยาง 205/60 R16 และ ขนาด 17 นิ้วสีทูโทน พร้อมยางขนาด 215/50 R17 สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต ราวหลังคาเสริมลุคและตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย
ด้าน Mazda CX-3 ทำตลาดมา 2 ปี พึ่งจะเปิดตัวรุ่นปรับปรุงได้ไม่นาน ภายนอกยังคงเดิมตั้งแต่ กระจังหน้า แบบ Signature Wing พร้อมกรอบโครเมี่ยม ไฟหน้า Projector แบบ LED พร้อมไฟ LED Daytime ไฟตัดหมอกหน้า ดีไซน์แนวตั้งและไฟท้ายทรงสปอร์ต พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วสีรมดำพร้อมยางขนาด 215/50R18 (2.0 S, 2.0 SP และ 1.5 XDL) กับขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 215/60 R16 แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปนั่นคือ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวดีไซน์ใหม่
Honda HR-V อยู่ตลาดมา 3 ปี จวนที่จะมีรุ่นปรับโฉมในอีกไม่ช้า แต่ดีไซน์ยังโดดเด่นเช่นเคย ทันสมัยด้วยไฟหน้า LED สอดรับกับกระจังหน้า ตามแนวคิด Solid Wing face พร้อมไฟส่องสว่างวิ่งกลางวันแบบ LED เข้ามาตอบโจทย์ในการขับขี่ ทั้งกลางวันและกลางคืนเสริมด้วยไฟท้าย LED แบบ Tube หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) พร้อมระบบเปิดปิดแบบ One-Touch คมเข้มสอดรับความหรู ด้วย ล้ออัลลอย 5 ก้าน รมดำ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/55 R17 และ มือจับเปิดประตูด้านหลังที่ได้รับการออกแบบให้กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับกระจกรถในสไตล์สปอร์ตคูเป้ เรียกคะแนนความสนใจมากขึ้น กับเสาอากาศแบบครีบฉลาม
ขนาดตัวรถ Honda HR-V กับ Mazda CX-3 และ MG ZS มีดังนี้
ขนาดตัวรถ |
Honda HR-V |
Mazda CX-3 |
MG ZS |
ความยาว (มม.) |
4,294 |
4,275 |
4,314 |
ความกว้าง (มม.) |
1,772 |
1,765 |
1,809 |
ความสูง (มม.) |
1,605 |
1,550 |
1,624 |
ฐานล้อ (มม.) |
2,610 |
2,570 |
2,585 |
น้ำหนัก (กก.) |
1,292 |
1,310 |
1,258 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มม.) |
185 |
160 |
165 |
ความจุถังน้ำมัน (ลิตร) |
50 |
48 |
48 |
ขนาดล้อ |
17X7.0J |
18X7.0J |
- |
ขนาดยาง |
215/55R17 |
215/50 R18 |
215/50R17 |
จะเห็นได้ว่า MG ZS ได้เปรียบในเรื่องความยาว กว้าง และสูงของตัวรถ เมื่อเทียบกับคู่แข่งแดนปลาดิบถึง 2 รุ่น แต่ในด้านฐานล้อพบว่าสั้นกว่า Honda HR-V เพียง 25 มม. แต่ยาวกว่า Mazda CX-3 เพียง 15 มม. น้ำหนักรถ Mazda CX-3 จะหนักกว่าใคร และระยะต่ำสุดจากพื้น ทาง Honda HR-V มากกว่าใครนั่นเอง
ภายในทั้งสามรุ่นมีจุดเด่นที่ต่างกันไปเริ่มจาก MG ZS ประกอบไปด้วยการตกแต่งด้วยสีแบบทูโทนดำน้ำตาล สไตล์รถยุโรป เบาะนั่งด้านหลังพับแยกส่วนได้ 60:40 เพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ พวงมาลัยหุ้มหนัง ปรับระดับ 2 ทิศทาง มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ เบาะคนขับสามารถปรับ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง ติดตั้งหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล ช่องปรับอากาศออกแบบสไตล์เจ็ท เทอร์ไบน์ ปุ่มสตาร์ท พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมเครื่องเสียง พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ มอบความบันเทิงด้วยลำโพง 6 ตัว บริเวณกลางแดชบอร์ดติดตั้งหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ และ USB และระบบ I-Smart รองรับการสั่งการภาษาไทยครั้งแรกในโลก
ภายในยังมีกลิ่นไอความเป็น Zoom-Zoom สำหรับ Mazda CX-3 ตั้งแต่แผงหน้าปัดมาพร้อม ฟังก์ชั่นต่างๆที่สามารถหยิบจับใช้งานง่ายพร้อมออพชั่นที่ครบครันไม่ว่าจะเป็น ระบบ MZD Connect เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังและผ้า Lux Suede สีดำเดินด้ายสีแดง แผงตกแต่งประตู และคอนโซลกลางสีแดงพร้อมความเงางามด้วย สีเงินวาว พร้อมสีดำเงาสลับลวดลายคาร์บอนเคฟล่า พร้อมเบาะนั่งด้านหลังปรับพับได้แบบ 60/40 มาตรวัดรอบเครื่องยนต์พร้อมจอแสดงเหนือพวงมาลัย Active Driving Display แบบสี และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านทรงสปอร์ตแบบเดียวกับรุ่น Mazda 2, 3 และ CX-5
Honda HR-V ยังคงเดิมกับความหรูหราแฝงความสปอร์ตด้วยโทนห้องโดยสารสีดำเข้ม 5 ที่นั่ง เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System) ระบบเครื่องเสียง หน้าจอสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ พร้อมเบาะนั่งอเนกประสงค์ที่สามารถปรับพับได้ 3 รูปแบบ (40/60) เพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน สบายด้วย ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold ที่จะทำการหน่วงเบรกต่อโดยอัตโนมัติหลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง
ด้านขุมพลังจาก อเนกประสงค์เล็ก 3 รุ่นเด่นนี้ ดูเหมือนว่า ทาง Mazda CX-3 ได้เปรียบกว่าเจ้าอื่นด้วยขุมพลังที่หลากหลายจาก SKYACTIV ตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที นิวตันเมตร 204 นิวตันเมตรที่ 2,800 รอบ/นาที รองรับพลังงานสูงสุด E85 กับ เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลเทอร์โบ SKYACTIV-D 1.5 ลิตร 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิด 270 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,500 รอบ/นาที โดยเครื่องดีเซลให้สมรรถนะเทียบเท่าเครื่องเบนซิน 2.5 ลิตร ทั้ง 2 เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive 6 สปีด และระบบ Drive Selection ในกรณีที่ต้องการเร่งแซงสามารถเลือกโหมดขับขี่ Sport ได้ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร รวมถึงควบคุมการขับขี่ขึ้นด้วยระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า (EPAS)
Honda HR-V มีขนาดเดียวคือเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 141 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รอบต่อนาที รองรับพลังงานทางเลือก E85 พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ มอบอัตราเร่งที่ดีเยี่ยมและการประหยัดน้ำมัน
ถึงจะใหม่กว่าสดกว่าแต่ขุมพลังอาจด้วยกว่าคนอื่นสำหรับ MG ZS กับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อม Manual Mode
ความปลอดภัยทั้ง 3 รุ่น จัดว่าครบครัน เริ่มจาก MG ZS MG เด่นด้วยถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยแบบ SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM รวม 9 ฟังก์ชั่น ที่ทำงานประสานกันเป็นหนึ่งเดียว
- ABS – Anti-lock Braking System ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน
- EBD – Electronic Brake Force Distribution ระบบช่วยกระจายแรงเบรก
- EBA (Electronic Brake Assist) ระบบเสริมแรงเบรก
- TCS – Traction Control System ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล
- CBC – Curve Brake Control ระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง
- SCS – Stability Control System ระบบควบคุมการทรงตัว
- HAS – Hill Start Assist System ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน
- TPMS – Tire Pressure Monitor System ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (เฉพาะรุ่น X)
- Emergency Stop Signal ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือนเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน
ส่วน Mazda CX-3 เพิ่มความมั่นใจมากขึ้นด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) ช่วยให้ควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์เพื่อความแม่นยำในการถ่ายทอดกำลังลงล้อ ส่งผลให้การขับขี่ทางโค้งราบรื่น เป็นออพชั่นมาตรฐาน นอกจากนี้ระบบความปลอดภัย i-Activsense ยังเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น
- Mazda Radar Cruise Control (MRCC) = ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า
- Adaptive LED Headlamps (ALH) = ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำแยกอิสระซ้าย-ขวา
- Smart City Brake Support-Reverse (SCBS-R) = ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ จากการชนปะทะด้านหลัง
- Driver Attention Alert (DAA) = ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่
- Smart Brake Support (SBS) = ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ
- Smart City Brake Support (SCBS) = ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ
- Advanced Blind Spot Monitor (ABSM) = ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
- Lane Departure Warning System (LDWS) = ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน
- Rear Cross Traffic Alert (RCTA) = ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
พร้อมระบบความปลอดภัยมาตรฐานทั้ง ระบบ ESS สัญญาณไฟกระพริบเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกรถอย่างกระทันในภาวะฉุกเฉิน ระบบเบรก ABS ทั้ง 4 ล้อ พร้อม EBD ที่ช่วยกระจายแรงเบรก, ถุงลงนิรภัยคู่ (ทุกรุ่น) และถุงลมนิรภัยด้านข้างกับม่านถุงลมนิรภัย (เฉพาะรุ่น SP), DSC (Dynamic Stability Control) ช่วยควบคุมเสถียรภาพ และการทรงตัวของรถ, HLA (Hill Launch Assist) ช่วยในการออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน และ TCS (Traction Control System) ช่วยป้องกันรถเลื่อนไถล
ปิดท้ายด้วย Honda HR-V ทีระบบความปลอดภัยอาจด้วยกว่า สองเจ้าที่กลาวมาอยู่นิดนึง ทั้งระบบเบรก ABS EBD ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) รวมถึงช่วยให้ในการขับขี่ง่ายด้ายขึ้น ด้วยกล้องส่องภาพด้านหลัง สามารถปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera)และท้าย สุดยังมีระบบถุงลม 6 ตำแหน่งเพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่
ราคาจำหน่ายมีดังนี้
MG ZS
- รุ่น 1.5L C ราคา 679,000 บาท
- รุ่น 1.5L D ราคา 729,000 บาท
- รุ่น 1.5L X ราคา 789,000 บาท
Mazda CX-3
- 1.5 XDL SKYACTIV-D ราคา 1,193,000 บาท
- 2.0 SP SKYACTIV-G ราคา 1,083,000 บาท
- 2.0 S SKYACTIV-G ราคา 975,000 บาท
- 2.0 C SKYACTIV-G ราคา 910,000 บาท
- 2.0 E SKYACTIV-G ราคา 835,000 บาท
Honda HR-V
- รุ่น 1.8 EL ราคา 1,099,000บาท
- รุ่น 1.8 E Limited ราคา 1,050,000บาท
- รุ่น 1.8 E ราคา 999,000 บาท
- รุ่น 1.8 S ราคา 933,000 บาท
เรื่องและเรียบเรียงโดย นายเต้ย
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com