Deft Scoop : ชาวมะกันกังขา อัตราประหยัด EPA 8 ใน 10 เผย ทำอัตราประหยัดสูงกว่าที่เคลม

  • โดย : Autodeft
  • 19 มิ.ย. 58 00:00
  • 4,270 อ่าน

ชาวมะกันงงตัวเลขอัตราประหยัด EPA หลังขับจริงทำได้สูงกว่า รายงานชี้ปัจจัยบวกความประหยัดจากการขับขี ่และสภาพการจราจรที่ไม่เหมือนกัน

 

 

ทุกันนี้รถยนต์ที่เราขับหลายคนต่างมองในเรื่องของความประหยัดในการเดินทาง มากพอๆกับการตอบโจทย์ในการขับขี่ ทางด้านสมรรถนะ แต่จะมีสักกี่คนที่มองว่า โจทย์ของการเดินทางที่เราว่าประหยัดที่หลายคนโฆษณาผ่านตัวเลขที่บ้างก็โคตรเหลือเชื่อมันสามารถทำได้จริงหรือไม่

EPA   หรือ  Environment  Protection  Agency  เป็นหน่วยงานทางด้านสิ่งแวดล้อมชั้นนำระดับโลกที่พยายามบอกถึงอัตราประหยัดน้ำมันที่มีในรถยนต์ที่วางจำหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดอเมริกา และมันถูกนำเสนอเป็นมาตรฐานที่สามารถอ้างอิงได้ทั่วโลกในรถยนต์หลายรุ่น ซึ่งล่าสุดจากผลการวิจัยของ  AAA กล่าวเปิดเผยว่า นักขับชาวอเมริกากว่า  8  ใน 10  สามารถทำอัตราประหยัดได้มากกว่าที่ EPA   กล่าวอ้างในอัตราประหยัดของพวกเขา

รายงานวิจัยล่าสุดจาก AAA  ชี้ว่า  อเมริกันชนกว่า 1  ใน  3  เริ่มสงสัยวีการวิเคราะห์อัตราประหยัดของ   EPA   รวมถึงการทดสอบภายในของพวกเขา

โดยทาง AAA  ในฐานะผู้ทำการวิจัยในเรื่องดังกล่าวชี้ว่า มีความเป็นไปได้สูที่การทดสอบของ  EPA   อาจจะมีความแตกต่างการขับประหยัดในแง่ของความเป็นจริง จึงเป็นผลที่ทำให้เกิดความแตกต่าง ซึ่งจากรายงานของ  EPA  นั้นไม่ใช่เพียงแต่ผู้ขับขี่ตามการสำรวจกล่าวว่าเขาทำอัตราประหยัดได้สูงสุด แต่พวกเขายังทำได้ดีกว่า ในแง่ของอัตราประหยัดเฉลี่ยรวม

ซึ่งมีสี่งที่น่าสนใจในรายงานชิ้นนี้อยู่ 2-3  ประการ เริ่มจาก  ผู้ใช้รถเกียร์ธรรมดา ระบุว่า พวกเขาทำอัตราประหยัดสูงกว่าที่ EPA  กล่าวอ้างถึง  17 %  เช่นเดียวกับผู้ใช้รถยนต์ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล ระบุว่า พวกเขาสามารถทำอัตราประหยัดรวมดีกว่าที่ EPA  อ้างถึง  20 %  

ในขณะที่ผู้ใช้รถยนต์เครื่องยนต์แบบ  4  สูบเทอร์โบชาร์จ กล่าว่าท้ายที่สุดพวกเขาทำอัตราประหยัดต่ำกว่าที่ EPA  อ้างถึง 4% แต่ในทางกลับกันกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่มาพร้อมเครื่องยนต์   V6   กลับกล่าวอ้างว่า พวกเขาสิ้นเปลืองมากกว่าที่ EPA  ระบุถึง   9%

ทั้งนี้ภายหลังจากการวิจัย ทาง AAA ได้ทำการทดลองคำนวณอัตราประหยัดแบบ  EPA  ทั้งบนไดนาโมมิเตอร์ และผ่านการขับขี่บนถนนจริง ซึ่งทาง AAA  กล่าวสรุปว่า การทำอัตราประหยัดที่มากกว่านั้นเกิดจากหลายปัจจัยที่สำคัญ ไม่ว่าจะ สภาพการขับขี่ สภาพรถยนต์ รวมถึงวิธีการขับขี่ของผู้ขับ ซึ่งทำให้ผระสบการณ์ของผู้ใช้งานจริงกับ  EPA   แตกต่างกัน

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com

 

5 เรื่องน่าสนใจ