Deft Scoop: Transporter Refuel รถหรูก็ซิ่งมัน อีกภาพยนตร์ขาแรงไม่ควรพลาด
- โดย : Autodeft
- 7 ก.ย. 58 00:00
- 7,521 อ่าน
พบบทวิจารณ์ภาพยนตร์ Teansporter Refuel ภาพยนต์ชั้นนำจากยุโรป ที่ขาซิ่งคอความเร็วไม่ควรจะพลาดอย่างยิ่ง
เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
กล่าวถึงรถยนต์ชั้นนำจากตลาดยุโรป ยนตรกรรมสุดหรูเป็นสิ่งที่ค่ายรถยนต์จากเยอรมันตลอดจนหลายประเทศทางแถบยุโรปพยายามนำเสนอแก่ลูกค้า ซึ่งหลายคนอาจจะมองภาพยนตรกรรมสุดหรู ว่ามันไม่เร้าใจ ทั้งที่ใต้เรือนร่างที่ดูดีอาจจะมีอะไรซ่อนอยู่ในตัวตน
Transporter ภาพยนตร์สายแอคชั่นเป็นภาพยนตร์ที่สร้างกระแสความชื่นชอบให้แก่คอรถหรูได้ตั้งแต่เมื่อครั้นออกเปิดตัวภาคแรก ซึ่งได้พระเอกขาบู้ เจสัน แสตทแฮม มารับบท “แฟรงค์” นักขับรถขนของทั้งถูกและผิดกฎหมายต่าง ซึ่งใช้รหัสว่า Transporter
[IMAGE1]
ความนิยมในความมันส์ของการขับรถหรูไปบู้ และลีลาการต่อสู้ที่เด็ดเดี่ยว ของ เจสัน แสตทแฮม ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาจนสร้างอีก สองภาค และ ท้ายสุดก็กลับมาอีกครั้งในภาคที่ 4 ซึ่งใช้ชื่อว่า Transporter Refuel
ในภาคใหม่นี้ Transporter กลับมาอีกครั้ง กับเรื่องราวของ แฟรงค์ แต่มีการเปลี่ยนนักแสดงที่มารับ จากเจสัน แสตทแฮมเป็นดารารุ่นใหม่ เอ็ด สคริน ซึ่งมีผลงานในภาพยนตร์หลายเรื่องจากยุโรป และเคยแสดงซีรี่ย์ Game of Throne ใน Episode ที่ 3 มาแล้ว การมารับบทของ เอ็ด ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะรู้สึกขาดตัวตนของความบู้ไป แต่ทางทีมงานก็ยังคงผสมผสานส่วนผสมที่ใช้มาตั้งแต่ภาคแรกจวบจนภาคล่าสุด กับ การนำรถหรูมาซิ่ง และบู้มันส์ๆไปพร้อมกัน
ภาคใหม่ เรื่องราวเริ่มจากแฟรงค์และ ตัวเอกสาวเจ้าเสน่ห์ อันนา รับบทโดย โรแอน ชาบานาล ซึ่งเป็นทั้งดารานักแสดง และนางแบบจากนครแฟชั่นของโลก ,ปารีส , รวมถึงเธอยังเป็น Ambassador ให้กับแบรนด์ Loreal ด้วย
[IMAGE2]
[IMAGE3]
เรื่องราวเริ่มต้นจาก อันนาที่ถูกแม่ใจร้ายค้าเธอมาเป็นทาสกาม กลายเป็นอีตัวของแก๊งค์มาเฟียที่ขึ้นชื่อ แต่เรื่องราวทั้งหมดในเรื่องกลับกลายเป็นความแค้น เมื่อเธอต้องการแก้แค้นสมาชิกหัวหน้าแก๊งดังกล่าว จึงวางแผนเริ่มต้นในการทำทุกอย่างเพื่อล้มล้างแก๊ง ที่ทำให้เธอต้องตายทั้งเป็น
แฟรงค์ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้อเมื่อ อันนาตัดสินใจว่าจ้างให้แฟรงค์พาเธอ และเพื่อนหนีจากธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่ามันกลายเป็นฉากขับรถหรูบู้สุดมันส์ที่สุด เท่าที่รู้สึกได้จากสามภาคที่ผ่านมา แม้จะยังคงเป็นฉากหลบหนีการไล่ล่าของตำรวจ แต่ในภาคนี้สามารถแสดงเทคนิคต่างๆ ที่คุณ อาจจะไม่คิดว่ารถยนต์นั่งสุดหรูคันโตจะทำได้มากขึ้น และมันสร้างความตื่นเต้นเร้าใจในแบบภาพยนตร์บู้แอคชั่น
ด้านรถยนต์ตัวเอกในภาคนี้เป็นรถยนต์ Audi S8 ที่สุดยนตรกรรมความหรูจากค่ายรถยนต์สัญชาติ เยอรมัน ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร พร้อมระบบหัวฉีดใหม่ และยังจัดหนักด้วยระบบเทอร์โบชาร์จคู่ ให้กำลังสูงสุด 520 แรงม้า และทำแรงบิดสูงสุดถึง 479 ปอนด์-ฟุต ตั้งแต่ 1,700-5,500 รอบต่อนาที ตามสถิติการจับอัตราเร่ง จากเว็บไซต์ในต่างประเทศเผยว่ามันสามารถให้ความเร้าใจ ด้วยอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที ถือว่าแรงไม่ต่างจากซุปเปอร์คาร์ชั้นนำก็ว่าได้
ตลอดทั้งเรื่อง Audi S8 โชว์ตัวตนความเป็นสปอร์ตในร่างหรูมากมาย ทั้งการขับบู้ล้างผลาญบนถนน ตลอดจน โชว์ที่สุดของเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่นการสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ ตลอดจนการเข้าโหมดขับอัตโนมัตี่ความเร็วต่ำ ในขณะที่ แฟรงค์ ออกไปบู้ล้างผลาญ เตะต่อย อย่างเมามันส์ เป็นที่สุดของการ Tie in สมรรถนะรถ แล้วโชว์ศักยภาพให้เห็นไปด้วยพร้อมกัน
[IMAGE4]
อย่างไรก็ดี แม้ตลอดเวลาที่นั่งยู่ในโรงภาพยนตร์ เราจะรู้สึกเมามันส์กับฉากบู้ขับรถ ซึ่งเป็นเรื่องที่โดดเด่นใน Transporter ทุกภาค และต้องยอมรับว่า ภาคนี้ก็ทำออกมาได้ดี จนน่าจะกล่าวได้ว่าดีที่สุดของ Transporter เท่าที่เคยสร้างกันมา ที่สำคัญ มันมีหลายฉากมากขึ้น ไม่ใช่แค่ต้นเรื่องและท้ายเรื่องเหมือนที่ผ่านๆมา
แต่ทีมงานผู้สร้างกับทำให้เรื่องต่างดูซับซ้อนเกินไป ในพลอทเรื่อง โดยเฉพาะ การมีพ่อพระเอกเข้ามาเกี่ยวข้อง ตลอดจนนางเอกก็มีลูกทีมในการทำงานที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน หรือจะเป็นผู้ร้านที่มีความซับซ้อนมากมาตั้งแต่เริ่มเรื่อง ทำให้การดำเนินเรื่องต้องมีการเชื่อมโยงเชิงซ้อนมากขึ้น และทำให้บางครั้ง กลายเป็นภาพยนตร์ที่ต้องคิดตามในระหว่างที่คุณดู ถ้าต้องการดูให้รู้ว่าเรื่องจะจบอย่างไร แถมระหว่างท้องเรื่อง มีการพูดถึงเรื่องจากหนังสือเป็นเชิงซ้อนเข้ามาอีก เนื่องจากนางเอกยึดเอาหลักการล้มล้างเจ้าพ่อจากหนังสือสามทหารเสือ (Three Musketeers) และมีหลายประโยคที่ยึดเอามาจาก ตัวเอกของเรื่องสามทหารเสือ ,ดาทายัง , ทำให้คุณต้องคิดตามให้มัน มากขึ้นไปอีก
แต่เอาเข้าจริง บอกตามตรงเลยว่า แค่ไปดูทางค่ายภาพยนตร์เอา Audi S8 มาถลุง ก็ค่อนข้างคุ้มค่าต่อค่าตั๋วที่คุณเข้าไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว
Transporter Refuel อาจจะมีบางอย่างที่แตกต่างไปจากสามภาคที่แล้ว โดยเฉพาะตัวเอก ที่ไม่ใช่ เจสัน แสตทแฮม อีกต่อไป หลังย้ายวิกไปยังฮอลลีวู๊ดแล้วแสดงกับ ซีรี่ย์ Fast & Furious แต่การกลับมาครั้งนี้ภาพยนตร์ซิ่งสุดหรู เชื้อสายยุโรป ซึ่งสำหรับคอความเร็ว อย่างเราๆ ท่านๆ รับรองว่าคุ้มค่าตั๋วอย่างแน่นอน
หมายเหตุ ภาพจาก official Trailer – Transporter Refuel เจตนาเพื่อประกอบบทความเท่านั้น
เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง Fan page ,Twiter (@nattayodc)
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com