BYD Auto …. Tesla แห่งโลกตะวันออก
- โดย : Autodeft
- 14 ก.ย. 59 00:00
- 11,100 อ่าน
ถ้าชื่นชอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เราหลายคนดูจะตื่นเต้นอย่างมากกับแบรนด์รถยนต์ที่ใช้ชื่อว่า “Tesla” ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รถยนต์บริษัทนี้กำลังเขยิบเข้าใกล้ความจริงในการปั้นรถไฟฟ้าให้เป็นที่สนใจมากขึ้นกับคนในสังคมทั่วโลก ทว่าในขณะที่เราดูจะตื่นเต้นของจากฝรั่งมั่งค่า ค่ายรถยนต์รายหนึ่งที่มาเงียบกินเรียบในกลุ่มเดียวกันกลับเป็นมังกรร้ายที่เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอ เราจะได้รู้จักมันอย่างแน่นอน เมื่อรถยนต์ไฟฟ
ถ้า Tesla คือหยิน ค่ายรถยนต์จากจีนที่ชื่อว่า BYD ย่อมเป็นหยาง บริษัมรถยนต์จากจีนที่เราเชื่อว่าน่าจะเคยผ่านหน้าตามาแล้วบ้างหรืออย่างน้อยคุณคงจะเคยได้ยืนบ้างว่ามีบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศ เตรียมนำรถยนต์บริษัทนี้เข้ามาจำหน่าย และอย่าแปลกใจถ้าคุณเคยเห็นรถยนต์ยี่ห้อนี้ขับในไทยโดยการไฟฟ้านครหลวง เพื่อทดสอบระบบจุดชาร์จไฟ สำหรับรถไฟฟ้า
BYD Auto ถือเป็นหน้าตาสำคัญ บริษัทรถยนต์จากตะวันออก ว่ามีวิวัฒนาการไม่น้อยหน้าใครเช่น โดยบริษัทรถยนต์ BYD Auto นี้ ก่อตั้งเมื่อปี 2003 หลังกลุ่มธุรกิจ BYD คว้าบริษัทรถยนต์ที่ชื่อ Sinchuan Automobile เข้ามาอยู่ในกลุ่มบริษัท และด้วยการซื้อดังกล่าว พวกเขายังได้ใบอนุญาตในการผลิตรถยนตืนั่งมาด้วย นับเป็นความสำเร็จของการทำธุรกิจ
ในช่วงแรก BYD ยังคงทำธุรกิจทางด้านรถยนต์ปกติ โดยจำหน่ายรถยนต์ที่ชื่อว่า BYD Flyer เป็นรถที่ได้พื้นฐานจาก Suzuki ก็เรียกว่าพอขายได้ประทังชีวิตบริษัทไปเรื่อย
จนกระทั่งในปี 2008 ในตอนนั้นขณะที่ยังไม่มีใครนึกถึงระบบขับเคลื่อนนรถยนต์ด้วยพลังงานไฟฟ้า รัฐบาลจีนสนใจในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก และประกาศสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยให้เงินสนับสนุนบรรดาบริษัทรถยนต์ เพื่อผลิตรถยนต์รถยนต์ไฟฟ้า ออกมาวางจำหน่าย และ BYD Auto ก็กระโดดเข้าร่วมวงทันที่อย่างไม่รีรอ และพวกเขาเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในชื่อ BYD F3DM ออกมา เพื่อวางจำหน่ายในประเทศ
BYD F3DM เรียกว่าเป็นรถที่ทำให้ BYD แจ้งเกิดทันที มันคือรถไฮบริดเสียบปลั้ก ที่เปิดตัววางจำหน่ายแก่บุคคลทั่วไป สร้างความตื่นเต้นอย่างมากให้วงการอุตสาหกรรมรถยนต์ จนถึงขนาดเศรษฐีสหรัฐ Warren Buffet กระโจนเข้าซื้อหุ้นบริษัทแม่ BYD ด้วยมูลค่าถึง 230 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ถือหุ้น 10 % และในปี 2009 BYD ก็ดูจะชัดขึ้น เมื่อตลอดทั้งปีสามารถขายรถยนต์ได้กว่า 448,4000 คัน โดย 2 ใน 3 ของจำนวนรถยนต์ที่ขายมาจาก รถยนต์ BYD F3 คอมแพ็คคาร์จากร่าง Toyota Corolla รวมถึงเวอร์ชั่นไฮบริดเสียบปลั้กด้วย
ด้วยชื่อเสียงดังกล่าว BYD เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น และในปี 2013 รถยนต์ BYD Qin เป็นตัวชูโรงที่หอบหิ้วเข้ามาทำความรู้จักคนมากขึ้น มันเปิดตัวในเดือนธันวาคมปี 2013 และ เป็นรถยนต์เสียบปลั้กไฮบริด ขายดีในปี 2014 และขายดีติดอันที่ 7 ของ 10 อันดับรถ ไฮบริดเสียบปลั้กที่มียอดขายสูงสุด จากการจัดอันดับโดย Hybridcars.com และในปี 2015 มีชัยเหนือรถยนต์ BMW i3 และตามจี้ตูด Mitsubishi Outlander PHEV จนทั่วโลกยังต้องจับตา
Denza รถที่ร่วมกับพัฒนากับ Daimler
นอกจากความสำเร็จอย่างมากในตลอดเวลาทีททำรถยนต์ออกมาวางขายแล้ว การจับมือกับกลุ่มบริษัท Daimler ก็ทำให้รถยนต์รายนี้สนใจมากยิ่งขึ้น สองบริษัทร่วมมือในการพัฒนารถยนต์ยี่ห้อชื่อ Denza มันคือ รถไฟฟ้าที่วางจำหน่ายเฉาพะในประเทศจีน การการผสมผสานวิศวกรรมของทั้ง 2 บริษัทเข้าด้วยกัน โดยใช้รถยนต์ Mercedes Benz B class
และล่าสุด บริษัท ซัมซุง อิเล็กทริก เพิ่งจะลงทุนในบริษัทนี้อีกกว่า 450 ล้านดอลล่าร์ ทำให้ BYD ถูกจับตามองถึง ก้าวต่อไป
ปัจจุบัน BYD มีรถยนต์วางจำหน่ายหลายรุ่น ทั้งรถไฮบริดเสียบปลั้ก และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงยังมีรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในด้วย หากชื่อเสียงของเขาด้านรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์พลังงานไฟฟ้า กลับเป็นสิ่งที่ทำให้นักธุรกิจบางคน เรียกว่า “Tesla แห่งแดนมังกร”
เรื่อง โดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook หรือ ทาง Fan page ,Twiter (@Nattayosc), Blog ส่วนตัว
อ้างอิง
BYD-F3 จาก Wikipedia
BYD Auto จาก Wikipedia
Top selling Pkugin Hybrid car-2015 จาก Hybridcars.com
Daimler-BYD Joint Venture จาก Chinaautoweb
ติดตามเรื่องราว ข่าวสาร และความรู้ รถยนต์ได้กับพวกเรา ได้ที่ www.Autodeft.com
หรือผ่านทาง Fanpage Facebook กดไลค์และ Follow ได้ที่ www.facebook.com/autodeft
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com