Deft Versus After Drive : Honda Civic 1.5 Turbo VS 2017 Mazda 2.0 Sedan มวยถูกรุ่นแม้ดูแตกต่าง
- โดย : Autodeft
- 6 ก.พ. 60 00:00
- 46,958 อ่าน
ให้ตายสิ ตั้งแต่ผมขึ้นรีวิว Honda Civic 1.5 Turbo เมื่อกลางปีกลาย ก็มีแฟนๆ ชาว Autodeft หลายคนพูดคุยเรียกเปรียบเทียบเจ้าซีวิคใหม่ กับรถยนต์ Mazda 3 ทันที ในตอนนั้น เรียนตามตรงว่า มาสด้าเป็นมวยรองบ่อนพอตัวด้วยออพชั่นที่เปิดมานานแล้วกว่า 2 ปี แต่มาวันนี้ผมว่าได้เวลาที่เราควรจะนำมันมาเปรียบเทียบให้ชัดหลังขับว่า เจ้ารถยนต์คอมแพ็คคาร์ที่หลายคนปรายตามองทั้งสองรุ่นนี้ ใครจะซื้อใจลูกค้าได
การเปรียบเทียบผมขอจับรุ่นท๊อปเจอรุ่นท๊อป เพราะถึงทั้งคู่จะดูเป็นมวยต่างรุ่นกัน ด้วยหนึ่งเครื่องยนต์เทอร์โบ หนึ่งเครื่องยนต์ธรรมดาทั่วไป หากที่เหมือนกัน คือทั่งคู่สร้างสรรค์วิศวกรรมด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงจากผู้ผลิต และราคาก็ไม่หนีกันมากในเวลานี้ และประกอบกับคนซื้อรถทั้งสองรุ่นก็เป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน รวมถึงผมผ่านมือแล้วทั้งสองรุ่น จึงสามารถเปรียบเทียบได้ชัดเจน ตามข้อมูลจริงจากการขับขี่
Honda Civic Turbo มีดีเรื่องซิ่ง เทอร์โบก็จริงแต่ฟีลไม่ใช่
ตั้งแต่เปิดตัวมาเมื่อมอเตอร์โชว์ปีที่แล้ว รถยนต์ Honda Civic เป็นรถยนต์ตัวชูโรงให้กับทางฮอนด้าตลอดปี ยอดดขายของมันคงไม่ต้องพูดถึง เมื่อวัดเอาจากจำนวนรถยนต์บนถนน แม้ว่าส่วนใหญ่ที่เห็นจะเป็นรุ่น 1.8 ลิตรแต่ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ก็ขายได้ไปไม่น้อยเช่นกัน
Honda Civic Turbo กลายเป็นปรากฎการณ์ที่ทำให้สาวกกระเหี้ยนกระหือรืออยาจะครอบครองอย่างมาก โดยเฉพาะในรุ่น RS ที่มาพร้อมควาหล่อเหลาเสร็จสรรพตั้งแต่ภายนอกจรดภายใน เรียกว่าหล่อเนี้ยเฉียบทั้งคัน ตั้งแต่การออกแบบใหม่ที่ออกมาในทรง Coupe Like จนสาวกกดถูกใจว่านี่แหละใช่..... ไม่เหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ที่ออกมาแล้วบอกว่า นี่มันอะไรกันล่ะเนี่ย
ตัวรถที่ดูสปอร์ตในรุ่นท๊อปไลน์อัพ ฮอนด้ายังให้ระบบ Honda Lane Watch พร้อมถุงลมนิรภัยทางด้านหน้า และม่านนิรภัยมาอย่างครบครัน ลงตัวครอบคลุมในการใช้งานเพียงสำหรับคอมแพ็คคาร์แล้ว รวมถึงยังเติม่ความทันสมัยด้วยเรือนไมล์ TFT และหนึ่งเดียวในตอนนี้ที่มีระบบ Remote Engine Start
ตอนทดลองขับยอมรับว่า Honda Civic Turbo เป็นรถที่ขับดีมากๆ หนึ่งคันที่ผ่านมือมาในปี 2016 ด้วยการิสวกรรมที่สดใหม่ ทำให้รถคันนี้ขับดีใกล้เคียงกับคู่แข่งในตลาดอย่างมาสด้า ที่ย่างสามขุมมาเชือดซีวิครุ่นเก่าดอยยอดขายไปโซ้ยแหลกได้อยู่พอสมควร
ซีวิคใหม่จึงกำเนิดเกิดขึ้นให้มีความสปอร์ตมากกว่าเดิม การขับขี่พวงมาลัยช่วงล่างมาในสไตล์แน่นหนึบตั้งแต่แรกสัมผัส แต่ยังคงความเป็นรถยนต์นั่งไว้เหนียวแน่นเช่นกัน มันเป็นรถที่ขับด้วยความเร็วได้อย่างมั่นใจ ครั้งหนึ่งเคยพลาดท่า บินที่ความเร็ว 200 ก.ม./ช.ม. ในระหว่างการทดสอบสมรรถนะ เจ้า Honda Civic ใหม่ ยังสามารถคุมให้อยู่ในอาณัติได้แบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากๆ
ส่วนเรื่องเครื่องยนต์ที่หลายคนบอกว่ามันเร้าใจแรงมากมาย กระสันเมื่อได้ยินคำว่า “เทอร์โบ” ออกมาจากบริษัทผู้ผลิต เอาเข้าจริงมันเร่งได้เร้าใจก็ถูกต้องแล้ว แต่ระบบเกียร์ CVT กลายเป็นหอกข้างแคร่ทำเอาสัมผัสกระชากหายไปพอสมควร ที่จริงมันออกอารมณ์รถบ้านมากกว่า ยังดีชุดเกียร์เป็นแบบสเต๊ปอัพ อัตโนมัติ ตื้ดต่อเกียร์เมื่อเร่งสุดเอง ส่วนเครื่องยนต์ถึงจะมาพร้อมเทอร์โบก็จริงแต่ความรู้สึกถ้ามีโอกาสสัมผัส จะบอกเลยว่าไม่ใช่ มันเหมือนคุณขับรถยนต์ทรงพลังเครื่องใหญ่มากกว่า กำลัง 173 แรงม้าก็จริง แต่แรงบิดเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร ก็เลยทำให้คุณออกตัวเร่งรอบเครื่องยนต์ได้เร็ว ตอบสนองเวลาเร่งแซงได้ดีกว่า
พอขับจริงๆ Honda Civic นั้นมีดีที่ความสดใหม่ในการออกแบบ และว้าวด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ ทีแม้ว่ามันอาจจะไม่กระชากสมคำว่าเทอร์โบในร่าง แต่ก็ขับได้สนุกสุดกู่อยู่ไม่หยอกรวมถึงความทันสมัยด้วยออพชั่นกระจุกกระจิกในเรือนร่าง
สำหรับผมนั่นคือทีเด็ดของ Honda Civic 1.5 เทอร์โบ ที่ทำให้มันยังเหนือคู่แข่งในตอนนี้
Mazda 3 2017 ตบคู่แข่งคว่ำด้วยความปลอดภัย
ในช่วงปีที่ผ่านมา ยอมรับวา สมครามคอมแพ็คคาร์ เริ่มระอุร้อนฉ่า หลังจากรถคันแรกจำนวนมากเริ่มปลดล็อค ออกระวางตามเต็นท์ ทำให้มีกลุ่มลูกค้าจำนวนหนึ่งเริ่มมองหารถยนต์ใหม่ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและแม้ว่ารถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กจะเป็นกลุ่มรถที่ขายดีเสมอมาตลอดปลายปี แต่นี่เป็นโอกาสที่จะเรียกยอดสู่ฐานรถยนต์คอมแพ็คคาร์ ที่ซบเซามานาน
เกมใหม่ที่บรรดาผู้ผลิต เลือกที่จะนำมาชูโรงคือ เกมทางด้านเสริมระบบความปลอดภัย อย่างที่ผมเคยเขียนไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้ว่าเทรนด์คอมแพ็คคาร์ทั่วโลก เบนเข็มหัวหัวมาทางด้านความปลอดภัย ทำให้รถดิมที่ขายในบ้านเรามีการปรับตัว เช่น Toyota ยัดถุงลม 7 ใบมาให้ส่งท้ายปีที่แล้ว ... และผมเองก็จับตาหมากของมาสด้า ว่าพวกเขามองอะไรเปลี่ยนไป
มาสด้า 3 เรียกว่าเป็นรถเรือธงของมาสด้า เป็นรถยนต์ที่สร้างยอดขายเป็นชิ้นเป็นอันมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ยิ่งรุ่นใหม่จัดความสปอร์ตเต็มพิกัดถูกใจลูกค้า ทำให้การเปลี่ยนแปลงรถรุ่นนี้ในการไมเนอร์เชนจ์ถูกจับตาจากคนทั่วโลก
เมื่อ Mazda 3 ใหม่ไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวออกมาหลายคนต่างส่งเสียงเดียวกันเมื่อเห็นเรือนร่างว่า นี่เปลี่ยนแล้วใช่ไหม ... อย่าว่าแต่คนอื่นเลยผมเองก็คิดเช่นกัน
แต่เมื่อมาดูตัวรถจริงๆ ต้องยอมรับว่ามาสด้า 3 ดันเน้นเปลี่ยนจุดที่ลูกค้าได้ใช้ได้สัมผัสจริงๆ โดยเฉพาะภายในนี่อัพเดทพอสมควร เพิ่มความทันสมัยมาอย่างเบรกมือไฟฟ้า ระบบ Cruise Control ลบจุดบอดตัวรถ การตบแต่งที่สปอร์ตมากกว่ารุ่นก่อนหน้า
ตลอดจน มาสด้ายังอัดไฮไลท์สำคัญที่เอาทุกคนอึ้งไปตามๆ กัน คือระบบความปลอดภัยสนับสนุนการขับขี่ Active Safety มากมาย ในแพ็คเกจ I Active Sense จัดมายกเซทใส่ไว้ในรุ่นท๊อป เช่นระบบเตือนการออกเลน , ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ ทั้งทางด้านหน้าและด้านหลัง ,ระบบเตือนจุดอับสายตา , ระบบตรวจสอบความเหนื่อยล้าในการขับขี่ , ไปจนถึงระบบควบคุมความเร็วอัจฉริยพ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น
ทว่าหลังจากมีโอกาสทดลองขับ เมื่อไม่นานมานี้ ต้องกล่าวเลยว่าหมากเกมสำคัญของ Mazda 3 ใหม่นั้น จริงๆ เป็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้รถ ระบบ G Vectoring Control ฟังดูก็เหมือนเป็นเพียงอีกระบบที่ช่วยให้รถเข้าโค้งได้ดีขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น
หลังจากสัมผัส ผมกล้าพูดว่า เจ้า Mazda 3 ใหม่ แทบจะเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน ระบบนี้ช่วยในการถ่ายโอนน้ำหนักในระหว่างการเข้าโค้ง ใช่!! มันทำให้รถขับสนุกในทางโค้งขึ้น แต่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งกว่าที่มันสามารถลดแรงเหวี่ยงในการเข้าโค้ง ลดการโคลงตัวรถได้ดีเยี่ยม จนช่วยลดอาการเหนื่อยล้าในการขับขี่ และช่วยเพิ่มความสบายในการโดยสารด้วย
หลายคนอาจจะแย้งผมว่า แล้วมันจะเจ๋งกว่า Honda Civic ได้อย่างไรในเมื่อคู่แข่งมีเครื่องยนต์เทอร์โบ แต่คุณๆ อย่าลืมว่ามาสด้า พัฒนาเทคโนโลยี Mazda Sky Activ ใหม่ มาเพื่อตอบสนองในการขับขี่ให้สมดุล เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 165 แรงม้าและให้แรงบิด 210 นิวตันเมตร อาจจะพ่ายคู่แข่งเครื่องเทอร์โบ (Civic ให้กำลัง 173 แรงม้า และแรงบิด 220 นิวตันเมตร ต่อเนื่องตั้งแต่ 1,700-5,500 รอบต่อนาที)
แต่เมื่อดูให้ดีกำลังของมันนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากอย่างที่เห็น ด้วยมาสด้าพัฒนาเครื่องยนต์ของพวกเขาให้มีการตอบสนองดี ด้วยเครื่องยนต์กำลังอัดสูงถึง 14.0:1 มาพร้อมสูตรท่อไอเสีย 4-2-1 และที่สำคัญที่สุดระบบเกียร์เป็นเกียร์อัตโนมัติที่พัฒนาพิเศษ ตอบสนองใกล้เตียง CVT แต่ขับแล้วความรู้สึกต่อเนื่องกว่า ไม่รู้สึกตายด้านแบบชุดเกียร์ CVT ตลอดจนโครงสร้างรถที่ออกแบบใหม่หมด มีความแข็งแรงและเบากว่ารุ่นเดิมๆ
จากที่ผมขับยอมรับว่า การตอบสนองมันอาจจะไม่สู้เครื่องยนต์เทอร์โบ แต่เอาตามตรงถึงจะยังไม่ได้วัดอัตราเร่งในเจ้า Mazda 3 ใหม่ แต่มั่นใจว่า หัวเสมอแล้วออกตัวพร้อม คงจะทิ้งห่างกันไม่เกินครึ่งลำรถ หรืออย่างแย่ที่สุดก็บี้ตามตูกัน ไม่ทิ้งหนีกันมากมาย อย่างที่หลายคนชอบคิดว่า เครื่องยนต์เทอร์โบ จะพุ่งหายไปท่ามกลางความมมืดมิด
ส่วนเรื่องช่วงล่างของ Mazda นั้น ขึ้นชื่อเรื่องความเทพอยู่แล้วในการเข้าโค้ง มันเข้าโค้งได้อย่างมันใจเป้นทุนเดิม รุ่นใหม่นี้เพิ่มเติมระบบ G Vectoring Control ก็ช่วยให้รถเข้าโค้งได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน แถมลดแรงเหวี่ยงในการเข้าโค้ง ทำให้คุณเองก็กล้าใส่กับโค้งมากขึ้น รู้สึกได้ถึงความสนุกในการขับขี่มากขึ้น
ถ้าจะให้มาสด้าชนซีวิค การเรื่องระบบช่วงล่างและการเข้าโค้งนี่แหละคัรบ ที่ทำได้ดีกว่าเห็นๆ มันเป็นระบบการขับขี่ทำให้รู้สึกว่า ไม่อยากให้โค้งบนถนนหมดไป รถขับได้เร้าใจในยามอยู่ทางที่คดเคี้ยวลดเลียวไปตามเส้นทาง มันเป็นรถที่สมดุลในการขับขี่ ทั้งความแรงและสมรรถนะ
ตัดสินใจยากแล้วแต่ชอบ ...
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะรอให้ผมตีธงเคาะความคิดว่า สรุปใครดีกว่าใคร สิ่งที่ผมอยากจะบอกทุกคน คือไม่มีอะไรเด่นกว่าไปทั้งหมดในแง่ความเป็นจริง รถยนต์ที่คุณเลือกซื้อต่างตอบโจทย์ที่แตกต่างกันไป
สำหรับ Honda Civic ใหม่ 1.5 เทอร์โบ ผมมองว่าเป็นรถที่ขับสนุกขับดีดีมั่นใจ และพกความทันสมัยมาเต็มเหยียด หล่อเหลาในแบบที่คอฮอนด้าชื่นชอบมัน เน้นความแรงเร้าๆ เข้มเน้นๆ แต่ก็ต้องจ่ายด้วยราคาเฉียดล้านสองแสนบาทเป็นค่าตัว แต่คุณก็จะได้รถที่ขับดีที่สุดของฮอนด้าในเวลานี้ไม่ว่าจะอัตราเร่ง หรือ ความมั่นใจในการขับขี แต่มันก็ยังมีพวกระบบความปลอดภัยมาไม่มากมายนัก
กลับกันทาง Mazda 3 ใหม่ รุ่นท๊อป SP ที่ 1.119 ล้านบาท งานนี้หวดเต็มด้วยความปลอดภัยครบเซท จนผมกล้าพูดว่าคุณจ่ายราคานี้ได้ครบประดุจขับรถซีดานกลาง ส่วนเรื่องสมรรถนะก็คงต้องยอมรับไปตามตรงครับว่า มีความอ่อนกว่าเครื่องเทอร์โบ ทว่าก็ไม่ได้หมายความว่าในความเป็นจริงจะขับแล้วทิ้งห่างกันเป็นทุ่ง แต่หมัดเด็ดของมาสด้า 3 ใหม่ นั้นเป็นระบบ G Vectoring Control มันเข้ามาช่วยได้มากบนทางโค้ง
งานนี้อาจจะพอพูดได้ว่า ทางตรงเชิญ Civic แต่ถ้าโค้งมาต่อเนื่องเมื่อไร อาจจะมีโดนมาสด้า 3 กันบ้าง (แต่ท้ายสุดก็ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือและความใจถึงของคนขับด้วย)
รถทั้งสองรุ่นเป็นรถยนต์ที่น่าสนใจอย่างมาก สำหรับคนที่กำลังมองหารถยนต์ Compact Car คันใหม่มาสนองตอบโจทย์ให้โดนใจในการใช้งาน แต่ท้ายที่สุดแล้ว เลือกที่ชอบเอาอย่างที่ใช่ บอกความเป็นตัวคุณ รถคันไหนใครจะตัดสินใจได้ดีกว่าตัวคุณเอง.. ครับ
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง Content Specialist - นักขับทดสอบรถยนต์ Autodeft.com ติดตามได้ที่
ติดตามเรื่องราว ข่าวสาร และความรู้ รถยนต์ได้กับพวกเรา ได้ที่ www.Autodeft.com
หรือผ่านทาง Fanpage Facebook กดไลค์และ Follow ได้ที่ www.facebook.com/autodeft
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com