โลกอนาคตจะเป็นอย่างไรนะ..วิจัยชี้รถอนาคต อาจไม่มีแตร กระจก มองหลัง หรือกระทั่งพวงมาลัย

วิจัยชี้รถยนต์อนาคตเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ไร้พวงมาลัย คันเร่ง และ แตร เหตุเทคโนดลยีก้าวล้ำเชื่อเป้นจริงในอีก 20 ปี ต่อจากนี้

 

 

ตั้งแต่เรื่องราวรถยนต์ขับขี่โดยอัตโนมัติด้วยตัวเองออกมาเป็นเรื่องราวมากขึ้นในหลายๆ ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าประเด็นหนึ่งที่หลายคนมองเกี่ยวกับรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้ คือรถในอนาคตเราจะเป็นอย่างไรในอนาคต และมันเป็นเรื่องที่หลายคนสนใจ

แม้ว่าเราอาจจะยังไม่สามารถพูดได้รถยนต์วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อีกหน่อยเราจะต้องทดสอบรถยนต์กันอย่างไร  แต่ล่าสุดรายงานจากการสำรวจของ  IEEE  หรือ The Institute of Electrical and Electronics Engineers  กลับให้ความเห็นว่ารถยนต์ในอนาคตที่จะผลิตในปี 2035  หรือราวๆ อีก   21  ปี ต่อจากนี้ น่าจะเหมือนกับรถต้นแบบของ  google   ที่ออกมาเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้

[IMAGE1]

รถยนต์ขับเองได้อัตโนมัตจากค่าย Google

รายงานการสำรวจนี้ได้ทำการสำรวจกับบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิ ,สมาชิกนักสังคมศาสตร์ , นักศึกษาในมหาวิทยาลัย ไปจนถึง ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องทางด้านยานยนต์ โดยเฉพาะในเรื่องของระบบยานยนต์อัตโนมัติ โดยทั้งหมด มีความเห็นตรงหันว่า  20  ปีต่อจากนี้ กิจกรรมที่เรียกว่าการขับรถนั้น จะถูกควบคุมโดยระบบคอมพิวเตอร์ และรถยนต์ทั้งหมดนั้นน่าจะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติในท้ายที่สุด

ทั้งนี้ตามการให้ความเห็นของผู้ที่มีส่วนร่วมต่อการสำรวจในครั้งนี้ ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องน่าสงสัยเลยว่ารถยนต์ในอนาคตจะมีการรัยเอาเทคโนโลยีระบบขับรถได้อัตโนมัติไปใช้อย่างแน่นอน แต่ท้ายสุดรถทุกคันจะใช้ระบบดังกล่าว  ซึ่งจะได้รับการยอมรับ ทั้งในเรื่องของความแน่นอนทางกฎหมาย นโยบายในการผลิต และการยอมรับจากผู้บริโภค ในขณะที่เรื่องของโครงสร้างพื้นฐานนั้นถูกมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น

ตามการสำรวจครั้งนี้ยังมีเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการคาดการของก้าวขั้นของเทคโนโลยี โดยเริ่มจากระบบ  Driveless  Car  จะถูกแนะนำก่อน โดยในปี 2030  มีการคาดการณ์ว่า กระจกมองหลัง แตร และ เบรกฉุกเฉินของรถจะหายไป ก่อนที่ชุดบังคับเลี้ยวและคันเร่ง และเบรก อาจจะตามไปในอีก 5  ปีหลังจากนั้น

อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่า ระบบรถขับขี่ได้เองนั้นมีหลายปัจจัยเป็นองค์ประกอบ และเมื่อพูดถึงเทคโนโลยีที่เชื่อว่าต้องมีการพัฒนาให้ก้าวหน้ามากขึ้นกว่าปัจจุบัน ร้อยละ 56  ของการสำรวจเผยว่าส่วนสำคัญ อยู่ที่ระบบเซนเซอร์ ตามด้วยระบบซอฟท์แวร์ต่างๆที่ เข้ามาช่วยการขับขี่ ถูกมองว่ามีความสำคัญเป็นอันดับที่ 2  ถึงร้อยละ 48 และท้ายสุดต้องมีระบบช่วยเหลือระหว่างการขับขี่ที่ดีขึ้นถึงร้อยละ  47

แม้ว่าเราอาจจะยังไม่รู้ว่า รถยนต์อนาคตนี้น่าจะเป็นเช่นไร แต่ต้องยอมรับว่า ในอนาคตเราหลายคนอาจจะไม่ใต้องใช้วลีเรื่องการขับรถ หรือต้องมา หงุดหงิดกับการขับรถยนต์อีกต่อไป

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com