เป็นคุณจะเลือกใคร!! Mitsubishi Outlander PHEV VS MG HS PHEV ศึกเอสยูวีเสียบปลั๊ก…ขวัญใจสาวกสายรักษ์โลก
- โดย : Autodeft
- 10 ธ.ค. 63 00:00
- 17,770 อ่าน
ตลาดรถยนต์ทางเลือกใหม่ที่หวังเจาะสาวกที่อยากได้ความประหยัดและความแรงควบคู่กันนั่นคือ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ หรือเรียกอีกอย่างว่า Plug-In Hybrid ทุกวันนี้จะเจอแต่รถยนต์ยุโรปค่าตัว 2 ล้านขึ้นไป ทั้งจาก เยอรมนี สวีเดน อังกฤษ หลากหลายแบรนด์เข้ามาเป็นทางเลือกแล้ว
ล่าสุดมีค่ายรถยนต์จากซีกตะวันออกถึง 2 ค่าย หาญกล้านำรถยนต์ Plug-in Hybrid เข้ามาจำหน่ายด้วยภาษีที่ถูกกว่าสามารถประกอบในประเทศและจำหน่ายได้ในค่าตัวต่ำกว่า 2 ล้านบาท วันนี้เราเลยเอา รถยนต์ Compact SUV ที่ใช้เครื่องยนต์ลูกผลมเสียบปลั๊ก Plug-In Hybrid รุ่นท็อปสุด มาเปรียบเทียบกันให้ชัดเจนว่าใครเด่นและแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ได้แก่ New Mitsubishi Outlander PHEV รุ่น GT-Premium และ New MG HS PHEV
รูปลักษณ์ภายนอก
Mitsubishi Outlander PHEV GT-Premium เปิดตัวในตลาดโลกตั้งแต่ปี 2012 และมีการปรับโฉมครั้งใหญ่เมื่อปี 2015 สำหรับเมืองไทยนำมาจำหน่ายอย่างเป็นทางการช่วงปลายปี 2020 ถึงจะอยู่ในช่วงปลายอายุโมเดลที่กำลังไปสู่เจเนอเรชั่นใหม่ แต่ทางต้นสังกัดอย่าง มิตซูบิชิ ก็เคลมว่าเป็นรถยนต์เอสยูวีที่ขายดีที่สุดทั่วโลก มาด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ในสไตล์ Advance Dynamic Shield
ทางด้าน MG HS PHEV เอสยูวีจากอังกฤษที่มีกลุ่มทุนจีนอยู่เบื้องหลัง เปิดตัวในเมืองจีนตั้งแต่ต้นปี 2020 และส่งขายที่อังกฤษช่วงกลางปีนี้ และเมืองไทยเป็นที่ๆ 3 ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยหน้าตาความหล่อถอดแบบมาจาก MG HS เวอร์ชั่นปกติ แต่มีการปรับตัวตันใหม่ในสไตล์รถยนต์ลูกผสม โดยออพชั่นทั้ง 2 รุ่นมีความแตกต่างตามตารางต่อไปนี้
มิติตัวรถ
จากตารางเมื่อเทียบกันแล้วจะพบว่ารถยนต์เอสยูวีทั้ง 2 รุ่น มีขนาดไล่เลี่ยกัน โดยความยาว Outlander ยาวกว่า HS 121 มม. ความกว้าง HS กว้างกว่า 76 มม. ความสูง Outlander สูงกว่า 46 มม. HS มีฐานล้อยาวกว่า 50 มม. Outalnder มีความสูงจากพื้นมากกว่า 45 มม. กับ น้ำหนักรถมากกว่า 155 กก. และความจุถังน้ำมันมากกว่า HS 8 ลิตร
ภายในและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
ภายในรุ่นท็อป ทั้ง 2 ยี่ห้อ เน้นความสบายกับห้องโดยสารและการตกแต่งที่แตกต่างทั้งเน้นความสปอร์ต หรูหรา เรียบง่ายในการใช้งาน ส่วนออพชั่นของ 2 รุ่นท็อป มีความแตกต่างกันตามตารางดังนี้
จากตารางจะเห็นได้ว่าทั้ง 2 รุ่นนี้มีออพชั่นภายในคล้ายๆกัน แต่มีบางอย่างที่แตกต่างกันเช่นทาง Outlander มีการตัดเย็บเบาะกึ่งหนังแท้แบบดีไซน์ใหม่แบบ ‘ไดมอนด์ ควิลติ้ง คัท’ ที่สะท้อนความสมบูรณ์แบบ ความสะดวกสบาย และตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ตลอดการเดินทาง ส่วนทาง HS นั้น ได้เบาะกึ่งหนังแท้ที่เลือกได้ถึง 2 สี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสีภายนอกรถทั้ง 2-Tone Monaco Blue และสีดำ รวมถึง ลำโพงคุณภาพจาก Bose รอบคัน 8.1 จุด พร้อมไฟ Ambient Light มากถึง 64 สี และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ แต่ Outlander มีช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าขนาด 1,500 วัตต์ สามารถผลิตและจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากตัวรถมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆด้วยการเสียบปลั๊กเข้ากับช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในตัวรถได้สบายๆ
เครื่องยนต์
จากตารางจะเห็นได้ว่า 2 ขุมพลังนี้ให้ความแรงที่ต่างกันโดย Outlander ให้พลังแรงม้ารวมมากว่า HS ถึง 305 แรงม้า แรงบิด 531 นิวตันเมตร แถมได้ขุมพลังใหญ่กว่าด้วขนาด 2.4 ลิตร ที่สามารถเติมพลังงานได้ถึง E20 แถมเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ S-AWC (SUPER ALL WHEEL CONTROL) เพิ่มสมรรถนะในการควบคุมให้ดียิ่งขึ้น ประกอบด้วย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก Anti-Lock Braking (ABS) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Active Stability Control (ASC) และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกระหว่างล้อซ้ายและล้อขวา Active-Yaw Control (AYC) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ติดตั้งที่เพลาหน้า-หลัง ควบคุมแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ นอกจากนี้ ยังทำงานร่วมกับโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ ประกอบด้วย ขับขี่ที่เร้าใจขึ้นแบ่งเป็น 4 โหมดได้แก่ โหมด 4WD Lock (มอบสมรรถนะเต็มรูปแบบของระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ โหมด Snow , (ให้การควบคุม การยึดเกาะ และการควบคุมที่ดีเยี่ยม เมื่อขับขี่บนพื้นผิวถนนที่เปียกลื่น) โหมด Normal (ควบคุมแรงบิดของแต่ละล้อให้เหมาะกับสภาพการขับขี่ ) และ โหมดSport (เพิ่มความแม่นยำของคันเร่ง การควบคุม และการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้ดีมากขึ้น) และเกียร์อัตโนมัติที่ไม่มีจำนวนสปีด และการชาร์จด้วยกระแสไฟ 230V ภายในเวลา 4 ชั่วโมง
ส่วน HS ถึงขุมพลังจะเพียงแค่ 1.5 ลิตรและขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมเกียร์ 10 สปีดกับ Paddle Shift แต่ความจุแบตเตอรี่กลับมากว่า Outlander ด้วยขนาด 16.5 kWh และสามารถวิ่งไกลกว่า Outlander ถึง 67 กม. ในโหมดไฟฟ้า พร้อมตวามประหยัดถึง 65 กม./ลิตร ส่วน Outlander ประหยัดถึง 52.6 กม./ลิตร
ช่วงล่าง
ระบบความปลอดภัย
จากตารางเห็นได้ว่า Outlander และHS ให้ระบบความปลอดภัยพื้นฐานเท่าเทียมกัน แต่บางอย่างถ้าเจาะลึกแล้วแตกต่างกัน โดยทาง HS กลับให้มากกว่าไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning), ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist), ระบบเตือนและควบคุมให้รถอยู่ในเลน LAS (Lane Assist System), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) เป็นต้น ในขณะที่ Outlander กลับมี ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจ (UMS) ระบบเสถียรภาพการทรงตัวขณะลากจูง TSA และถุงลมนิรภัย 7 จุด รวมหัวเข่าด้วย
ราคาและสีภายนอกรถ
มวยคู่หยุดโลกรายนี้นับว่าสมน้ำสมเนื้อเกือบทุกด้านๆไม่ว่าจะภายนอก ภายใน ออพชั่นข้าวของที่ให้มา มิติตัวรถอาจเหลื่อมล้ำกันบ้างแต่ไม่ใช่ประเด็นความใหม่และสดของตัวรถต้องยกให้ New MG HS PHEV ถึงแม้ Mitsubishi Outlander PHEV จะเปิดตัวครั้งแรกในไทยแต่ในตลาดโลกถึงทำตลาดมายาวนานกว่า 8 ปี และเตรียมใกล้ปรับโฉมอาจทำให้ความใหม่สดอาจดูล้าหลังไปบ้างแต่เรื่องขุมพลังทาง Outlander ให้ขนาด CC. ที่ใหญ่กว่า แรงม้ารวมมากกว่า แต่กลับได้ระยะทางในการวิ่งโหมดไฟฟ้าเพียวๆมากกว่าถึง 67 กม. ด้านการรับประกันทาง Mitsubishi Outlander PHEV รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ส่วน New MG HS PHEV รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง กับค่าตัวที่ต่างกัน 390,000 บาท รักใครชอบใครก็เลือกกันตามอัธยาศัย แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อ การทดลองขับเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ว่ารถยนต์ที่คุณลองขับนั้นมีความน่าสนใจมากน้อยเพียงใด
เรื่องโดย นายเต้ย
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com