Deft Versus: จัดให้เห็นกับ 4 รถยนต์อเนกประสงค์ 4 รุ่นใหญ่ ใครดีกว่ากัน
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 21 พ.ย. 60 00:00
- 112,926 อ่าน
ช่วงระยะหลังมานี้ตลาดรถยนต์เอนกประสงค์ SUV ขนาด C มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่ละค่ายต่างก็งัดเอาจุดเด่นของตัวเองออกมาประชันกันอย่างเต็มที่ มาจากความนิยมของผู้ซื้อในตลาดที่นิยมใช้รถยนต์ขนาดนี้มากขึ้น ทำให้แต่ละค่ายก็ต้องแย่งชิงเป็นผู้นำในตลาดนี้ให้เร็วที่สุด
หลังจากการเปิดตัวรถยนต์ SUV ใน C-Segment หรือเรียกอีกอย่างว่า Compact SUV ล่าสุดอย่าง Mazda CX-5 ใหม่ออกมาเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ยิ่งใกล้ช่วงที่กำลังจะมีงานแสดงรถยนต์งานใหญ่ประจำปีอย่าง Bangkok International Motor Expo ยิ่งทำให้คนที่กำลังหาซื้อรถยนต์ใหม่ขนาดนี้อยู่ คงต้องตัดสินใจยากขึ้นไปอีก วันนี้ Autodeft เลยจับเอา 4 รุ่นที่น่าสนใจในตลาดนี้มาลองเปรียบเทียบให้ดูกันคร่าวๆประกอบการตัดสินใจกันครับ
ถ้าจะให้หยิบขึ้นมาว่ามีรุ่นไหนบ้าง ที่อยู่ในขนาดและรูปทรงเดียวกัน มีอยู่ 4 รุ่นที่น่าสนใจคือ Mazda CX-5 ที่เพิ่งเปิดตัวไป, MG GS ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว แต่มีรุ่นย่อยออกมาอีกช่วงปลายปีที่แล้ว, Honda CR-V เจ้าตลาดที่เปิดตัวโฉมใหม่ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และ Nissan X-Trail ที่เปิดตัวมา 2 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีคนให้ความสนใจอยู่ เราลองมาดูกันว่า รายละเอียดแต่ละคัน มีตัวไหนที่โดดเด่นและน่าสนใจบ้าง
ขนาดตัวรถ
เริ่มที่พี่ใหญ่ที่เปิดตัวมาก่อนอย่าง
Nissan X-Trail มีขนาด กว้าง x ยาว x สูง อยู่ที่ 1,820 x 4,640 X 1,720 มม. มีฐานล้อที่ 2,705 มม.
MG GS มีขนาด 1,855 x 4,500 x 1,699 มม ฐานล้อกว้าง 2,650 มม.
Honda CR-V มีขนาด 1,855 x 4,571 x 1,667 มม. ฐานล้อกว้าง 2,662 มม.
Mazda CX-5 มีขนาด 1,840 x 4,550 x 1,680 มม. ฐานล้อกว้าง 2,700 มม.
จะเห็นได้ว่าความกว้างของ MG GS และ Honda CR-V จะมีขนาดเท่ากันคือ 1,855 มม. ซึ่งจะทำให้การนั่งแนวกว้างจะสบายกว่ารุ่นอื่นๆ แต่ด้านความยาวและฐานล้อของ Nissan X-Trail จะมีขนาดที่ยาวทที่สุด ส่งผลให้พื้นที่ในห้องโดยสารในจุดที่วางขาอาจจะสะบายมากที่สุดกว่ารุ่นอื่น และอาจจะส่งผลให้พื้นที่ในการจัดเก็บสัมภาระมีมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการจะดวางของตกแต่งในรถด้วยว่าจะให้ความสะดวกสบายกับผู้โดยสารได้มากขนาดไหน
ที่นั่งภายใน
ในรถยนต์ขนาดนี้จะมีทั้งแบบ 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง เริ่มจาก
Nissan X-Trail มีที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ยกเว้นในรุ่น Hybrid ที่มีเพียง 2 แถว 5 ที่นั่ง เพราะแถวสุดท้ายถูกนำไปใช้เก็บแบตเตอรี่แทน โดยออพชั่นตัว Top สุดจะเป็นเบาะหนังแท้ผสมวัสดุสงเคราะห์ เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทางพร้อมระบบดันหลังไฟฟ้า เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะแถวสองแบบ EZ Flex 40:20:40 ปรับ-พับได้ เบาะแถวสามพับเรียบแบบ 50:50
MG GS จะมีเฉพาะแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง โดยรุ่น Top สุดจะเป็นเบาะหนังแท้ผสมสังเคราะห์ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะแถว 2 พับได้ 60:40 และสามารถเอนได้
Honda CR-V มาแบบที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่งกันทั้งหมดทุกตัว โดยตัว Top จะเป็นเบาะหนังแท้ผสมสังเคราะห์ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมปุ่มดันหลัง 4 ทิศทาง ส่วนเบาะโดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะแถว 2 พับแบบ 60:40 ส่วนแถวสุดท้ายพับได้แบบ 50:50
Mazda CX-5 มาด้วยเบาะ 2 แถว 5 ที่นั่ง โดยรุ่น Top เป็นเบาะหนัง (ไม้ได้ระบุว่าเป็นหนังแท้ทั้งหมดหรือไม่) เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า และมีระบบบันทึกตำแหน่ง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะแถว 2 พับได้แบบ 40:20:40 และพนักพิงเบาะหลังปรับเอนได้
ถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว ใครที่ต้องการที่นั่งเยอะ ก็คงต้องเลือกไปที่ Nissan X-Trail หรือ Honda CR-V เท่านั้น เพราะมีเบาะ 3 แถวให้เลือก แต่ถ้านั่งไม่เกิน 5 คน ก็สามารถเลือกใช้งานได้ทุกรุ่น แต่ถ้ามองไปที่เบาะนั่งคนขับ Mazda MX-5 ดูจะได้เปรียบกว่ารุ่นอื่น เพราะนอกจากจะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางแล้ว ยังมีระบบบันทึกตำแหน่งที่นั่งมาให้อีกด้วย ส่วนเบาะแถวที่ 2 สามารถพับได้ทุกรุ่น แต่สัดส่วนวิธีพับจะแตกต่างกันไป ใครชอบแบบไหนก็ลองเลือกดูกันเอง
เครื่องยนต์+เกียร์+ระบบขับเคลื่อน
เครื่องยนต์ของแต่ละรุ่น ก็มีให้เลือกมากน้อยแตกต่างกันไป โดย
Nissan X-Trail มีให้เลือกทั้งเบนซิน 2.0 ลิตร 144 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร, เบนซิน 2.5 ลิตร 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 2.0 ลิตร 179 แรงม้า (รวมเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า) แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ทุกรุ่นใช้เกียร์ XTRONIC CVT 7 สปีดพร้อม Manual Mode มีมาให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ
MG GS มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาดคือ เบนซิน 1.5 ลิตร Turbo 167 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ Twin Clutch Sporttronic 7 สปีดและเบนซิน 2.0 ลิตร Turbo 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ Twin Clutch Sporttronic 6 สปีด มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Real-Time
Honda CR-V มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบคือ เบนซิน 2.4 ลิตร 173 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 224 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT และเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร Turbo 160 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Real-Time
Mazda CX-5 มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 แบบคือ เบนซินขนาด 2.0 ลิตร 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร และดีเซลขนาด 2.2 ลิตร 175 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ทุกรุ่นใช้เกียร์ SKYACTIV-DRIVE อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน2 ล้อและขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD
ถ้ามองถึงตัวเลือก ทั้ง Honda CR-V และ Mazda CX-5 ดูจะได้เปรียบหน่อยตรงที่มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ถึงแม้ว่าเครื่องยนต์ของ CR-V จะเล็กไปนิดในส่วนของดีเซลที่มีขนาดเพียง 1.6 ลิตร Turbo ก็ตาม แต่ก็สามารถผลิตแรงม้าได้ไม่ด้อยกว่าใคร แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความแรง ทุกค่ายคงต้องยอมศิโรราบให้กับ MG GS กันหมด เพราะในตัว 2.0 เบนซิน สามารถผลิตแรงม้าได้สูงสุดถึง 218 ตัวเลยทีเดียว แต่ถ้าใครออกแนวรักษ์โลก ก็คงจะมีตัวเลือกเดียวนั่นคือ Nissan X-Trail ที่มีเครื่องยนต์แบบ Hybrid มาให้เลือกด้วย
ระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ซื้อในปัจจุบันเช่นกัน โดย
Nissan X-Trail ในตัว Top มีอุปกรณ์ความปลอดภัยทั้ง ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง, ระบบควบคุมการทรงตัว VDC, ระบบป้องกันการไถลลื่น ABLS, ระบบป้องกันการล้อล็อค ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรก BA, กล้องมองหลัง, Around View Monitor, ระบบลดการโยนตัวบนทางขรุขระ ARC, ระบบลดความเร็วอัตโนมัติเมื่อเข้าโค้ง AEB, ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง ATC และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
MG GS ก็มีทั้ง ระบบป้องกันการล้อล็อค ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบเสริมแรงเบรก EBA, ระบบควบคุมการทรงตัว SCS, ระบบป้องกันการลื่นไถลเมื่อเกียร์ลดฉับพลัน MSR, ระบบควบคุมเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและลื่นไถล TCS, ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAS, ระบบเบรกมืออัตโนมัติ, เบรกมือไฟฟ้า, ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง, กล้องมองหลังและเซ็นเซอร์ถอยหลัง
Honda CR-V ก็ให้เยอะไม่แพ้กัน ทั้งระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Honda Lane Watch, เบรกมือไฟฟ้า, เบรกมืออัตโนมัติ, ถุงลมคู่หน้า ด้านข้าง และม่านด้านข้าง, ระบบป้องกันการล้อล็อค ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA, ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย MA-EPS, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ Agile Handling Assist, กล้องมองหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ
Mazda CX-5 ออกมาล่าสุดก็ใส่มามากมายที่เรียกรวมๆว่า I-Active Sense ทั้ง เบรกมือไฟฟ้า, เบรกมืออัตโนมัติ, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย, ระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด, กล้องมองหลัง, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA, ระบบปรับมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยวของรถ AFS, ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS, ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ SCBS, ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R, ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS, ระบบป้องกันล้อล็อค 4W-ABS, ระบบกระจายแรงเบรก EBD, ระบบช่วยเบรก BA, ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS, ระบบช่วยออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA
ระบบความปลอดภัยที่ให้มา Mazda CX-5 ได้เปรียบที่สุด เพราะออกมาหลังสุดเลยสามารถใส่เทคโนโลยีใหม่ๆได้อย่างเต็มที่ ส่วนอีก 3 รุ่นเอาจริงๆก็ไม่แตกต่างกันมาก จะต่างกันที่รายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้นเอง เสียดายตรง Honda CR-V นี่แหล่ะ ที่ตอนออกมาก็มีระบบ Honda Sensing ที่เคยใส่ใน Honda Accord อยู่แล้ว แต่กับรถที่ราคาไม่ได้แตกต่างกันมากและออกมาทีหลัง ดันไม่ยอมใส่มาซะอย่างงั้น ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้ระบบความปลอดภัยสูสีกับ Mazda CX-5 ได้เลย
ระบบความสะดวกสบาย
เมื่ออยู่ในรถ ความสะดวกสบายก็เป็นตัวเลือกที่สำคัญเช่นกัน ออพชั่นเด่นๆของ
Nissan X-Trail มีทั้ง กุญแจแบบ Keyless พร้อมปุ่ม Push Start, พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่ม Multi Function, ระบบ Cruise Control, หน้าจอ 5 นิ้วและ 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้, ระบบปรับอากาศแบบแยกโซน, ไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ, หลังคาซันรูฟ
MG GS มีกุญแจแบบ Keyless พร้อมปุ่ม Push Start, พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่ม Multi Function, ระบบ Cruise Control, หน้าจอขนาด 6.1 และ 8 นิ้วพร้อมระบบนำทางและระบบ Inkranet เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้, ไฟหน้าไฟหน้าเปิด-ปิด และปรับสูงต่ำอัตโนมัติ, หลังคาซันรูฟ, Paddle Shift
Honda CR-V ก็มีทั้ง กุญแจแบบ Keyless พร้อมปุ่ม Push Start, พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่ม Multi Function, ระบบ Cruise Control, หน้าจอ 5 นิ้วและ 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ พร้อมระบบ Apple CarPlay, ระบบปรับอากาศแบบแยกโซน, ไฟหน้าไฟหน้าเปิด-ปิด และปรับสูงต่ำอัตโนมัติ, ระบบ IDLE STOP, Paddle Shift, ล็อครถอัตโนมัติเมื่อกุญแจออกห่างจากตัวรถ, ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ
Mazda CX-5 ก็มีทั้งกุญแจแบบ Keyless พร้อมปุ่ม Push Start, พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่ม Multi Function, ระบบ Cruise Control แบบปรับความเร็วอัตโนมัติ, หน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้, ระบบปรับอากาศแบบแยกโซน, ไฟหน้าไฟหน้าเปิด-ปิด และปรับสูงต่ำอัตโนมัติ, หลังคาซันรูฟ, ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ถือว่าออพชั่นแต่ละรุ่นสูสีกันมาก จะแตกต่างกันในรายละเอียดเล็กน้อย อย่างเช่นหลังคาซันรูฟ ที่มีเพียง Honda CR-V เท่านั้นที่ไม่มี แต่ก็มีออพชั่นเสริมอย่าง IDLE STOP และ Apple CarPlay, ล็อครถอัตโนมัติเมื่อกุญแจออกห่างจากตัวรถ มาแทน และมี Paddle Shift ให้ใช้งานเหมือนกับ MG GS ประตูหลังไฟฟ้าเหมือน Mazda CX-5 แต่ตัว Mazda CX-5 จะเป็นรุ่นเดียวที่มี Cruise Control แบบปรับความเร็วอัตโนมัติ หรือที่มาสด้าเรียกว่า Mazda Radar Cruise Control ดังนั้นในออพชั่นนี้ อาจจะต้องลองชั่งใจเองว่าตัวเองชอบออพชั่นแบบไหนมากกว่ากัน
อัตราการใช้น้ำมัน
จริงๆทางทีมงาน Autodeft ก็เคยทดสอบมาเกือบทุกรุ่นแล้ว และก็พอจะมีอัตราการใช้น้ำมันของแต่ละรุ่นอยู่บ้าง แต่เพื่อให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน จึงขอดึงอัตราการใช้น้ำมันมาจากองค์กรทดสอบกลางอย่าง Eco Sticker แทน
Nissan X-Trail 2.0 ลิตร 2WD อัตราความสิ้นเปลือง 13.3 กม./ลิตร, 2.0 ลิตร 4WD อัตราความสิ้นเปลือง 13.3 กม./ลิตร, 2.5 ลิตร 4WD อัตราความสิ้นเปลือง 12.0 กม./ลิตร, 2.0 ลิตร Hybrid 2WD อัตราความสิ้นเปลือง 15.9 กม./ลิตร และ 2.0 ลิตร Hybrid 4WD อัตราความสิ้นเปลือง 15.6 กม./ลิตร
MG GS ในเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร Turbo 2WD อัตราความสิ้นเปลือง 15.6 กม./ลิตร, 2.0 ลิตร Turbo 2WD อัตราความสิ้นเปลือง 12.0 กม./ลิตร และ 2.0 ลิตร Turbo AWD อัตราความสิ้นเปลือง 12.0 กม./ลิตร
Honda CR-V มีเครื่องยนต์ 2 เชื้อเพลิงทั้งเบนซินและดีเซล โดยเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร 2WD อัตราความสิ้นเปลือง 12.5 กม./ลิตร, 2.4 ลิตร 4WD อัตราความสิ้นเปลือง 12.2 กม./ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร Turbo 2WD อัตราความสิ้นเปลือง 18.9 กม./ลิตร และ 1.6 ลิตร Turbo 4WD อัตราความสิ้นเปลือง 17.9 กม./ลิตร
Mazda CX-5 ก็มีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล เริ่มจากเบนซิน 2.0 ลิตร 2WD อัตราความสิ้นเปลือง 14.5 กม./ลิตร, เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร Turbo 2WD อัตราความสิ้นเปลือง 17.5 กม./ลิตร และดีเซล 2.2 ลิตร Turbo 4WD อัตราความสิ้นเปลือง 17.5 กม./ลิตร
ถ้าดูจากตัวเลขล้วนๆ เครื่องยนต์ดีเซลของ Honda CR-V และ Mazda CX-5 ดูจะมีภาษีดีกว่าใครเพื่อน ถึงแม้ว่า Nissan X-Trail จะมีเครื่องยนต์ Hybrid แต่ก็ไม่สามารถทำอัตราการประหยัดน้ำมันได้เท่า แต่ถ้าอยากได้เป็นเครื่องยนต์เบนซิน เครื่อง 1.5 ลิตรของ MG GS และ Mazda CX-5 จะทำได้ดีทั้งคู่ อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้เป็นผลมากจากการทดสอบในห้อง Lab น่าจะมีความแตกต่างกับการใช้งานจริงพอสมควร
ราคา
เนื่องจากเป็นข้อมูลทั่วไป จึงขอใส่รายละเอียดเป็นตาราง เรียงตามราคาเลยครับ
สุดท้ายแล้วการที่จะเลือกรุ่นไหนดี ก็ต้องเป้นเรื่องของส่วนบุคคล เพราะจะมีปัจจัยอีกมากมายที่จะมาเป็นตัวตัดสิน ทั้งความจำเป็นในการใช้งาน, เงินในกระเป๋า, รสนิยมด้านความสวยงาม, เสียงจากคนรอบข้าง ฯลฯ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจซื้อ ควรต้องลองศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน, สอบถามคนใกล้ตัว และที่สำคัญ ควรไปทดลองขับด้วยตัวเอง เท่านี้ก็จะได้รถยนต์คันที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุดแล้วครับ
ทีมงาน Autodeft
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com