Deft Versus : ประชันจตุรเทพกระบะขับ 4 รุ่นเริ่มต้น ตัวเลือกคนพันธุ์ลุยไม่ง้อตัวช่วย
- โดย : สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม
- 19 มิ.ย. 58 00:00
- 65,273 อ่าน
เปิดศึกกระบะขับ 4 รุ่นเริ่มต้น เมื่อ 4 ยี่ห้อยอดนิยม มาประชันกันใครเหนือกว่าใครเจ๋งกว่า ต้องมาดูกัน
เรื่องโดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม
เรียบเรียง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง
รถกระบะในยุคปัจจุบันนอกจากจะมีตัวเลือกมากมายทั้งตอนเดียว รุ่นแค็ป และ 4 ประตู ที่เด่นทั้งสมรรถนะ ความแรง ควาประหยัด แล้วอีกคุณสมบัติคงไม่พ้นคุณสมบัติการลุย ซึ่งรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นที่จับใจใครหลายคน
รถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อนับวันมีเทคโนโลยีกับออฟชั่นภายมากมายหลายหลากโดยยกมาจากรถ SUV ระดับหรูมาใส่ โดยเฉพาะในรถกระบะรุ่น 4 ประตูขับ 4 รุ่นท็อป จนเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ระบบแอร์ออโต้ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ปรับไฟฟ้า และอีกต่างๆนานา ทำให้ค่าตัวนั้นสูงขึ้นเหยียบหลักล้าน
แต่ยังมีกลุ่มลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งสนใจรถกระบะ 4 ประตู ขับ 4 ล้อ ที่ไม่ต้องการระบบตัวช่วยอิเล็กโทรนิคแต่อยากได้ เฟืองท้ายแบบ Limited Slip อยากได้ออฟชั่นภายนอก ภายในและความปลอดภัยแบบพื้นๆ เช่น กระจกไฟฟ้า เซ็นทรัลล็อค วิทยุ CD MP3 เบรก ABS ถุงลมนิรภัยคู่ เรียกว่าใช้งานเพื่อลุยกันจริงจัง
ทำให้ค่ายรถกระบะหลายค่ายต่างส่งรถกระบะ 4 ประตู ขับสี่รุ่นล่างหรือรุ่นต่ำสุด มาเป็นตัวเลือกให้ลูกค้ากลุ่มที่ใช้ขับสี่ จริงๆ เพื่อเอาไปใช้งานหนักๆ ลุยทุกเส้นทาง แต่ท้ายสุดรถกระบะ 4 ประตูขับ 4 รุ่นเริ่มต้น จะโดนใจและตอบโจทย์ แตกต่างกันอย่างไร มาดูกันเลยดีกว่า
ISUZU D-MAX V-Cross 4WD 4 ประตู รุ่น 2.5 L VGS
รถกระบะขึ้นชื่อเรื่องประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ ราคาขายต่อดี(เขาว่างั้น) บรรทุกของได้เต็มอัตรา ISUZU D-MAX จัดเป็นตัวเลือกหนึ่ง ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Isuzu V-Cross 2.5 L VGS เป็นรุ่นเริ่มต้นของตระกูล V-Cross 4 ประตู
ตอบการออกแบบด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL หริอ Super Daylight พร้อมกระจังหน้าโครเมี่ยม ไฟท้าย LED ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้วพร้อมายาง H/T ขนาด 245/70R16 เท่ห์สมกับเป็นสปอร์ตออฟโรดด้วย กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีเดียวกับตัวรถ ราวหลังคา บันไดข้าง ชุดโครเมี่ยมทั้งที่เปิดประตูกับที่เปิดกระบะท้าย และกันชนหลังแบบโครเมี่ยม
ภายในมอบออฟชั่นเท่าที่จำเป็นทั้ง มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ โทนสีภายในสีดำพร้อม เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าสีดำแต่ไม่ปรับระดับสูง-ต่ำด้านคนขับไม่ได้ เบาะนั่งหลังกับที่วางแขนในตัว พวงมาลัย 3 ก้านสามารถปรับสูง-ต่ำ กระจกไฟฟ้า เซ็นทรัลล็อค กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า วิทยุ CD MP3 เชื่อมต่อ USB/AUX/Bluetooth พร้อมลำโพง 6 ตัว เครื่องปรับอากาศ กุญแจรีโมท โดยความปลอดภัยมีเพียงแค่ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เท่านั้น ไม่มีระบบเบรก ABS และ EBD
ด้านเครื่องยนต์ของ ISUZU D-MAX V-Cross 4 ประตู รุ่น 2.5 L เป็นเครื่องดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบแปรผัน ขนาด 2.5 ลิตร ใหกำลังถึง 136 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 320 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที ส่งผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time แบบ Terrain Command ในราคา 843,000 บาท
Toyota Hilux Revo 4WD 4 ประตู รุ่น 2.4 E
ผ่านมาเดือนแล้ว ที่ Toyota Hilux Revo เปิดตัวสู่สายตาคนไทยด้วยการเปิดตัวพร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีตัวเลือกมากมายทั้งหมด 33 รุ่น 3 รูปแบบตัวถัง แต่รุ่นที่แนะนำสำหรับคนพันธุ์ลุยตัวจริง นั่นคือ Toyota Hilux Revo 4 ประตู 4WD รุ่น 2.4 E
การออกแบบใหม่หมดตั้งแต่หัวจรดท้าย เช่น กระจังหน้าโครเมี่ยมแนวนอนใหม่ที่สอดรับกับไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์เปิด-ปิด อัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน DRL บันไดข้างสีดำ ชุดโครเมี่ยมทั้งกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตู และที่เปิดกระบะท้าย กันชนหลังแบบโครเมี่ยม ล้ออัลลยด์ขนาด 17 นิ้วและครั้งแรกที่นำยาง All Terrain (A/T) ขนาด 17 นิ้ว ขนาด 265/65R17 เป็นออฟชั่นมาตฐาน ค่อนข้างจะโดดแด่นกว่าคู่แข่งพอสมควร
ภายในใหม่หมดเช่นเดียวกับภายนอก เริ่มจากแผงแดชบอร์ดแทบจะยกการออกแบบมาจาก Toyota Corolla Altis ทั้งตำแหน่งช่องแอร์ตรงกลางและคอนโซลกลางช่องเครื่องเล่นวิทยุ ด้านเบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าสีน้ำตาลเบาะนั่งคนขับปรับเอนกับปรับสูงต่ำได้ ส่วนเบาะนั่งหลังพร้อมที่วางแขนกับที่วางแก้วน้ำในตัว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้านสามารถปรับสูง-ต่ำและยืดหดได้
มาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลแบบ 4.2 นิ้ว กุญแจรีโมทพร้อมระบบกันโขมยและกันกุญแจปลอมหรือ Immobilizer เครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียง CD MP3 เชื่อมต่อ USB/AUX/Bluetooth พร้อมลำโพง 4 ตัว กระจกมองข้างปรับพับด้วยไฟฟ้า โดยความปลอดภัยมีทั้ง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรก ABS กับ EBD และไฟตัดหมอกทั้งหน้าและหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ขุมพลังของ Toyota Hilux Revo 4 ประตู 4WD รุ่น 2.4 E ใช้เครื่องดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบแปรผัน ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังถึง 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที ส่งผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมโหมดเลือกการขับขี่แบบ Power/ ECO และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time แบบ Shift-On-The-Flyและระบบล็อคเฟืองท้าย Diff-Lock ในราคา 899,000 บาท
Mitsubishi Triton 4WD 4 ประตู รุ่น 2.4 GLS Mivec
เปลี่ยน ทุกความเชื่อ คือสโลแกนของค่ายรถจากทุ่งรังสิตอย่าง Mitsubishi Triton รถกระบะที่เด่นในเรื่อง ช่วงล่างที่นุ่มนวล เสียงเงียบ และเครื่องยนต์แรงที่ให้การขับขี่แบบสนุกสนาน ทาง Mitsubishi ก็ไม่น้อยหน้าคู่แข่ง ส่งรุ่น 4WD 4 ประตูรุ่น 2.4 GLS Mivec เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำหรับคนชอบลุยตัวจริง
ด้วยรูปลักษณ์แบบ J-Line ในรุ่น 4 ประตู ออกแบบช่องไฟระหว่างด้านหลังตัวรถและแนวกระบะเป็นแนวทางเดียวกัน กระจังหน้าโครเมี่ยมทั้งชิ้น สอดรับไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์รับกับกันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอกทรงกลม ไฟท้ายแบบสปอร์ตดีไซน์แบบรูปตัว L คว่ำ บันไดข้าง ชุดโครเมี่ยมทั้งกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตู และที่เปิดกระบะท้าย พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 ติดท้ายกระบะ กันชนหลัง ล้ออัลลยด์ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 16 นิ้ว ขนาด 245/70R16
ภายในคมเข้ม สปอร์ตด้วยโทนสีภายในสีดำ พวงมาลัยสปอร์ต 3 ก้าน ปรับสูง-ต่ำได้ เบาะนั่งผ้าสีดำโดยเบาะนั่งปรับสูง-ต่ำได้ ส่วนเบาะนั่งหลังมีที่พักแขนกับที่วางแก้วน้ำในตัว มาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ กุญแจรีโมท กระจกมองข้างปรับพับด้วยไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศและ เครื่องเสียง CD MP3 แบบ 2Din เชื่อมต่อ USB พร้อมลำโพง 4 ตัวและความปลอดภัยทั้งระบบเบรก ABS EBD BA และถุงลมนิรภัยคู่
เครื่องดีเซลเทอร์โบแปรผัน Mivec ขนาด 2.4 ลิตร 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 430 นิวตันเมตรที่ 2,500 รอบ/นาที ส่งผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time แบบ Easy Select 4WD ในราคา 837,000 บาท
Nissan NP300 Navara 4WD 4 ประตู รุ่น 2.5 S
กระบะอีกรุ่นหนึ่งที่ แกร่งเกินคาด ฉลาดเกินใคร อย่าง Nissan NP300 Navara ยังคงได้รับความนิยมไม่แพ้กับเจ้าใหญ่ สำหรับ NP300 Navara 4WD 4 ประตู รุ่น 2.5 S อีกหนึ่งรุ่น ที่คงจะถูกใจแฟนๆ Nissan ขาลุย อย่างแน่นอน ด้วยออฟชั่นภายนอกที่ไม่เป็นสองรองใคร
เช่น กระจังหน้าโครเมี่ยมรูปตัว V พร้อมโลโก้ Nissan ขนาดใหญ่ไฟหน้าLED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน DRL บันไดข้าง ชุดโครเมี่ยมทั้งกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตู และที่เปิดกระบะท้าย กันชนหลังแบบโครเมี่ยม ล้ออัลลยด์ขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 16 นิ้ว ขนาด 255/70R16
ภายในหรูเลิศไม่แพ้เจ้าใหญ่ ด้วยโทนสีภายในแบบสีเบจ เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าสีเบจเบาะนั่งปรับสูง-ต่ำได้ 6 ทิศทาง ส่วนเบาะนั่งหลังจะไม่มีที่พักแขนในตัว พวงมาลัยแบบ 3 ก้านตกแต่งด้วยสีเงินสามารถปรับสูง-ต่ำ มาตรวัดพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ กุญแจรีโมท เครื่องปรับอากาศพร้อมช่องแอร์ด้านหลัง เครื่องเสียง CD MP3 เชื่อมต่อ USB/AUX พร้อมลำโพง 6 ตัว และ กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้า
ถ้าให้กล่าวแล้ว ความปลอดภัยของ Nissan Navara ค่อนข้างล้ำกว่าคู่แข่งเช่น กล้องมองหลัง กับ ระบบตัวช่วยครบครันทั้งระบบควบคุมการทรงตัว VDC ระบบช่วยการขับบนทางลาดชัน HSA, HDC และรบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS ระบบเบรก ABS กับ EBD และ BA แต่ไม่มีถุงลมนิรภัยคู่
ส่วนเรื่องพละกำลังเป็นหน้าที่เครื่องดีเซลเทอร์โบแปรผัน ขนาด 2.5 ลิตร 163 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 403 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time แบบ Shift-On-The-Fly และทั้งหมดนี้สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 832,000 บาท ถือเป็นราคาถูกที่สุดในกลุ่ม
รถกระบะ 4 ประตูขับ 4 รุ่นล่างที่นำมาจับเชงครั้งนี้ คงถูกใจแฟนๆขาลุยขนานแท้ ที่อยากรถขับ 4 แบบธรรมดาแถมไม่ต้องการระบบตัวช่วย หรือออฟชั่นหรูหราเกินความจำเป็น หากสังเกตให้ดี รถกระบ 4 ประตู รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเริ่มต้นจะมีราคาจำหน่าย ตั้งแต่ ราคา 8 แสนจนเกือบๆ 9 แสน ซึ่งออฟชั่นของแต่ละค่ายนั้นให้มาเกือบเท่าๆกัน
มีเพียง Nissan NP300 Navara 4WD รุ่น 2.5 S เท่านั้น ที่ให้ตัวช่วยแบบสุดโต่งแถมเกินหน้าเกินตาคู่แข่งอีก 3 ค่าย ด้วยราคาที่ถูกที่สุดในกลุ่มด้วยราคา 832,000 บาท ส่วนถ้าแฟนๆ ชอบความพอดีๆ ในส่วนออฟชั่น กับการขับขี่ที่สนุกสนานนั้นต้องยกให้ Mitsubishi Triton 4WD รุ่น 2.4 GLS Mivec แต่ ถ้าอยากซื้อไปใช้งาน หวังขายต่อ อยากได้ความประหยัด และต่อยอดการตกแต่งทั้งเครื่องยนต์และภายนอกแบบเท่ห์ก็ต้องเป็น ISUZU D-MAX V-Cross 4WD รุ่น 2.5 L VGS และ ถ้าชอบความสดใหม่ ก็ต้องยกให้ Toyota Hilux Revo 4WD รุ่น 2.4 E
งานนี้รักใครชอบ คุณลูกค้าเท่านั้นเป็นผู้ชี้ชะตาเอง!!!!!!
เรื่องโดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม
เรียบเรียง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY1249]
[GALLERY1422]
[GALLERY911]
[GALLERY836]