Skully Helmet …หมวกกันน๊อกสุดล้ำ ที่ไม่เคยได้เกิด ....
- โดย : Autodeft
- 15 ก.ย. 59 00:00
- 9,867 อ่าน
หากกล่าวถึงหมวกกันน๊อกที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เราต่างรู้ดีว่าพวกมันมีหน้าที่สำคัญในการปกป้องภยันตรายต่อหัวของเราหากพลาดท่าเสียที หน้าที่ของมันถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับขี่โดยเฉพาะในหมู่ผู้ใช้มอเตอร์ไซค์
หน้าที่สุดสำคัญทางด้านความปลอดภัยถูกท้าทายให้หมวกกันน๊อคทำหน้าที่อื่นๆได้ ที่ผ่านมามีบริษัทมากมายพยายามคิดฟังชั่นที่จำเป็นในการขี่รถมอเตอร์ไซค์ เช่นมีระบบลูทูธมาให้อะไรเทือกนั้น แต่ไม่มีใครจะทำให้บริษัทชั้นนำทั่วโลก สนใจเท่าแบรนด์ Skully ซึ่งทำเอาหลายคนอยากจะจับจองเป็นเจ้าของ
Skully Helmet เป็นบริษัทที่ก่อตั้ง โดยสองพี่น้อง มาร์คัส เวลเลอร์ และ มิทช์ เวลเลอร์ แต่แรงบันดาลใจหลังมาจากมาร์คัส ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ เป็นแรงบันดาลใจให้เขาก่อตั้งบริษัทน้องใหม่ โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะผลิตหมวกกันน็อก ที่ดีกว่าหมวกกันน๊อกธรรมดาทั่วไปขึ้นมา
[IMAGE1]
แนวคิดหลักของ skully Helmet คือ การผลิตหมวกกันน๊อกที่มีความทันสมัยเปี่ยมด้วยไฮเทคโนโลยีชั้นสูงเข้ามาอยู่ในตัวครอบหัว ป้องกันศีรษะของคุณเอง หลายคนคิดว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ แต่ มาร์คัส ได้โชว์ต้นแบบของมันออกสู่สายตาชาวโลกในอเมริกา ในต้นแบบ Skully AR-1 มันเป็นหวกกันน๊อกที่มาพร้อมความล้ำสมัยแสดงผลด้วยหน้าจอแบบ Head Up Display แสดงข้อมูลประกอบจริง ตรงหน้าผู้ขับขี่ วางไว้เหมือนไกลในระยะ 3 เมตร และ ยังมีกล้องมองด้านหลัง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ระบบสามารถทำให้เชื่อมต่อแผนที่การนำทางจาก GPS และ เชื่อมต่อโทรศัพท์ มือถือ ที่สำคัญที่สุด เจ้าหมวกนี้ยังใช้การสั่งงานด้วยเสียง มันทำงานผ่านระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอย ที่เราคุ้นเคยในสมาร์ทโฟน
ที่น่าสนใจยิ่งกว่า คือด้วยความน่าสนใจของตัวผลิตภัณฑ์ จากคอมอเตอร์ไซค์ทั่วอเมริกา ทำให้ เวลเลอร์สร้างกระแสต่อบริษัทอย่างล้นหลามพร้อมทั้งหาทุนมาทำหมวกสุดล้ำจากต้นแบบสู่เวอร์ชั่นขายจริง ภายใต้ชื่อโครงการ Indiegogo โดยพวกเขาได้รับเงินกว่า 2.4 ล้านดอลล่าร์สหรัฐเป็นทุนรองลังในการสร้างหมวก Scully ให้ กลายเป็นจริง เป็นแคมเปญที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จที่สุดในการหาเงินจากระบบเครือข่าย หรือ ที่เรียกว่า Crowd Funding
ไม่เพียงแค่ในแง่การลงทุนเท่านั้น แต่ทาง Skully ยังมียอดสั่งจองเข้ามาหนาตาเป็นจำนวนราวๆ 3,000 ใบ ทำให้ อนาคตบริษัทนี้ค่อนข้างสดใส จนบริษัทรายใหญ่บางแห่งก้าวเข้ามาร่วมด้วยช่วยลงทุน อย่าง Intel Capital และ Walden Riverwood venture รวมถึงบริษัทยังได้รับการสนับสนุนจากระบบทุนแบบ Series A คล้ายกันกับในกรณีของ Tesla Motor โดยได้เงินจากการหาทุนมา 11 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ
ทว่าเมื่อถึงกำหนดส่งมอบสินค้า ผลปรากฏว่า Skully เกิดความล่าช้าต่อลูกค้า จากเดิมที่มีการกำหนดว่า จะเป็นช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2015 ก็ล่าช้าเป็นเดือนพฤศจิกายน จนท้ายที่สุดมีแผนว่าจะวางจำหน่ายช่วงคริสต์มาสก็ไร้วี่แวว ทว่าก็ไม่ใช่ว่าเจ้าหมวกสุดล้ำนี้จะไม่ออกไปวางจำหน่ายเสียทีเดียว เพราะมีรายงานว่ามีหมวกกันน๊อค Skully จำนวนหนึ่งถูกส่งถึงมือลูกค้า บางรายงานเชื่อว่า มี 20 ใบเท่านั้น แต่ทุกรายงานระบุว่ามีไม่ถึง 100 ใบ ที่ถูกผลิตและส่งไปยังปลายทางจนถึงมือลูกค้า
ที่สำคัญนอกจากการไม่สามารถส่งมอบสินค้าได้ตามกำหนดและตามปริมาณแล้ว การบริหารภายในองค์กร ยังเป็นก็ส่วนหนึ่งที่สำคัญ ให้บริษัทอนาคตไกลรายนี้ร่วงไม่เป็นท่า เนื่องจากไม่มีการวางแนวทางการบริหารบริษัทต่อไปอย่างชัดเจน ไม่เหมือนกรณีที่ Tesla ที่มีการจ้างหัวหน้าทีมวิศวกรเข้ามา
รวมถึง Skully ยังมีลักษณะเป็นธุรกิจครอบครัว หลังจาก มาร์คัส กอดคอให้ มิทช์ น้องชายของเขาดูแลสายงาน แต่เขาไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ และทำให้ผู้ลงทุนสั่งให้เขาถอดมิทช์ออกจากตำแหน่ง ตลอดจนการเข้ามาของ มาร์ติน ฟิทช์เชอร์ในตำแหน่ง COO ยังคานอำนาจกับผู้ก่อตั้ง Marcus Weller และภายหลัง ถูกสั่งให้ทำหน้าที่แทนมาร์คัส
แต่นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า ปัญหาสำคัญน่าจะอยู่ที่ระบบการเงินของบริษัทที่พบอุปสรรคมากกว่าจากซัพพลายเออร์ โดยมีรายงานว่า มาร์คัส เตรียมจะขายบริษัทหรือไม่ก็ให้บริษัทจากจีนที่ชื่อ Le Sport เข้ามาควบคุมกิจการแทน พร้อมหาเงินในระดับ Series B เข้ามาเติมเต็มระบบเงินของ Skully แต่นั่นไม่ทันการและทำให้บริษัทต้องปิดตัวลงไป
[IMAGE2]
เมื่อไม่นานมานี้ใน Ebay มีผู้นำหมวกกันน๊อกอัจฉริยะออกมาวางจำหน่าย โดยมันมีมูลค่าสูงถึง 2,085 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 75,000 บาท โดยผู้ขายระบุกับ Rideapart ว่า หมวกนั้นใช้งานได้ดี และทำได้จริงตามที่ทาง Scully บอก และเข้าค่อนข้างจะพอใจกับตัวสินค้ามากพอสมควร ไม่ว่าจะกล้องมองหลังที่คมชัด และระบบเสียงคุณภาพสูง
หากด้วยการปิดตัวลงของ Skully ทำให้เขาคิดว่าจะเป็นการดีกว่าที่จะขายมากกว่าจะเก็บมันไว้ เนื่องจากไม่มีการสนับสนุนทางเทคนิคในอนาคต และ เมื่อมันเสียจะไม่ต่างอะไรจากที่ทับกระดาษมูลค่า 50,000 บาท
อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ที่ Skully อาจจะกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง ในอนาคต นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า การปิดตัวลงของ Skully มาจาก นักลงทุนที่เห็นว่าเรือกำลังจะจม และจะดีกว่าและจบการผลาญเงินมากกว่า ถ้าเขาปิดบริษัทวันนี้ และรอพร้อมจึงกลับมาเปิดใหม่
นั่นตรงกับสิ่งที่ รองประธานทางด้านการตลาดของ Scully นาย คาร์ลอส โรดิเกส ออกมาเปิดเผยว่า กลุ่มผู้บริหารพยายามหาเงินทุนมาทำผลิตภัณฑ์ต่อให้กลายเป็นจริง และเราพยายามที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า ที่มีการสั่งจองเข้ามา
Scully Helmet น่าจะเรียกว่าเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ดีของบริษัทยุคใหม่ที่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่การปราชัยเกิดจากหลายสิ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่ไม่แน่ใครจะรู้ว่า พวกเขากลับมาสร้างฝันให้เป็นจริงมากกว่านี้เมื่ถึงในเวลาที่ใช่ ...
เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง Fan page ,Twiter (@Nattayosc), Blog ส่วนตัว
ติดตามเรื่องราว ข่าวสาร และความรู้ รถยนต์ได้กับพวกเรา ได้ที่ www.Autodeft.com
หรือผ่านทาง Fanpage Facebook กดไลค์และ Follow ได้ที่ www.facebook.com/autodeft
ที่มา
Skully has crashed and burned – Tech Crunch
The Skully AR-1 smart motorcycle helmet is dead, but could still rise from beyond the grave -digitaltrend
From Bad to Worse: SKULLY Systems Goes Under - Yahoo News
AR helmet maker Skully investors boot founders, replacing them with Martin Fitcher as CEO -– Tech Crunch
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com