6 สิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ Fast & Furious
- โดย : Autodeft
- 3 เม.ย. 58 00:00
- 27,530 อ่าน
พบ 6 สิ่งที่คุณอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนเกี่ยวกับภาพยนต์ Fast & Furious วันนี้เราจะพาไปล้วงลึกเบื้อหลังภาพยนต์ความเร็วแห่งยุค
เข้าฉายกันอย่างเป็นทางการแล้วกับภาพยนตร์ความแรงขาเร็วล่าสุด Fast & Furious ภาคที่ 7 ภาคที่หลายคนคาดว่าอาจจะเป็นภาคสุดท้ายในซีรี่ย์นี้ หลังนักแสดงในตัวละครเอก Paul walker เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทว่าเราหลายคนอาจจะคิดว่าพวกเราต่างเป็นแฟนตัวยงมากมายของภาพยนตร์ซีรี่ย์ดังกล่าว และวันนี้ จะมาท้าทายว่าคุณแน่ใจว่า คุณเป็นแฟนตัวยงของ Fast & Furious จริงหรือไม่
รถพระเอกคันแรก... Mitsubishi Eclipse
คูณรู้ไหมว่า รถตัวเอกคันแรกของตัวละครสำคัญอย่าง ไบรอัน โอคอนเนอร์คือรถอะไร หลายคนเคยเห็นแต่ไม่รู้จัก แต่นั่นคือที่สุดแห่งรถยนต์สปอร์ตคูเป้จากมิตซูบิชิ กับ Mitsubishi Eclipse รถสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู ซึ่งไบรอันเอามาซิ่งแต่แพ้ทอเร็ตโต้ในการแข่งครั้งแรก แต่มันก็ช่วยให้เขาบรรลุภารกิจในการแฝงเข้าไปอยู่ในครอบครัวของดอมได้ตามที่ต้องการ
Fast & Furious ...มีหนังสั้นด้วยนะ
น้อยคนนักจะทราบว่า Fast & Furious นั้นเคยออกภาพยนตร์ในรูปแบบหนังสั้นมาด้วย ก่อนที่จะเปิดตัวภาคต่อไปของซีรี่ย์ในภาค โดยภาพยนตร์ดังกล่าวได้ฉายผ่านทาง youtube รวมถึงมีในดีวีดีของ Fast&Furious ภาคแรก โดยใช้ชื่อว่า Turbo Charged Prelude เรื่องเล่าถึงเหตุการณ์ของไบรอันในภาคแก ว่าเขาถูกตามล่าจากตำรวจ และต้องหลบหนีการจับกุม โดยอาศัยการซิ่งบนถนนด้วย mitsubishi 3000 GTO เพื่ออยู่รอด ก่อนที่รถจะถูกตรวจยึด และนั่นทำให้เขาต้องซื้อรถยนต์ Nissan skyline ใหม่ ซึ่งเป็นตัวเอกในภาคที่ 2
ในทำนองเดียวกันในปี 2009 ก่อนที่ภาคที่ 4 จะฉายทางผู้สร้างได้เผยภาพยนตร์สั้นชื่อเรื่องว่า Los Bandoleros ในเรื่องก็กล่าวถึงการมาพบกันของลูกทีมของดอม ก่อนภาคที่ 4 ซึ่งกล่าวถึงก่อนที่จะมีการปล้นรถบรรทุกน้ำมันในสาธารณรัฐโดมินิกัน ซึ่งดอมได้พบกับนักการเมืองท้องถิ่นช่วยชี้เป้าในการปล้นรถขนน้ำมัน หลังจากที่เขาหนีเล๊ตตี้มาจากแม็กซิโก แต่ท้ายสุดแล้วเลตตี้ก็หาเขาพบ และเริ่มความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ภาคที่ 3 เป็นภาคที่แหวกแนวที่สุด
ในปี 2006 หลังจากที่ Fast&Furious ฉายมาได้สองภาค ทางผู้สร้างเกรงว่าผู้ชมคงจะเบื่อเรื่องของไบรอันและดอม เลยจัดทำ Fast&Furious Tokyo Drift และน่าจะกล่าวได้ว่าเป็นภาคเดียวที่แทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับลูกทีมของดอม เลย (ถ้ายังไม่ได้ดูภาค 4)
เรื่องกล่าวถึงวัยรุ่นเลือกร้อน ชอร์น บอสเวล ที่คลั่งไคล้รถยนต์และทำให้เขามีปัญหากับผู้พิทักษ์สันติราษฏร์เนืองๆ จนท้ายสุดการแข่งรถก็ทำให้เขาต้องระเห็จมาอยู่กับพ่อที่ญี่ปุ่น แต่ที่นี่เป็นเมืองสวรรค์แห่งรถยนต์ เขาได้รู้จักกับฮานด้วยความบังเอิญ และเรียนรู้การ Drift จากการฝึกฝนของฮาน
มีจำนวนภาคเยอะเท่า Starwar
จะว่าไป Fast&Furious เป็นภาพยนตร์ที่ถือว่ามีภาคต่อเยอะมากที่สุดในซี่รี่ย์หนังดังจากฮอลลี่วู๊ดเลยก็ว่าได้ โดยเมื่อรวมภาคล่าสุด ภาพยนตร์ในชุดนี้มีจำนวนภาคเท่ากับภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Starwar พอดิบพอดี และเชื่อเลยว่ามันจะกลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ตำนานที่หลายคนจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน
Fast &Furious เปลี่ยนผู้กำกับมาแล้วถึง 4 คน
ซี่รี่ย์ที่ยาวนานความสำเร็จของ Fast&Furious นั้นเกิดขึ้นภายใต้การกำกับดูแลการถ่ายทำโดยมีผู้กำกับถึงสี่คนที่ผ่านมากำกับภาพยนต์เรื่องนี้ ผู้ที่ให้กำเนิดภาพยนตร์ Fast&Furious นั้นคือ Rob Cohen ซึ่ง เขามีผลงานภาพยนตร์มากมายที่เรารู้จักเป็นอย่างดี อย่างภาพยนตร์เรื่อง DayLight ,Triple X (XXX) หรือจะภาพยนตร์สุดมันส์อย่าง Stealth แต่เขาก็ไม่ได้ถูกวางให้กำกับต่อในภาคที่ 2 แต่ทาง Hollywood ยกให้เป็นหน้าที่ของ John singleton และก็กำกับภาคเดียวเท่านั้น
Justin Lin ในกองถ่าย Fast6
คนที่เป็นผู้กำกับ Fast&Furious นานที่สุดเห็นทีจะเป็น Justin Lin ลูกครึ่งอเมริกัน-ไต้หวันที่ทำให้เราติดใจกันทั่วโลก ทันทีที่ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเขาเริ่มกำกับ Fast&Furious ตั้งแต่ปี 2003 หรือเริ่มงานในภาคที่ 3 และต่อเนื่องยิงยาวมาจนถึงภาคที่ 6 โดยตอนนี้ใครที่อยากชมผลงานของผู้กำกับคนนี้สามารถชมได้ทาง Fox เพราะเขาหันมากำกับ ทีวีซีรี่ย์สุดฮา Community และในระหว่างที่เราชมภาพยนตร์สุดซิ่งเขาก็กำลังทำงานใน Startrek 3 ที่มีกำหนดการฉายในปีหน้า
ส่วนคนสุดท้ายที่มากำกับใน Fast7 ภาคล่าสุดนั้นคือ James Wan เขาเป็นผู้กำหับนุ่มไฟแรงที่ฝากผลงานไว้ในภาพยนต์ทีเราหลายคนเคยผ่านตาอย่าง Incidious ทั้งสองภาค น่าแปลกที่เขาได้นั่งแท่นใน Fast 7 ทั้งที่เป็นคนที่ขึ้นชื่อเรื่องการสร้างหนังผีเขย่าขวัญ แต่ต้องยอมรับว่าเมื่อชมภาพยนตร์แล้วเขาทำได้ดี
Racer X ต้นกำเนิดแท้จริงของ Fast &Furious
คุณรู้หรือไม่ว่าในครั้งแรกที่ Rob Cohen ตัดสินใจสร้างชื่อภาพยนตร์ Fasr&Furious ขึ้นมาเข้าได้ไอเดียมาจากไหน เรื่องนี้ถูกตอบออกมาในปี 2002 โดยในช่วงเดือนพฤษภาคมปี 1998 มีบทความของ Ken Li ที่ใช้ชื่อว่า Racer X เรื่องราวพูดถึง ราฟาเอล เอสเตเวส ซึ่งเขาใช้ชีวิตอยู่ในโลกความเร็วใต้ดิน ในการขับรถซิ่งเพื่อแข่ง Drag ตามถนน โดยที่ทำให้บทความดังกล่าวเป็นที่นิยมนั้น ก็มาจากการให้รายละเอียดเรื่องของวิธีการปรับแต่งรถไปจนถึงปฏิบัติการซิ่งและวิธีการต่างๆในการแข่งรถใต้กิน นั่นทำให้ Rob สนใจ และบูมกลายมาเป็นพลอทเรื่องของ Fast & Furious ในภาคแรกนั่นเอง
เอาล่ะ...คิดว่าคงพอสมควรแล้วกับการเจาะลึก Fast& Furious ภาพยนตร์ที่ขาซิ่งทั่วโลกรู้จักกันดี แม้ว่าการจากไปของ Paul Walker จะทำให้เราอาจจะได้ดูภาคที่ 7 ของซีรี่ย์นี้เป็นภาคสุดท้าย แต่ใครจะรู้บางทีพวกเขาอาจจะสร้างต่ออีกก็ได้ ..
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง (Bonn)
ติดตามผู้สื่อข่าวและนักทดสอบรถยนต์ นาย ณัฐยศ ชูบรรจง ได้ที่ Facebook ,Twiter (@nattayodc)
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com