บทสรุปดราม่าจากค่ายใหญ่โตโยต้า กับบันทึกอื้อฉาวเรื่องผลทดสอบความปลอดภัยใน Toyota Yaris Ativ

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 9 พ.ค. 66 19:33
  • 16,106 อ่าน

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คงไม่มีข่าวคราวในวงการยานยนต์ของประเทศไทยข่าวไหนใหญ่ไปกว่าเรื่องการยุติการส่งมอบและจำหน่ายรถยนต์ใหม่แบบ Eco Car อย่าง Toyota Yaris Ativ ไปอีกแล้ว เรียกได้ว่างานนี้เป็นเรื่องใหญ่ระดับโลกจริง ๆ

Toyota Yaris Ativ

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ดี ๆ ท่านประธานใหญ่ของ Toyota Motor Corporation ในประเทศญี่ปุ่นอย่างนาย Akio Toyoda ออกมาแถลงข่าวขอโทษ และหยุดการเปิดจองและส่งมอบรถยนต์ใหม่ในรูปแบบ Eco Car ยอดนิยมของคนไทยอย่าง Toyota Yaris Ativ ก่อนเป็นการชั่วคราว (รวมถึง Perodua AXIA ในประเทศมาเลเซีย) อันเนื่องมาจากพบข้อผิดปกติในการทดสอบความปลอดภัย ที่รถที่ทดสอบนั้น มีความ “ไม่เหมือน” กับรถที่ส่งมอบในการจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไป

Toyota Yaris Ativ

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหน? ก็ต้องบอกว่า ใหญ่ขนาดที่ท่านประธานที่เพิ่งก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Toyota Motor Corporation ต้องลงมาออกประกาศแถลงขอโทษด้วยตนเอง รวมทั้งยังยอมบินมาที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดอย่างเร่งด่วน เพื่อทำการชี้แจงและออกปากขอโทษด้วยตัวเอง เห็นแบบนี้แล้วคงไม่ต้องสงสัยว่าเรื่องนี้ต้องสำคัญอย่างมากแน่นอน

Toyota Yaris Ativ

หลังจากที่ท่านประธานใหญ่ Akio Toyoda บินมาถึงประเทศไทย ก็ได้มีการจัดการแถลงข่าวเพื่อชี้แจงเรื่องนี้ทันที โดยร่วมกับคุณ Maeda Masahiko CEO ของภูมิภาคเอเชีย, คุณ Noriaki Yamashita ประธานใหญ่ของโตโยต้า ประเทศไทย และคุณ นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ของประทศไทย โดยมีผลสรุปออกมาดังนี้

Toyota Yaris Ativ

เริ่มเรื่องของปัญหาคือ ก่อนการจำหน่ายรถยนต์ในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนนั้น จะต้องมีการทดสอบความปลอดภัยของรถยนต์ทุกคัน โดย 1 ในใบอนุญาตนั้นก็คือ UN-R95 (UN Regulation No. 95: Occupant Protection in Lateral Collisions) หรือมาตรฐานการป้องกันผู้โดยสารจากการชนด้านข้าง (ถ้าด้านหน้าจะเป็น UN-R94) การทดสอบจะใช้หุ่นนั่งอยู่ในตำแหน่งของผู้ขับขี่ และจะมีกำแพงทดสอบ พุ่งเข้ามาชนด้านข้างในลักษณะแนวตั้งฉาก ตรงตำแหน่งผู้ขับขี่ด้วยความเร็ว 50 กิโลเมตร/ชั่วโมง แล้วเอาผลกระทบที่เกิดกับหุ่น นำมาวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้น ว่าอยู่ในมาตรฐานที่กำหนดเอาไว้หรือไม่ ถ้าผ่าน ก็จะออกใบอนุญาต เพื่อนำไปใช้ประกอบในการขออนุญาตจำหน่ายต่อไป โดยหลักการใหญ่ที่จะออกใบอนุญาตทั้ง 2 แบบนี้ได้ คือ ตัวสภาพรถ ต้องไม่มีการรั่วของน้ำมันเชื้อเพลิง, ประตูของรถทดสอบ ต้องเปิดได้อย่างน้อย 1 บาน, อุปกรณ์ภายในรถ ต้องไปเสียรูปจนทำให้เกิดจุดที่แหลมคม จนเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ เป็นต้น (ข้อมูลจาก https://youtu.be/vYPG3meKGEo) ซึ่งกรณีสุดท้ายนี่แหล่ะ ที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมา

Toyota Yaris Ativ

สำหรับการออกแบบรถ Eco Car อย่าง Toyota Yaris Ativ นั้น เป็นผลงานของ Daihatsu นั่นหมายถึงการทดสอบการชนเพื่อขอใบอนุญาตนั้น ทาง Daihatsu ก็เป็นผู้รับผิดชอบด้วยเช่นกัน แต่รถที่ทำการส่งไปทดสอบการชนนั้น กลับมีการตรวจสอบพบภายหลังว่า ได้มีการเปลี่ยนแปลงสภาพบางอย่างภายในชิ้นส่วนของตัวรถ นั้นคือการบาก หรือกรีดขอบของชิ้นส่วนภายในประตูรถก่อนจะส่งไปทดสอบ เพื่อหวังว่าชิ้นส่วนตรงนั้น จะไม่เกิดการหักจนมีความคม เพื่อให้การทดสอบนั้นผ่านได้อย่างแน่นอน ซึ่งการกระทำดังกล่าวนี้ เป็นการเหมือนกับ “ทุจริต” ในการทดสอบ เพราะรถที่ส่งมอบให้กับผู้บริโภคได้ใช้งานจริงนั้น ไม่ได้ถูกกรีดในจุดนี้ จึงทำให้รถที่ทดสอบและใช้งานจริง ไม่ได้อยู่ในสภาพที่เหมือนกัน 100%

Toyota Yaris Ativ

คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ ซึ่งทางคุณ Maeda Masahiko เองก็ให้เหตุผลว่า อาจจะเป็นไปได้ว่า ทางพนักงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้ น่าจะมีความกดดันทั้งเรื่องของผลงาน และเวลาที่ถูกบีบกระชับเข้ามา เพื่อให้รถ Toyota Yaris Ativ ออกวางจำหน่ายได้ทันต่อเวลาที่ทางโตโยต้ากำหนดเอาไว้ เลยพยายามทำเรื่องบางอย่าง เพื่อให้การทดสอบนั้นผ่านไปได้ด้วยดี ทั้งนี้ที่ผ่านมา ไดฮัทสุ อาจจะคุ้นเคยกับการออกแบบและผลิตรถยนต์ซึ่งมีขนาดเล็กกว่านี้ การได้มาออกแบบรถยนต์ใหม่อย่าง Toyota Yaris Ativ ซึ่งมีตัวรถที่มีขนาดใหญ่นั้น เลยทำให้ขาดความเชี่ยวชาญที่มากพอก็เป็นได้ ซึ่งทางผู้เขียนเองก็มีความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า เป็นไปได้ว่าทาง Daihatsu ได้ทำการลองทดสอบการชนภายในหลายครั้งแล้ว และบางครั้งจะมีการเกิดขอบคมในจุดนี้ และไม่สามารถหาวิธีแก้ไขได้เนื่องจากเวลาที่ถูกบีบเข้ามา จึงได้เลือกวิธีการนี้เพื่อให้การทดสอบนั้นผ่านไปได้ในครั้งเดียว

เรื่องที่ปูดขึ้นมานี้ ก็ต้องยอมรับว่า เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมของทางโตโยต้าอย่างแท้จริง เริ่มต้นขึ้นจากเจ้าหน้าที่ภายใน มีการพบรายงานการกระทำดังกล่าว จึงได้มีการรายงานเรื่องนี้ขึ้นไปยังฝ่ายบริหาร และเมื่อทางฝ่ายบริหารรับทราบ ก็ได้มีการสั่งให้หยุดส่งมอบและจำหน่ายรถรุ่นที่ได้รับผลกระทบทันที ซึ่งคาดว่าจะมีราว 88,000 คัน แบ่งเป็น Toyota Yaris Ativ ราว 76,000 คัน (ในประเทศไทยประมาณ 4 หมื่นคัน และที่เหลือในเม็กซิโกและตะวันออกกลาง) และ Perodua AXIA อีกราว 12,000 คัน (ข้อมูลจาก https://www.reuters.com/business/autos-transportation/japans-daihatsu-broke-side-collision-test-procedures-some-toyota-cars-2023-04-28/) และตามมาด้วยการกล่าวแจ้งถึงเรื่องนี้ และมีการขอโทษจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยคุณ Akio Toyoda และคุณ Koji Sato ประธานคนใหม่ของ Toyota ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งได้ไม่นานทันที (https://youtu.be/epv0vCxVGqU)

Toyota Yaris Ativ

ในการแถลงข้อเท็จจริงในประเทศไทย ของผู้บริหารระดับสูงของทางโตโยต้านั้น มีการยืนยันอย่างชัดเจนว่า ภายหลังจากที่ได้รับทราบเรื่องดังกล่าว ก็ได้มีการดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นใจต่อลูกค้า และสามารถยืนยันได้อย่างเต็มที่ว่า ผลการทดสอบนั้น อยู่ในมาตรฐานความปลอดภัย UN-R95 อย่างแน่นอน โดยมีคำชี้แจงอย่างเป็นทางการออกมาดังนี้

 

  • หลังจากที่ตรวจพบความไม่เหมาะสมในการเตรียมการทดสอบมาตรฐานการชนด้านข้าง ทางบริษัท ไดฮัทสุ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการพัฒนาตัวถังและในการขอการรับรอง  ได้ดำเนินการทดสอบการชนด้านข้าง ด้วยชิ้นส่วนที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในรถรุ่นยาริส เอทีฟ เป็นการภายใน และขอยืนยันว่าเป็นไปตามข้อกำหนด UN-R95 ทั้งหมด  
  • ไดฮัทสุ ได้ทำการปรึกษาหน่วยงานภายนอกที่ทำการตรวจสอบและออกหนังสือรับรอง หรือ Vincotte มีการลงความเห็นว่า สำหรับรถรุ่นปัจจุบัน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการแก้ไขใดๆ ซึ่งทางบริษัทขอยืนยันว่ารถมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยสอดคล้องกับข้อบังคับที่กำหนดไว้ และลูกค้าสามารถใช้งานรถของท่านต่อไปได้ตามปกติ
  • นอกจากนั้น ทางบริษัทได้ดำเนินการทดสอบอีกครั้ง โดยใช้รถที่ผลิตและจำหน่ายจริงในประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566  โดยมีหน่วยงานภายนอกที่มีอำนาจรับรองมาตรฐาน ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของประเทศเบลเยี่ยมเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการทดสอบ และได้รับการอนุมัติว่าเป็นไปตามข้อกำหนด UN-R95 โดยไม่เป็นการเพิกถอนหรือยกเลิกหนังสือรับรองเดิม
  • ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2566, บริษัทฯได้รับใบขยายผลการรับรอง UN-R95 (โดยไม่เป็นการยกเลิกผลการรับรองเดิม) และขณะนี้ ทางบริษัทประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในประเทศ เพื่อดำเนินการจำหน่ายและส่งมอบรถรุ่นนี้ในลำดับต่อไป

อ่านคำแถลงฉบับเต็มได้ที่ https://www.autodeft.com/prnews/Toyota-Executive-Board-Chairman-reinforces-confidence-in-Toyota-vehicles-produced-in-Thailand

สำหรับผู้ที่ได้รับตัวรถยนต์ไปใช้งานแล้ว ขอให้มั่นใจในคุณภาพของตัวรถ สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยอย่างแน่นอน นี่คือคำมั่นสัญญาที่มาจากปากท่านประธานใหญ่อย่างคุณ Akio Toyoda เอง

Toyota Yaris Ativ

ในช่วงถาม-ตอบ ทางผู้สื่อข่าวหลายแห่งก็พยายามถามว่า “แล้วเมื่อไหร่จะสามารถส่งมอบและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ Toyota Yaris Ativ” ได้อีกครั้ง?” คำตอบที่ได้มาก็คือ จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นช่วงเวลาไหน ซึ่งจากการวิเคราะห์ของทางผู้เขียนเองก็น่าจะมาจาก การดำเนินการของทางราชการไทยนั้น ไม่สามารถระบุเวลาได้จริง ๆ อาจจะช้าหรืออาจจะเร็วก็เป็นได้ ทางโตโยต้าเองเลยไม่กล้าฟันธงระบุออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ

Toyota Yaris Ativ

ส่วนคำถามที่ผู้เขียน ที่เป็น 1 ในผู้ที่ร่วมรับฟังการแถลงข้อเท็จจริงในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน อยากจะถามอีกเรื่องก็คือ “แล้วถ้าลูกค้าที่ทำการจองรถไปแล้ว และอยากเปลี่ยนแปลงการจองในครั้งนี้ ทั้งอยากยกเลิกหรือเปลี่ยนรุ่นในการจอง ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุของความไม่มั่นใจในคุณภาพ หรือไม่สามารถรอรับรถใหม่ได้นานกว่านี้อีกแล้ว ทางโตโยต้าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร?” เสียดายที่ผู้เขียนพยายามยกมือขึ้นหลายรอบ แต่ทางผู้ดำเนินรายการกลับมองไม่เห็นสักครั้งเดียว เลยทำให้ข้อสงสัยเรื่องนี้ยังติดอยู่ในใจของผู้เขียนอยู่ต่อไป

Toyota Yaris Ativ

สำหรับใครที่ใช้งานรถรุ่นนี้อยู่ แล้วเป็นกังวลว่าจะปลอดภัยไหมถ้ายังมีการใช้งานรถรุ่นนี้ต่อไป ถ้าถามความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเองก็คงต้องบอกว่า “ใช้ต่อไปเถอะครับ” โอกาสที่จะเกิดการชนด้านข้างตามแบบที่ทดสอบการชนนั้นเกิดขึ้นได้น้อยครับ สุดท้ายแล้วเราก็ตั้งใจขับรถแล้วไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุอย่างแน่นอน แต่ถ้าบังเอิญว่าดันเกิดการชนแบบนี้ขึ้นมา แล้วชนด้วยความเร็วที่ไม่เกิน 50 กม./ชม. แล้วก็มีชิ้นส่วนคมที่จุดที่เป็นเรื่องขึ้นมาพอดีจนโดนตัวเราบาดเจ็บ แนะนำให้รวบรวมหลักฐานแล้ว “ฟ้อง” ดำเนินคดีกับทาง โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เลย เพราะในเมื่อทางท่านประธานใหญ่ของโตโยต้าเคยรับปากเอาไว้ว่ารถคันนี้ปลอดภัยแต่ดันไม่เป็นแบบนั้น ก็คงต้องให้ผู้ผลิตมารับผิดชอบอย่างจริงจังสักเคสแล้วล่ะครับ

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ