แรงกว่าอย่างเหนือชั้น คุณรู้จักยัง Hyper Car !!!!
- โดย : Autodeft
- 26 ส.ค. 57 00:00
- 13,625 อ่าน
รู้จักข้อเท็จจริงคำว่าสมรรถนะของรถยนต์ที่คือที่สุดของที่สุด Hyper Car .....มันใช้เรื่องสมรรถนะแรงม้าหรือนิยามของมันเหล่านั้นอาจจะมากกว่าที่คิด
พูดถึงชายชาตรีกับรถยนต์แล้ว เราแทบทุกคนแทบจะรู้จักและต้องการความเร้าใจจากสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงรถคันเก่ง แม้ตลอดช่วงหลายสิบปี ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีโอกาสสักครั้งจะจัดรถ Super Car สักคัน ถ้ามีบุญวาสนา แต่ในหลายปีที่ผ่านมา รถซุปเปอร์คาร์ ดูจะแรงไม่ทันใจเศรษฐี เมื่อมันมีคลาสรถที่แรงกว่า ซึ่งเรียกว่า Hyper Car
เราหลายคนอาจจะรู้จักรถแรง รู้ยี่ห้อจำชื่อหรือกระทั่งเห็นภาพก็จำมันได้ แต่น่าเสียดายที่คนจำนวนไม่น้อย พูดเอาเหมาะว่ารถยนต์สมรรถนะสูงทุกรุ่นเป็นรถยนต์แบบซุปเปอร์คาร์ ทั้งที่ความจริงแล้วรถยนต์ที่เรามองเห็นหรือเคยรับรู้ว่านี่เป็นรถซุปเปอร์คาร์นั้น มันอาจจะกลายเป็นรถ Hyper Car ในสมัยนี้
ที่มาที่ไปของคำว่า Hyper Car นั้น เกิดขึ้นในช่วงปี 1994 ซึ่งย้อนกลับในยุคทองของเครื่องยนต์สมรรถนะในช่วงนั้น “Hyper Car” เป็นคำที่เกิดขึ้น โดยนักฟิสิกส์ ชาวอเมริกัน นาย อาโมรี่ โลวิ่น เจ้าของสถาบันวิจัย Rocky Mountain ที่มองวิสัยทัศน์ถึงยนตรกรรมในวันข้างหน้า ที่จะมีการพัฒนาให้มีสมรรถนะมากขึ้นไปกว่าในช่วงนั้น
ตามแนวคิดของ โลวิน ในยุคแรกที่ออกมา เขามองว่ารถยนต์ Hyper Car คือการใช้เทคโนโลยีหลายอย่างเข้ามาประยุกต์กับการออกแบบสร้างรถยนต์ ไม่ว่าจะการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ เทคโนโลยีทางด้านวัสดุศาสตร์ ซึ่งเขาฝันถึงรถที่มีขนาดใหญ่แต่มีน้ำหนักเบากว่าครึ่งของขนาดรถ รวมถึง เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนที่มีความก้าวหน้ามากกว่าในยุคนั้น
ที่จริงแล้ว โลวิน อาจจะไม่เคยคิดว่านิยามของคำว่า Hyper Car ของเขาจะกลายมาเป็นคำที่ใช้เรียกรถยนต์สมรรถนะสูงในปัจจุบัน เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์คนนี้มองถึงการที่รถยนต์หนึ่งคันสามารถวิ่งได้ในระยะทางที่ไกลกว่า 300 ไมล์ต่อครั้ง และปราศจากการปล่อยไอเสีย ซึ่งฟังดูไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับรถยนต์สมรรถนะสูงชั้นนำระดับโลก
แต่ด้วยคำนิยามของ Hyper Car ที่ว่ารถยนต์ที่จะเข้าแก๊ปนั้น จะต้องเป็นรถยนต์ที่ทำมาจากวัสดุน้ำหนักเบา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการลดการใช้เหล็กลงแล้วใช้วัสดุยุคใหม่มากขึ้น ซึ่งรถสปอร์ตสมรรถนะสูงอย่างซุปเปอร์คาร์ทำมานานแล้ว แต่ในระยะหลัง ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้นทำให้ค่ายรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ทั้งหลาย ต่างเริ่มเดินหาวัสดุใหม่ จนรถยนต์บางรุ่นชั้นนำใหม่ๆ โครงสร้างทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งชิ้น
เครื่องยนต์กำลังแรงสูงหลายพันม้าไม่ใช่สิ่งที่ Hyper Car ฝันถึง แต่คือการประยุกต์เทคโนโลยีมาปั้นสมรรถนะต่างหาก
แถมการออกแบบตัวรถในปัจจุบันยังทำในอุโมงลมเพื่อลดแรงเสียดทานจากลมปะทะ ตรงตามค่าหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น แถมบางรุ่น หลักการอากาศพลศาสตร์ยังเข้ามามีบทบาทในการควบคุม ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ และยิ่งไปกว่านั้น ทางด้านเครื่องยนต์สมรรถนะสูงในปัจจุบันก็มีปรับและหันมาใช้ระบบไฮบริดเสริมความลงตัวมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานมากขึ้น ซึ่งพูดกันตามตรงแม้จะไม่ใช่อย่างที่ ดร.โลวินกล่าวไว้ทั้งหมด แต่มันก็ตรงตามความหมายที่ให้ไว้ในยุคนั้น
ปี 1999 คำว่า Hyper Car เริ่มกระจายออกสู่ตลาด จากการที่สถาบันของดร.โลวิน ต้องยืนหยัดตัวเอง พวกเขาก่อตั้ง Hyper Car Inc. ซึ่งตอนหลังในปี 2004 มันถูกปรับชื่อเป็น Fiberforge ผันตัวมามุ่งการค้าในการทำชิ้นส่วนน้ำหนักเบาที่ยังมีความแข็งแรงมากขึ้น ให้มีราคาถูกลงกว่าเดิม ทำให้มีความเชื่อว่าคำนี้จึงถูกใช้ในหมู่ผู้พัฒนารถยนต์ซุปเปอร์คาร์ยุคใหม่มากขึ้น
และด้วยการออกแบบหลายอย่างที่ตรงประเด็นกับคำนิยามในปัจจุบันบนรถยนต์สมรรถนะสูงราคาหลายสิบล้าน คำว่า Hyper Car จึงถูกใช้เพื่อแทนที่คำว่าซุปเปอร์คาร์ เป็นคำที่การตลาดใช้เพื่อทำให้ลูกค้ากระเป๋าหนักที่ซื้อรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ระดับแถวหน้ารู้สึกว่าพวกเขาได้อะไรมากกว่า แค่รถสมรรถนะสูง 1 คัน แต่เป็นอะไรที่มากกว่าด้วยสมรรถนะที่มีความเหนือชั้นมากขึ้นกว่าที่ซุปเปอร์คาร์เคยเป็น ซึ่งในช่วงแรกมีการแข่งกันที่ตัวเลขสมรรถนะที่สามารถปั้นออกมาได้จากเครื่องยนต์ ทั้งที่ปัจจัยความสำคัญของรถยนต์ Hyper Car นั้นอยู่ที่การประยุกต์เทคโนโลยีต่างๆ มาสู่สมรรถนะอย่างลงตัว
อย่างไรก็สำหรับคนที่ยังจำแนกไม่ออกว่า Hyper Car กับ Super Car ต่างกันอย่างไร มี 3 กฎที่ควรจดจำเบื้องต้นในการจำแนกเจ้ารถยนต์สมรรถนะสูงเหล่านี้
ประการแรก Hypercar นั้น รถทั้งคันจะทำมาจากวัสดุน้ำหนักเบา ส่วนใหญ่แล้วจะทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์แรงอัดสูงง โดยในขณะที่ตัวรถมันยังมีขนาดใหญ่ ก็มีน้ำหนักที่ไม่ได้มากมายนัก
การใช้แฟลพในการปรับทิศทางลมเพื่อช่วยในการทรงตัวยามเข้าโค้ง
ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดนวัตกรรมเทคโนโลยี ใน Pagani Huayra จนขึ้นชื่อว่าเป็น Hyper Car
ประการต่อมา รถคันนั้นต้องมีเทคโนโลยีอื่นๆเข้ามาผสมผสานในการขับเคลื่อนสมรรถนะ เช่น หลักการออกแบบตามหลักการอากาศพลศาสตร์และหรือ ควบรวมกับการใช้ระบบเหล่านี้ในการขับเคลื่อน ยกตัวอย่างเช่นการใช้ Air Brake ของ Bugatti Veyron หรือ การใช้ Flap เพื่อการเข้าโค้งของ Pagani Huaya เป็นการปะยุกต์เทคโนโลยีอื่นๆเข้ามา
และท้ายสุด เครื่องยนต์สมรรถนะสูงไม่จำเป็นต้องมีแรงม้าระดับหลายพันแรงม้า อย่างที่เข้าใจ แต่ประเด็นสำคัญ อยู่ที่ระบบเคลื่อนในแบบผสมผสานไม่ว่าจะการใช้เครื่องยนต์ระบบไฮบริดเข้ามาตอบโจทย์ในการสร้างพละกำลัง ให้มีสมรถนะที่สามารถควบคู่กับความประหยัดได้ และ Hyper Car เนื้อแท้ไม่ได้วัดที่ความเร็วปลายท้านรกอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่มันเป็นการประยุกต์เพื่อให้ได้กำลังการขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการขับขี่
เป็นรถที่กล่าวขวัญมากในวงการคิดค้นยานยนต์
เมื่อ ดร.โลวินกล่าวว่า BMW i3 นี่แหละ คือรถ Hyper Car ตามความหมายของเขา
แม้ท้ายสุด นิยามของ “Hyper Car” จะถูกนำไปใช้กลุ่มรถยนต์สมรรถนะสูงระดับโลกที่มีสมรรถนะหลายพันม้าตอบใจเศรษฐีทั้งหลาย แต่ในที่สุดแล้ว Dr.โลวิน บุรุษผู้นิยามคำนี้ ออกมาเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า สำหรับเขา Hyper Car กำเนิดขึ้นในปี 2014 โดยเขายกย่องรถยนต์สองรุ่นให้เป็น Hyper Car ได้แก่ BMW i3 ที่วางจำหน่ายในยุโรป และว่าที่รถใหม่ที่มีความประหยัดสุดตามแนวคิดของผู้ผลิตรถยนต์ Volkswagen XL 1
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
รายชื่อรถยนต์คลาส Hyper Car ที่เชื่อกันในปัจจุบัน
Mercedes CLK GTR AMG
Mclaren P1
Koenigsegg Agera R
Ferrari FXX Enzo
Bugatti Veyron Super Sport
Bugatti Veyron Grand Sport Vitesse
Lamborghini Aventador LP700-4
Porsche 918 Spyder (a Hybrid Hypercar)
Pagani Huayra
Lamborghini Reventon
รายชื่อรถยนต์ Hyper Car ตามแนวคิดของ ดร.โลวิน
BMW i3
Volkswagen XL1
[GALLERY706]
[GALLERY707]
[GALLERY16]