ไฟหน้ารถยนต์ ...ภยันตรายแฝงใกล้ตัว
- โดย : Autodeft
- 14 มิ.ย. 58 00:00
- 7,081 อ่าน
พบข้อเท็จจริงระบบไฟหน้ารถยนต์ในวันนี้มันอาจจะไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คุณคิด เพียงเพราะเชื่อว่าไฟที่ส่องสว่างได้มากจะให้การมองเห็นที่ดี
เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
กล่าวถึงรถยนต์ทุกวันนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่า เราหลายคนต่างมองหาระบบช่วยเหลือในระหว่างการขับขี่ ด้วยการอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์ในการใช้งาน แต่ว่าบางครั้ง หรือ อาจจะในหลายๆครั้ง คงต้องยอมรับว่า เทคโนโลยีที่ดูดีฟังแล้วทันสมัยก็อาจจะมีข้อจำกัดของมัน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ระบบไฟหน้าในรถยนต์ของเราๆ ท่านๆ ต่างมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ตลอด 10 ปีที่ผ่านมามีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาตอบโจทย์เสมอ ตั้งแต่หลอดไฟฮาโลเจนแบบดั้งเดิม ,ไฟซีนอน จนมาถึงยุคไฟ LED และมันกำลังจะเปลี่ยนถ่ายไปสู่ยุคไฟเลเซอร์ เหมือนที่แนะนำใน BMW Series 7 ใหม่ ซึ่งสามารถส่องสว่างได้ไกลสูงสุดถึง 600 เมตร ในตำแหน่งไฟสูง
[IMAGE1]
ระบบไฟหน้าเหล่านี้ ความทันสมัยของมันถูกตอบโจทย์ด้วยความสว่างในการใช้งาน จนบางคนมักเข้าใจว่า เมื่อได้ระบบไฟใหม่ๆในรถยนต์คันใหม่ มันจะทำให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย แต่ความจริงแล้วระบบไฟหน้ารถยนต์ทุกวันนี้ อาจจะไม่ได้สว่างมากมายอย่างที่คุณคิดมันเป็นภาพลวงตาในความเชื่อผิดๆ
เมื่อไม่นานมานี้มีการทดลอง ระบบไฟหน้ายุคใหม่ในฟลอริดา โดยสถาบันวิจัยยานยนต์ของสมาคมรถยนต์แคลิฟอร์เนียใต้ร่วมกับหน่วยงาน AAA โดยจากผลสรุปในการทดสอบชุดไฟหน้ารถยนต์ที่ขายในอเมริกากลับพบว่ากว่า 40 % ของรถยนต์ที่วางจำหน่ายในตลาดรถยนต์อเมริกา สอบตกในการที่จะให้การส่องสว่างทางแก่ผู้ขับขี่อย่างชัดเจน
โดยเฉพาะเมื่อผู้ขับขี่ใช้ความเร็ว 65 ก.ม./ช.ม. เป็นไปได้สูงที่แสงไฟจะไม่สามารถตรวจเจอ หรือสะท้อนวัตถุระหว่างทางไม่ว่าจะ จนคนเดินถนน ,สัตว์ หรือสิ่งของที่กีดขวางทาง จนทำให้ผู้ขับขี่มีเวลามากพอที่จะตัดสินใจหลีกเลี่ยงหรือหยุดรถได้ทันสถานการณ์
[IMAGE2]
ในไฟฮาโลเจนเทคโนโลยีไฟหน้าพื้นฐาน เมื่อเปิดสวิทช์ในตำแหน่งไฟสูง จะเพิ่มค่าการส่องสว่างจากเดิมอีก 28 % แต่ในการใช้งานจริงก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ผู้ขับขี่สามารถที่จะบังคับควบคุมรถได้ดีหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินยามที่คุณใช้ความเร็วในการขับขี่ โดยตามรายงานระบุว่าความเร็วที่เหมาะสมในการที่คนขับขี่จะหยุดรถได้ทันท่วมที คือความเร็ว 76 ก.ม./ช.ม.
แต่คอนักแต่งรถที่รู้แบบนี้แล้วเตรียมจะหาไฟซีนอนมาติดทันทีก็อย่างเพิ่งจะดีใจไป เพราะตามรายงานอาจจะยืนยันว่าเมื่อเทียบการส่องสว่างแล้วไฟหน้าแบบ LED และ ไฟหน้าแบบ High Intensive Discharge หรือ ไฟซีนอน แม้จะมีความสามารถในการส่องสว่างมากกว่า 25 % เทียบกับไฟฮาโลเจน ทว่าข้อเท็จจริงที่สำคัญข้อหนึ่งคือว่าการส่องสว่างของไฟจะลดลงประมาณหนึ่งเมื่อใช้ความเร็วเกิน 72 ก.ม./ช.ม. ขึ้นไป
อย่างไรก็ดี ถ้าคุณต้องขับในถนนหนทางที่มืดชุดไฟหน้าแบบ LED หรือ ซีนอน มีประโยชน์มากว่า ในการส่องสว่าง โดยเฉพาะตำแหน่งไฟสูง ที่สามารถส่องได้ไกลถึง 500 ฟุตเลยทีเดียว
แม้ว่าการส่องสว่างในยุคใหม่จะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน แต่ที่สำคัญที่เราได้จากงานวิจัยชิ้นนี้คือความไม่ประมาทในการขับขี่ โดยเฉพาะในยามค่ำคืน ซึ่งคุณอาจจะกลายเป็นเหยื่อความประมาทเพียงเพรามั่นใจในชุดไฟหน้าที่ส่องสว่างจนแสบตาว่า มันปลอดภัยสุดๆ
เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com