Deft Scoop: ถอดรหัสโชคชะตากรรม Mitsubishi Motor จะเป็นอย่างไร หลัง Nissan เข้าควบคุม
- โดย : Autodeft
- 13 พ.ค. 59 00:00
- 30,845 อ่าน
กล่าวถึงข่าวใหญ่ในรอบสัปดาห์ เห็นทีจะไม่มีบริษัทรถยนต์รายไหนจะเป็นประเด็นร้อนมากกว่า Mitsubishi Motor หลังจากมีการประกาศและยืนยันการเข้าควบคุมกิจการ บริษัทรถยนต์รายใหญ่ที่มีชื่อเสียงยาวนานรายนี้โดยบริษัท Nissan Motor ...จนหลายคนที่เป็นสาวก ต่างรู้สึกไม่ค่อยดีและกลัวการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
แม้ว่าการเข้าควบคุมกิจการไม่เคยใช่เรื่องดีไม่ว่ากับบริษัทใดๆ ก็ตาม หากย้อนเรื่องเก่าเล่าความ Mitsubishi Motor กับ Nissan ต่างก็เป็นคู่ซี้ย่ำปึกคุ้นเคย ร่วมหัวจมท้ายมาแล้วหลายคราว รวมถึงการโกงอัตราประหยัดของ Mitsubishi Motor ล่าสุด ซึ่งนำมาสู่การตกต่ำจนถูกเข้าควบคุมกิจการครั้งนี้
ถ้อยแถลงของ นาย คาร์ลอส โกส์น CEO Renault – Nissan ที่ออกมาเปิดเผยหลังจากที่ข่าวยืนยันการซื้อดังกล่าวออกมา ระบุชัดว่า พวกเขาจะยังปล่อย Mitsubishi เดินหน้าโครงการของตัวเอง ...ต่อไป และการเข้าควบคุมนี้เป็นเพียงการสร้างชัยชนะธุรกิจร่วมกัน ...ในอนาคต
[IMAGE1]
หลายคนคงสงสัยว่า ... Mitsubishi Motor จะเป็นอย่างไรต่อไป... หากวิเคราะห์จากข้อมูลที่ Mitsubishi ดำเนินงานมาโดยตลอด .. ก่อนจะถูกเปลี่ยนมือ ...เชื่อได้เลยว่า โครงการที่จะกลับมาเป็นโครงการแรก และสาวกตั้งตาภาวนาจิตให้เกิดขึ้นโดยไว ..คงไม่พ้น การพัฒนารถเก๋งคอมแพ็คคาร์ Mitsubishi Lancer รุ่นใหม่ ซึ่งกระแสข่าวล่าสุดเปิดเผยว่า ตัวรถมีการออกแบบเสร็จสิ้นแล้ว แต่รอคู่หูทางธุรกิจเข้ามาร่วมพัฒนาหลังจาก Nissan สะบัดมือทำให้อยากแล้วจากไป
การสร้างแพลทฟอร์มใหม่หมดในปัจจุบันมีต้นทุนพัฒนาวิจัยค่อนข้างแพง แต่การเข้ามาของ Nissan จะช่วยลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้พอสมควร ส่วนหนึ่งรถยนต์ Mitsubishi ในปัจจุบัน อาศัยมรดก GS Platform ที่ทาง Daimler Chrysler ทิ้งไว้ให้ตอนปี 2005 มาพัฒนารถยนต์ของพวกเขาต่อเนื่อง ทั้ง Mitsubishi Lancer , Mitsubishi ASX ที่ขายดิบขายดี ไปจนถึง Mitsubishi Outlander ซึ่งทุกวันนี้คู่แข่งมีแพลทฟอร์มใหม่ๆ และไปไกลแล้ว
เป็นไปได้สูงที่ทีมวิศวกรของ Mitsubishi จะมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลแพลทฟอร์มใหม่ล่าสุดของ Nissan CMF Platform ที่พัฒนาร่วมกันระหว่าง Nissan-Renault เปรียบเหมือนขุมทองที่ Mitsubishi ต้องการอย่างมาก เพื่อสร้าง Mitsubishi Lancer ใหม่ ให้สำเร็จจนสามารถออกมาวางจำหน่ายได้ หลังปล่อยให้สาวกรอเก้อ
อีกทั้งด้วยการมีรถยนต์นั่งเก๋งคอมแพคคาร์ของตัวเอง อาจจะทำให้เจ้าตำนาน Mitsubishi Evolution ได้กลับมาเป็นตัวของตัวเองดั้งเดิม ในฐานะซีดานคอมแพ็คคาร์ขาแรง ..ไม่ต้องไปผนวกบนรถอเนกประสงค์ แบบที่ทาง Mitsubishi วาดแผนเอาไว้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
นอกจากการพัฒนารถยนต์ Mitsubishi Lancer แล้ว รถซีดานกลาง Mitsubishi Galant ก็มีโอกาสที่จะกลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งในบางประเทศที่ยังมีวางจำหน่าย ตลอดจนเรือธง Mitsubishi ASX ใหม่ ก็จะมีโอกาสลืมตาอ้าปากและยังมีรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ขนาดเล็ก รุ่นใหม่ดั้งเดิมที่บริษัทตั้งใจจะผลิตจำหน่าย และจะหิ้วมาขายในไทยปีหน้า
[IMAGE2]
ทางด้านรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ที่เราคุ้นหน้าตา Mitsubishi Mirage และเพื่อนร่วมรุ่น Mitsubishi Attrage ก็มีแนวโน้มจะได้ไปต่อ แม้ที่ผ่านมาา Nissan อาจจะรู้สึกว่าที่ผ่านมา Mitsubishi กลายเป็นหอกข้างแคร่ มาโดยตลอด แต่แนวทางของการสร้างสรรค์รถยนต์กลับแตกต่างกัน จนถึงขนาดตอนพัฒนากระบะทีมวิศวกรเกิดไม่เข้าวงแตกตอนพัฒนาในช่วงท้าย แม้จะเป็นลูกค้ากลุ่มเดียวกันก็ตามที ... หรืออาจจะกล่าวได้ว่า Mitsubishi จะสมปรารถนาเรื่องรถนั่ง ...เสียที หลังจากรอมายาวนาน
ทางฝั่ง Nissan แม้ว่าดูจะเสียมากกว่าได้ แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา Mitsubishi Motor ไม่เป็นสองรองใครในบ้างเรื่องเช่นกัน ประการแรก พวกเขาถือเป็นเจ้าตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่ง Nissan เองก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน ในรถยนต์ Nissan Leaf หากในแง่ของการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอันยาวนาน Mitsubishi ดูจะมีภาษีมากกว่าอย่างชัดเจน ตลอดจนเรื่องรถยนต์ไฮบริดเสียบปลั้กพวกเขาก็ทำได้ไม่เลว และมียอดขายในกลุ่มรถอเนกประสงค์พอสมควรเช่นกัน จากรถยนต์ Mitsubishi Outlander PHEV
นอกจากระบบไฮบริดเสียบปลั้กแล้ว ถึงกระแสจะเงียบงัน แต่ไม้เด็ดของ Mitsubishi Triton ใหม่ที่เป็นกระแสมายาวนานอย่างเวอร์ชั่นไฮบริดที่หลายคนลืมนึกไป ก็น่าจะทำให้ Nissan สนใจไม่น้อย ...ที่พวกเขาจะเอาทีเด็ดความรู้เหล่านี้ไปปรับใช้แบรนด์ตัวเอง เอาองค์ความรู้ไปใช้ใน Nissan Navara ก็มีความเป็นไปได้สูง และ Nissan ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายเลย
หากแต่ท้ายสุดทีเด็ดสำคัญอยู่ที่ ระบบขับขี่อัตโนมัติของ Mitsubishi เป็นอีกเทคโนโลยีที่น่าสนใจ Mitsubishi อาจจะล่าช้าในเรื่องดังกล่าว แต่พวกเขาก็สนใจและประกาศก่อนที่จะมีเหตุการณ์เรื่องอัตราประหยัดว่า พวกเขาเตรียมนำเทคโนโลยีทางทหารจากบริษัทแม่มาพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของพวกเขา แม้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่าน Nissan จะพัฒนาระบบดังกล่าว และสัมฤทธิ์ผลอย่างดี แต่เทคโนโลยีทางทหารนั้นก้าวล้ำกว่ามาก พวกมันคำนวณได้ละเอียดแม่นยำมากกว่า และจะเป็นประโยชน์อย่างมากให้ระบบนำทางขีปนาวุธสามารถให้ลูกค้าใช้รถขับอัตโนมัติอย่างปลอดภัย ควบคู่กับการลดต้นทุนการวิจัยและพัฒนา ... ระบบดังกล่าว ..ซึ่งตามข่าวระบุว่าแค่เพียงประกอบและเสียเวลาพัฒนาโปรแกรมการทำงานก็พร้อมใช้ได้ทันที
การควบคุมกิจการอาจจะฟังเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร หากการเข้าถือหุ้นใหญ่ 34% ของ Nissan ใน Mitsubishi Motor ครั้งนี้กลับมีแนวโน้มที่จะทำให้ทั้งสองบริษัทมีชัยชนะทางธุรกิจร่วมกัน ... ทั้งคู่ต่างมีแนวทางที่เหมือนกัน .. และมีเอกลักษณ์และความมุ่งมั่นในการทำรถที่คล้ายกัน ขาดเพียงแรงสนับสนุน... ซึ่งจะว่าไป มันก็ไม่ต่างจากเพื่อนช่วยเพื่อน ... ในรูปแบบการดำเนินธุรกิจ
เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง Fan page ,Twiter (@Nattayosc), Blog ส่วนตัว
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com