สุดทางยุคเครื่องยนต์สันดาบภายใน.....เรื่องจริงที่โลกอาจต้องยอมรับ

  • โดย : Autodeft
  • 29 ก.ย. 58 00:00
  • 7,629 อ่าน

ตามติดข้อเท็จจริงก่อนใคร เมื่อนักวิเคราะห์ชี้กลียุครถเครื่องยนต์สันดาบภายในกำลังจะมาถึงไว้กว่าที่เราคาดคิดเสียอีก

 

 

เรียบเรียงเรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

 

กลายเป็นมหากาพย์ฉาววงการยานยนต์อีกครั้ง หลังจากที่ทาง   EPA   ออกประกาศให้ชาวโลกรับรู้การโกงการปล่อยค่ามลภาวะไอเสียของรถยนต์ค่าย   Volkswagen  จนเป็นเรื่องอื้อฉาวกระฉ่อนโลก และทำให้หลายคนเริ่มตระหนักในเรื่องการวิศวกรรมของรถยนต์ยุคปัจจุบัน ที่อาจจะไม่ได้ดีขึ้นอย่างที่เราคาดคิด

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาศึกทางวิศวกรรม ระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลกับเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำใหม่ๆ อย่างรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นที่กล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่มีความพยายามในการพิสูจน์สมรรถนะกันมานักต่อนัก จนดูเหมือนดีเซลจะครองใจใครหลายคนไปอย่างรวดเร็ว ด้วยสมรรถนะในการขับขี่และความประหยัดน้ำมัน แต่เรื่องนี้อาจจะกำลังกลับตาลปัตรอีกครั้ง

Tesla   ในฐานะค่ายรถยนต์พลังไฟฟ้า ที่มีการผลิตวางจำหน่ายจริง และมีชื่อเสียงอย่างมากในระดับโลก ได้ชี้ถึงจุดสูงสุดของเครื่องยนต์ธรรมดาทั่วไป ที่หลายคนยังเชื่อว่ามันน่าจะยังสามารถพัฒนาต่อยอดลมหายใจได้อีกหน่อย อย่างน้อยจนกว่าจะสิ้นทศวรรษนี้

นาย อีลอน มัสค์ ในฐาน  CEO   ของ   Tesla Motor   ได้กล่าวเปิดเผยกับ   Top gear   เมื่อไม่นานมานี้ โดยแสดงทัศนคติต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า สิ่งที่   Volkswagen  ได้ทำให้เราเห็นจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่าที่จริงแล้ว เรามาถึงยุคที่เครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินมาถึงจุดสูงสุดในการตอบสนองการใช้งาน  มันถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะต้องมองไปยังเทคโนโลยีใหม่ยุคต่อไป

ทางด้านค่ายรถยนต์ชั้นนำหลายรายทั่วโลก ต่างมีความพยายามอย่างยิ่งในการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากขึ้น กว่าปัจจุบัน อย่างเช่น  Toyota  และ   Honda  มีความพยายามในการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน ซึ่งมีแผนกำลังเตรียมวางจำหน่ายในอนาคตอันใกล้

ในขณะที่ค่ายรถยนต์จากเมืองฮิโรชิม่า อย่างมาสด้าเอง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะท้าทายความเชื่อด้วย การแนะนำเทคโนโลยี   Mazda Sky Activ  เข้าสู่ตลาดและได้รับการกล่าวขวัญถึงอย่างมากในฐานะเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพเครื่องยนต์สันดาบภายในให้มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด แต่ท้ายที่สุดหลังจากปิดตัวออกมาได้ไม่นาน ทางมาสด้าก็มีความพยายามในการร่วมมือกับหลายค่ายรถยนต์ โดยการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีกับ โตโยต้า เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีก้าวหน้าใหม่ๆ เพื่อเตรียมใช้ในรถยนต์ของบริษัทรุ่นต่อไป

แม้ว่าจะฟังน่าเหลือเชื่อ แต่เมื่อปีกลายมีการกล่าวถึงแนวโน้มที่รถยนต์ประเภทเครื่องยนต์สันดาปภายใน จะกลายเป็นของโบราณไปในปี   2016 โดยนักวิเคราะห์อนาคต Lars Thomsen  กล่าวเปิดเผยในระหว่างการประชุม Engine and Environmental  ที่ออสเตรีย เมื่อปีกลาย ว่า

ในปี 2016   จะเป็นปีของการเปลี่ยนถ่ายระหว่างรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และรถยนต์ที่ยังใช้เครื่องยนต์ธรรมดาทั่วไป โดยเขาเชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้วลูกค้าจะตระหนักถึงข้อดีของรถไฟฟ้าและทำให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเติบโตในหลายตลาดอย่างรวดเร็ว

สืบเนื่องมาจากราคาที่เริ่มถูกลงของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทั้งจากค่ายผู้ชั้นนำทั้งหลายที่ต่างพยายามเพิ่มระยะทาง และทำให้ราคาตัวรถสามารถจับต้องได้มากขึ้น รวมถึง แบตเตอร์รี่ก็มีการพัฒนาระยะทางให้วิ่งได้ไกลขึ้น ตลอดจนหลายประเทศที่มีการสนับสนุนให้ประชาชนใช้รถไฟฟ้า ก็มีการพยายามสร้างโครงข่ายระบบชาร์จเร็วเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ตรงตามความต้องการในการใช้งาน

โดยเขายังกล่าวต่อไปอีกว่า  ในปี   2016 ความต้องการของรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในธรรมดา จะหดตัวลงอย่างรวดเร็ว และในปี 2018  รถยนต์ไฮบริดจะหดตัวตามอย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งหมดก็มาจากการกำหนดค่าต่างๆจากทางภาครัฐบาลที่ต้องการให้มีไอเสียน้อยลง และมีความประหยัดในการขับขี่มากขึ้น ...

 

ถึงเราจะจินตนาการยังไม่ออกว่าท้ายที่สุดแล้วรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะหายไปจากตลาดในยุคของเราๆท่านๆ จริงหรือไม่มากน้อยเพียงใด .....แต่ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าตลอด 2-3  ปี  ที่ผ่านมา กระแสรถยนต์ไฟฟ้าจะห่างหายไปบ้าง แต่เมื่อมีข้อกังขาเทคโนโลยีที่เราเชื่อว่ามันดีที่สุดแล้ว ..อาจถึงเวลาที่เราจะต้องพร้อมต้อนรับเทคโนโลยีใหม่ยุคต่อไป....

 

เรียบเรียงเรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

ที่มา houseforsight.org, Topgear  

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

5 เรื่องน่าสนใจ