ลองใช้งานระบบ EyeSight บน Subaru Outback และ XV ว่าใช้งานจริงได้ดีขนาดไหน
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 31 มี.ค. 65 00:00
- 6,680 อ่าน
ชื่อของระบบความปลอดภัย EyeSight ถือว่าเป็นระบบความปลอดภัยที่เราได้ยินชื่อมาระยะเวลาหลายปีแล้วของค่ายดาวลูกไก่ ซูบารุ ซึ่งในประเทศไทยก็ได้ติดตั้งลงบน Subaru Forester ก่อนเบยเป็นรุ่นแรก ก่อนที่จะมีเพิ่มเติมบนรุ่นที่นำเข้าอย่าง Subaru Outback และล่าสุดกับ Subaru XV
ผมเองก็เคยได้ลองทดสอบใช้งานบน Subaru Outback มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ต้องยอมรับเลยว่า ระบบ EyeSight 4.0 ที่ให้มานั้น มันอยู่ในระดับเทพจริง ๆ เป็นระบบที่ช่วยได้จริง ทำงานได้แม่นยำ เชื่อได้เลยว่าระบบนี้จะทำให้การเดินทางของคนที่ใช้งานปลอดภัยได้มากขึ้นอย่างแน่นอน แต่กับระบบ EyeSight 3.0 ที่ติดตั้งลงบน Subaru XV นั้น ยังไม่เคยลองเลย
โชคดีที่ผมในฐานะทีมงาน AUTODEFT ได้รับหมายเชิญในการเข้าร่วมทดสอบระบบนี้ โดยที่จะเดินทางกันเป็นขบวนคาราวาน ใช้รถ Subaru Outback และ XV เป็นยานพาหนะที่จะพาพวกเราบรรดาสื่อมวลชนเดินทางไปจุดหมายปลายทางที่จังหวัดกาญจนบุรี จะมีการแบ่งเป็น 2 ชุดคือ ขาไปขับรุ่นหนึ่ง ขากลับขับอีกรุ่นหนึ่ง เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างของระบบ EyeSight ของทั้ง 2 คันว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร
ขาไป ผมได้เริ่มต้นกับ Subaru Outback ก่อน ซึ่งต้องอธิบายก่อนว่า บนรถอเนกประสงค์คันนี้ จะมาเป็น EyeSight 4.0 ที่เปี่ยมไปด้วยระบบช่วยขับขี่และป้องกันอัตรายจากการขับขี่เอาไว้อย่างมากมายดังนี้
- ระบบบังคับเลี้ยวฉุกเฉินอัตโนมัติ(Autonomous Emergency Steering): ระบบช่วยหลีกเลี่ยงการชนโดยการหลบหลีกอัตโนมัติไปยังพื้นที่ว่างด้านข้างภายข้างในช่องทางเดิม ในกรณีที่ไม่สามารถเลี่ยงการชนด้วยระบบเบรกอัตโนมัติ (Pre-Collision Braking)
- ระบบบังคับรถให้อยู่กึ่งกลางถนนและระบบบังคับพวงมาลัยตามรถด้านหน้า (Lane Centering Control/ Preceding Vehicle Adaptive Steering Control): ประสานการทำงานร่วมกับระบบ Adaptive Cruise Control ควบคุมพวงมาลัยให้รถอยู่กึ่งกลางถนนในขณะที่ขับตามรถด้านหน้า
- ระบบป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบริเวณทางแยก (Pre-Collision Braking at Intersection): มุมมองที่กว้างขึ้นทำให้กล้องสามารถตรวจสอบยานพาหนะที่ขับสวนมาในเส้นทางตรงข้าม ระบบจะช่วยเลี่ยงการชนด้วยการเบรกอัตโนมัติ
- ระบบบังคับพวงมาลัยอัตโนมัติ (Lane Departure Prevention Function): เมื่อรถจะหลุดออกนอกเส้นถนน ระบบจะเตือนด้วยเสียงก่อนพวงมาลัยก่อนบังคับพวงมาลัยให้กลับมาอยู่ในเส้นทางอัตโนมัติ
- ระบบตรวจสอบผู้ขับ (Driver Monitoring System-DMS) : ระบบจะจับการเคลื่อนไหวของใบหน้าหากผู้ขับมีอาการง่วง, หลับ หรือไม่มองไปที่ถนนด้านหน้า ระบบจะทำการแจ้งเตือนบนจอแสดงผลพร้อมส่งเสียงเตือนเพื่อให้แน่ใจว่าคนขับมีสมาธิอยู่กับถนน นอกจากนี้ ระบบ DMS ยังสามารถจดจำใบหน้าของผู้ขับละอำนวยความสะดวก โดยการปรับเบาะที่นั่ง, จอแสดงผล, กระจกมองข้าง และระบบปรับอากาศ ได้อีกด้วย
- Post-Collision Brake Control: ระบบจะป้องกันการเกิดอุบัติเหตุหรือลดความเสียหายซ้ำซ้อนหลังจากการปะทะ ช่วยบังคับรถไม่ให้หลุดออกนอกเลนโดยการชะลอความเร็วและหยุดรถอัตโนมัติ รวมทั้งเปิดไฟฉุกเฉินแจ้งเตือนรถโดยรอบ
- ระบบป้องกันการชนเขณะถอยหลัง (Reverse Automatic Braking): ระบบจะช่วยตรวจสอบพื้นที่ด้านหลังขณะถอยหลังที่ความเร็วต่ำและจัดการเบรกให้อัตโนมัติ
ระบบ EyeSight 4.0 ที่อยู่บน Subaru Outback นั้น ทำงานได้ดีมากขึ้นเพราะกล้องที่คอยเป็นตาให้อยู่ด้านหน้านั้น จะมีมุมมองทางกว้างขึ้นและสูงขึ้นกว่าที่อยู่บนตัว XV พอสมควร เลยทำให้การตรวจจับวัตถุนั้นทำได้ดีมากขึ้น อย่างเช่นระบบ Pre-Collision Braking ที่บน Subaru XV หรือ Forester จะทำได้เฉพาะด้านหน้าเท่านั้นแต่สำหรับบน Outback ที่สามารถทำตอนที่เป้นทาวแยกได้ด้วย เนื่อวมาจากมุมมองที่กว้างขึ้นของกล้อง ที่ทำให้มองเห็นรถในมุมมองที่กว้างขึ้นนั่นเอง
ทีนี้เรามาดูกันว่า การทำงานเมื่อใช้งานจริงเป็นอย่างไร ตั้งแต่เริ่มเปิดประตูรถด้วยระบบ Smart Entry แค่มีกุญแจติดตัวอยู่ ก็เอามือจับมือจับประตู ก็ปลดล๊อกได้เลย และเมื่อเข้านั่งในตัวรถ จะมีตาวิเศษที่ดูว่าคนที่ลงมานั่งนั้นเป็นใครได้ด้วย (ต้องบันทึกก่อนนะ รถไม่ใช่ CIA ที่จะรู้จักคนทุกคน) จากนั้นรถจะทำการปรับที่นั่ง, กระจกมองข้าง และรูปแบบการขับขี่ที่คนขับเคยบันทึกเก็บเอาไว้เลย โดยสามารถบันทึกได้สูงสุดถึง 5 คน และระบบตาวิเศษนี้ (Driver Monitoring System) จะคอยจับตามองคุณตลอดเวลาในตอนขับขี่ ถ้าคุณเผลอมองสาวขาวหมวยข้างทางนานเกินไป ระบบจะเตือนยิ่งกว่าเมียมานั่งข้าง ๆ หรือถ้าเที่ยงหนักจนเผลอหลับ ระบบก็จะเตือนด้วยเช่นกัน (ดีจัง)
ระบบ Adaptive Cruise Control รอบนี้ ทำงานได้ตั้งแต่ 1-200 กม./ชม. ทำให้เราไม่ต้องรอเร่งไปถึง 30 แล้วค่อยกดเริ่มทำงานก็ได้ เราสามารถเริ่มกดตอนรถติดได้เลย แล้วทำงานจนถึงจอดสนิท ถ้าอยากเริ่มใหม่ให้กดปุ่ม Resume บนพวงมาลัย หรือกดคันเร่งเล็กน้อยแล้วก็ปล่อยให้ระบบทำงานต่อได้ทันที
ส่วนระบบอื่น ๆ ที่ผมชอบมากคือระบบดึงพวงมาลัยกลับเมื่อออกนอกช่องทาง ที่ผมว่ารุ่นนี้ดึงกลับได้แรงและเนียนที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมาแล้ว และยังทำงานได้แม่นยำสม่ำเสมอพอตัวเลย ทำให้มั่นใจมากว่าระบบจะคอยช่วยให้ยามขับขี่ของเราจะปลอดภัยมากขึ้นตลอดเส้นทาง ทั้งนี้บน Subaru Outback จะแบ่งระบบความปลอดภัยเป็น 3 หมวด โดยหมวดสีเขียวก็จะเป็นพวก Adaptive Cruise Control, สีเหลืองก็พวกที่คอยเตือนแต่ยังไม่อันตราย เช่น เตือนออกนอกเลน, สีแดงคือพวกอันตรายแล้ว เช่น ระบบเตือนการชนด้านหน้าพร้อมเบรกอัตโนมัติ อะไรพวกนี้ โดยสัญลักษณ์จะเตือนผ่านบนหน้ากระจก Head Up Display ให้เห็นได้ชัดเจน
พูดถึงระบบ Adaptive Cruise Control กันหน่อย ถ้าเป็นระบบนี้ในรถคันอื่น เวลาที่รถต้องลดความเร็วลงมาต่ำกว่าที่ตั้งไว้ แล้วรถข้างหน้าหลบ ระบบก็จะทำการเร่งขึ้นไปด้วยความแรงที่แตกต่างกันไปตามที่โรงงานตั้งมาให้ จะกดแรงกดเบาอยู่ที่ผุ้ผลิตตั้งค่าดลย แต่ความเทพของรถคันนี้มันแตกต่างครับ เราสามารถตั้งได้ว่าจะให้เร่งช้าเร่งเร็วได้ตามความชอบของตัวเอง ตั้งได้ถึง 4 ระดับ อยากให้เร่งช้าเร่งเร็วขนาดไหน ก็เลือกเองได้เลย
สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่เป็นระบบความปลอดภัย คงเป็นระบบที่ในตลาดยังไม่ค่อยมีกันสักเท่าไหร่ อย่างเช่นระบบถอนคันเร่งก่อนการชน มันจะทำการตัดการทำงานของเครื่องยนต์ถ้าด้านหน้ามีวัตถุอยู่ ไม่ว่าจะเป็นรถหรือกำแพง ถ้าคุณเผลอเหยียบคันเร่งไป เครื่องยนต์จะไม่ทำงาน ลองถึงถึงเวลาจอดรถที่ 7-11 แล้วเผลอใส่เกียร์เดินหน้าแทนที่จะถอยหลัง ถ้าเราเผลอทำแล้วกดคันเร่งเข้าไป ระบบจะตัดการทำงานของเครื่องยนต์ทันทีพร้อมการเตือน ก็จะลดอุบัติเหตุได้ หรือแม้กระทั่งระบบเบรกเมื่อถอยหลังถ้าพบวัตถุ ในจังหวะที่เรากำลังถอยหลังแล้วมีคนเดินมาตัดด้านหลัง รถก็จะหยุดให้อัตโนมัติเช่นกัน เท่านั้นยังไม่พอ ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติก่อนการชน ถ้าระบบดูแล้วหยุดรถไม่ทันแน่ ระบบจะหักพวงมาลัยหนีไปด้านที่ปลอดภัยแบบอัตโนมัติได้ด้วย โดยก่อนที่จะหันไป ระบบจะตรวจดูด้วยว่าด้านข้างมีสิ่งกีดขวางอยู่ไหม ถ้าไม่มี มันจะหักพวงมาลัยให้เลย แต่ถ้ามี ระบบจะเลือกที่จะชนมากกว่าหักออกด้านข้างนะ ระบบนี้คงไม่ต้องทดสอบนะครับ มันอันตราย เอาเป็นว่าเล่าสู่ให้ฟังกันก็พอเนอะ
ส่วนระบบการเตือนก่อนการชนด้านหน้า ก็ทำงานได้แม่นยำดี เรียกได้ว่าเตือนบ่อยด้วยซ้ำเวลาที่เราอยากจะซิ่งมุดช่องต่าง ๆ ส่วนระบบการเบรกอัตโนมัติก็ทำได้ดีจริง เพราะจังหวะที่เผลอรแบหนึ่งที่ปล่อยให้รถไฟลแรงไปหน่อย ระบบนั้นเตือนแล้วช่วงระยะเพียงเสี้ยววินาที รถก็กดเบรกให้ก่อนแล้ว แต่จังหวะนั้นผมก็กดเบรกลงไปด้วยเช่นกัน เชื่อได้ว่าระบบนี้ จะช่วยลดแรงปะทะให้กับเราได้จริง ๆ มันจะช่วยให้ลดความเสียหายให้เกิดขึ้นกับตัวรถและผู้โดยสารน้อยลงได้อย่างแน่นอน
สลับมาที่ขากลับบ้าง ที่เราต้องเดินทางด้วย Subaru XV มาพร้อมระบบ EyeSight 3.0 ที่เหลือระบบการทำงานดังนี้
• Pre-Collision Braking System เตือนผู้ขับขี่เมื่อระบบตรวจจับความเสี่ยงจากการชนด้านหน้าและช่วยเบรกเพื่อลดความรุนแรงหรือหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ
• Adaptive Cruise Control ปรับความเร็วอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า
• Lead Vehicle Start Alert แจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียงเมื่อรถด้านหน้าออกตัว
• Pre-Collision Throttle Management เตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียงและไฟกระพริบ จำกัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อตรวจพบวัตถุด้านหน้าในขณะรถหยุดนิ่ง
• Lane Sway and Departure Warning เตือนคนขับด้วยเสียงและไฟกะพริบเมื่อรถส่ายไปมาหรือออกนอกเลน
หลังจากได้ลองแล้วยอมรับเลยว่า สู้การทำงานของ EyeSight 4.0 ที่อยู่บน Subaru Outback ไม่ได้เลย เอาล่ะ มันก็ทำงานดีแหล่ะ ทั้งระบบ Adaptive Cruise Control ที่ทำงานได้นุ่มนวลในด้านการเบรก แต่การออกตัวเร่งให้ถึงความเร็วที่กำหนด ดูออกจะปึงปังไปหน่อย มีระบบเตือนออกนอกเลนที่ทำงานได้แม่นยำ แต่ไม่มีระบบดึงกลับ ระบบเตือนด้านหน้าก้ทำงานได้เร็วไม่ต่างกับตัวรุ่นพี่เลย แต่… ด้วยความที่ผมดันไปเริ่มต้นกับรุ่นที่ทำงานได้เทพกว่า แล้วันถัดมาก็มาจับตัวนี้เลย มันเลยรู้สึกว่า “โอย สู้ที่ขับเมื่อวานไม่ได้เลยอ่ะ” ถ้าผมได้เริ่มกับ XV ก่อน แล้วค่อยมาขับ Outback วันต่อมา ผมอาจจะรู้สึก “ว้าว” ทั้ง 2 วันเลยก็ได้ เสียดายจริง ๆ
สรุปกันง่าย ๆ แบบนี้ดีกว่าครับ ส่วนตัวผมว่าระบบ EyeSight ที่อยู่บน Subaru XV ก็ถือเป็นระบบความปลอดภัยที่มีอยู่คล้ายกับรุ่นอื่น ๆ ที่มีอยู่บนตลาดตัวท็อป ซึ่งก็ถือว่าช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่ และช่วยลดอุบัติเหตุได้ดีในระดับหนึ่ง แต่สำหรับที่อยู่บน Subaru Outback นั้น มันคือระบบที่ Advance ขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ที่จะเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้มากขึ้นประมาณหนึ่งเลย เอาเป็นว่าถ้าใครได้ลองใช้งานแล้ว จะรู้ได้เลยว่าที่เราเคยใช้งานในรุ่นอื่น ๆ ในตลาดหลายรุ่น กลายเป็นระบบที่พื้นฐานมาก ๆ เลย
ทดสอบและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com