Hilux Revo Caravan Stage 2 [EP3] ส่งไม้ต่อรับช่วงความหฤโหดถึงอุซเบกิสถาน

หลังจากสิ้นสุดที่เมืองตุนหวง ประเทศจีน ด้วยสภาพเส้นทางที่หฤโหดไม่แพ้เส้นอื่นๆทั้ง ทางเรียบ ทางทะเลทรายจนถึง ทุ่งหญ้า เต็มไปด้วยสภาพอากาศที่แตกต่าง คาราวาน ไฮลักซ์ รีโว่ ก็ยังคงมุ่งหน้าต่อไป เพื่อพิชิตภารกิจ 17 ประเทศ 2 ทวีป ในระยะทาง 19,250 กิโลเมตร กันต่อไป จนมาถึงวันสุดท้ายของสื่อมวลชนกลุ่มที่ 1 ที่กำลังจะผลัดเปลี่ยนมาเป็นกลุ่มที่ 2 อย่างเป็นทางการเพื่อเดินทางต่อ ไปยังเมือง ทัชเค้นท์ ประเทศอุซเบ

เริ่มต้นวันที่ 9 ของการเดินทาง (11 มิ.ย. 2559) คณะสื่อมวลชนทั้ง 2 กลุ่ม ออกเดินทางไปท่องเที่ยวด้วยกัน โดยงานนี้ไม่ได้ใช้รถทั้ง 9 คัน เดินทางแต่เป็นการขึ้นรถบัสไปแทน โดยไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และต่อรถบัสอีกคัน เพื่อเข้าชม ถ้ำโม่เกา (Mogao) โดยถ้ำนี้ตั้งอยู่ที่หน้าผาเชิงเขาด้านตะวันออกของภูเขาหมิงซาซาน กระจายบนหน้าผารวม 5 ชั้น พอเข้าไปถึงจะเห็นช่องต่างๆ มีความยาวจากเหนือจรดใต้ 1,600 เมตร เริ่มขุดเจาะตั้งแต่สมัยราชวงศ์ตงจิ้น จนสำเร็จถึงสมัย ราชวงศ์หยวนรวม 10 กว่าราชวงศ์ ขึ้นเป็นกลุ่มถ้ำหินที่มีขนาดใหญ่โตมหึมา กอรปด้วยเนื้อหาสาระ ที่มีความสมบูรณ์แบบ นับเป็นขุมทรัพย์อันล้ำค่าแห่งพุทธปฏิมาศิลป์ที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร และได้รับการอนุรักษ์ไว้ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดของโลกจนถึงปัจจุบัน จนได้รับฉายานามว่า “เพชรน้ำหนึ่งแห่งศิลปะตะวันออก”

สมควรแก่เวลา กลุ่มสื่อมวลชนทั้ง 2 กลุ่มเดินทางกลับไปที่ โรงแรมเพื่อรับประทานอาหารเที่ยงกัน และเป็นการสิ้นสุดสำหรับคณะสื่อมวลชนกลุ่มแรก เพื่อให้กลุ่มที่ 2 รับช่วงเพื่อไปสัมผัสความ หนึบจริง แกร่งจริง ของ ไฮลักซ์ รีโว่ ทั้ง 9 คันกันต่อ โดยมุ่งหน้าไปยังเมืองฮามิ (Hami) ราวๆ 420 กิโลเมตร ส่วนใหญ่จะเป็นเส้นทางตรง แต่มีวิว 2 ฝั่ง ได้ชมความงามไปในตัวแต่เป็นในรูปแบบ ความแห้งแล้งกึ่งทะเลทรายแต่สภาพอากาศค่อนข้างร้อน โชคดีที่ ไฮลักซ์ รีโว่ มีกล่องเก็บความเย็น หรือ Cool Box บริเวณแผงคอนโซลหน้า สามารถหยิบน้ำอัดลม มาดื่มดับความร้อนได้อย่างสบาย พร้อมช่วงล่างขั้นเทพแบบ DCS กับ Firm Platform สามารถข้ามผ่านส่วนหนึ่งของทะเลทรายโกบี ได้แบบนิ่งๆและราบเรียบ อย่างถึงใจจนมาถึง เมืองหน้าด่านของ มณฑลซินเจียง นั่นคือ เมืองฮามิ นี่เอง โดยมาถึงในช่วงเย็น พร้อมรับประทานอาหารเย็น พร้อมเพรียงกันอย่างอิ่มหนำสำราญ รวมถึง แตงฮามิ ผลไม้ขึ้นชื่อของเมืองนี้

วันที่ 10 ของการเดินทาง (12 มิ.ย. 2559) สื่อมวลชนกลุ่มที่ 2 พร้อม ไฮลักซ์ รีโว่ ทั้ง 9 คัน ออกเดินทางต่อจาก เมืองฮามิเพื่อไปยังเมืองทูรูฟาน เมืองโอเอซิสที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง กับระยะทาง 410 กิโลเมตร ออกเดินทางตั้งแต่ 8 โมงเช้า โดยจะเป็นเส้นทาง แบบสองเลนกว้าง วิวข้างทางเวิ้งว้างแต่ยังคงดูสวยงาม และผ่านเนินเขาที่เป็นดิน โดยคล้ายๆกับ แกรนด์แคนยอนที่อเมริกา

ตลอดเส้นทางสามารถใช้ความเร็วบ้างในบางช่วง ถึงจะมีลมแรงมาก ก็ไม่เป็นอุปสรรคโดยเฉพาะเรื่องความเงียบของห้องโดยสารที่บุอย่างมิดชิด สามารถฟังเพลงผ่านทาง USB และ CD ได้อย่างชิวๆ พร้อมระบบปรับอากาศที่เย็นฉ่ำ บวกกับกล่อง Cool Box ชั่งน่าอภิรมย์จริงๆ และแล้วก็มาถึงเมืองทูรูฟาน พร้อมอาหารเที่ยงแสนอร่อย แต่ก็ไม่วายที่ต้องผจญกับความร้อนที่พุ่งสูงถึง 50 องศาเซลเซียส หลังทางเสร็จทุกคนต้องรีบขึ้นรถเพื่อมารับความเย็นภายในรถกันต่อ ความดีความชอบครั้งนี้ ต้องยกให้กับระบบปรับอากาศที่ปรับอุณหภูมิได้เร็วมาก

สำหรับเมืองทูรูฟาน (Turpan / Tulufan) เป็นเมืองโอเอซิสเล็ก ๆ มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก สามารถทำการเกษตรได้อย่างกว้างขวาง สภาพภูมิประเทศประกอบไปด้วย ทะเลทรายตากลามากัน (Taklamakan) ทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุด เป็นอันดับสองของโลก มีเทือกเขาเทียนซานพาดผ่านตลอดเส้นทาง และเป็นพื้นที่ที่ตํ่าสุด โดยตํ่ากว่าระดับนํ้าทะเลถึง 157 เมตร ถือเป็นเมืองที่รวมทุกด้านในประเทศจีน คือ ตํ่าที่สุด ร้อนที่สุด แล้งที่สุด และลมแรงที่สุด เห็นได้จากเมื่อขับรถเข้ามามีกังหันลมเยอะมาก

นอกจากนี้ ทูรูฟาน ยังมีของขึ้นชื่อนั่นคือ บรรดาผลไม้ที่ขึ้นชื่อทั้ง องุ่น แตงฮามี่ ลูกท้อ และที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ องุ่นอบแห้งและ ลูกเกดคุณภาพดี และเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการปลูกผลไม้มานานแล้ว และไปต่อที่ บ่อน้ำคันเอ๋อจิง เป็นบ่อน้ำที่ขุดอุโมงค์ใต้ดินส่งน้ำจากหิมะละลายบนยอดเขาเทียนซานและไหลลงมาเพื่อหล่อเลี้ยงผู้คนภายในเมือง มีระยะทางรวมกว่า 5,000 กิโลเมตร ปิดท้ายเย็นนี้อาหารเย็นกับที่พักของโรงแรม Friendship Peak Paradise ที่แสนจะสวยงามเพื่อพักเอาแรงไว้สำหรับวันพรุ่งนี้

หลังจากพักผ่อนกันเต็มที่แล้ว วันที่ 11 ของการเดินทาง (13 มิ.ย. 2559) เริ่มขึ้นอีกครั้ง โดยสิ้นสุดที่เมือง คูก้าร์ (Kuqa) กับระยะทาง 650 กิโลเมตร สภาพถนนวันนี้ เต็มไปด้วยความแห้งแล้งของที่ราบกึ่งทะเลทรายและเป็นแบบสองเลน ถึงแม้สวยงามอลังการก็จริง เพราะมีทั้ง ภูเขาดินกับหิน แต่กลับต้องเจอทางโค้งเยอะพอสมควร งานนี้ต้องพึ่งเทคโนโลยีสุดแกร่งจากเครื่องดีเซลยุคใหม่ GD Efficient Boost ทั้ง 2.8 กับ 2.4 ลิตร ผสานช่วงล่างที่ปึ๊กและแน่นจริงอย่าง DCS สามารถพิชิตทางโค้งได้อย่างเฉียบขาดและมั่นใจมากขึ้นในทุกการเดินทาง

อิ่มอร่อยกับอาหารเที่ยงกันทั่วหน้าแล้วก็เดินทางจนถึง เมืองคูก้าร์ ในอดีต เคยเป็นจุดแวะพักของกองคาราวานบนเส้นทางสายไหมสายเหนือ ในเวลาทุ่มนึง พร้อมอาหารเย็น หลังจากนั้นพักผ่อนเพื่อเข้าสู่เช้าวันใหม่ที่เมืองคาชการ์

และแล้วก็มาถึงวันที่ 12 ของการเดินทาง (14 มิ.ย.2559) คณะสื่อมวลชนพร้อมทีมงาน ก็เดินทางกันต่อไปยังเมืองคาชการ์ ตั้งแต่ 9 โมงเช้า กว่า 700 กิโลเมตร ด้วยสภาพกึ่งทะเลทราย กลับกลายเป็นที่พวกเรานั้นชินตากันมาตลอด แต่งานนี้หนักหน่อย เพราะมีลมพัดแรงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถทำให้รถไฮลักซ์ รีโว่ ทั้ง 9 คัน ต้องสะดุดกับปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ว่าฝุ่นและเม็ดทรายที่พัดเข้าหารถตามแรงลมของพายุก็ตาม

หลังรับประทานอาหารเที่ยงแล้ว ที่เมืองอัคสุ (Aksu) ก็เดินทางต่อ จนมาถึงด่านตรวจ รถไฮลักซ์ รีโว่ ทั้ง 9 คัน ก็ผ่านการตรวจทุกคันจนเข้ามาถึงเมืองคาชการ์ และเข้าพักที่โรงแรม Kashi Tianyuan Hotel  ติดกับอนุสาวรีย์ท่านประธานเหมา เจ๋อ ตุง แต่ด้วยทีมคาราวานมาถึงกันในเวลาค่ำ จึงไม่ได้ชมเมืองที่สวยงาม แต่ว่าพรุ่งนี้ทีมคาราวานหยุดพักการเดินทางที่คาชการ์ 1 วัน เพื่อชม ศูนย์กลางการเมือง การค้า และวัฒนธรรมที่สำคัญของเส้นทางสายไหมกัน

ติดตามบทพิสูจน์เส้นทางต่อไป กับการเดินทางสุดหฤโหด เพื่อเข้าสู่เมือง ทัชเค้นท์ ประเทศอุซเบกิสถาน เส้นทางสายแพรไหมจีน ย้อนรอยตลาดค้าโบราณท่ามกลางทะเลทราย สู่เอเชียกลาง จะเป็นอย่างไรต้องติดตาม

 

 

อัพเดททุกช่วงการเดินทางไม่มีพลาด ให้คุณได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ไปกับ ไฮลักซ์ รีโว่ ที่ www.toyota.co.th/hiluxrevocaravantrip และ www.facebook.com/toyotahiluxthailand

 

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com