PTT Hyforce ดีกว่าที่คิด ถ้าพร้อมจ่ายเพิ่ม

ปตท. เปิดตัวน้ำมันดีเซลพรีเมี่ยมใหม่ PTT Hyforce สมรรถนะที่คุ้มค่าในราคาที่น่าจ่ายสำหรับคนใช้ดีเซลหรู

                        หากพูดถึงรถยนต์ยุคใหม่ๆแล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คงต้องยอมรับในแง่หนึ่งว่า เครื่องยนต์ดีเซลเข้ามามีบทบาทไม่ใช่เพียงแค่เครื่องยนต์สำหรับรถยนต์กระบะอีกต่อไป บ่อยครั้งที่เราพบว่ารถหรูชั้นนำ หลายรุ่นเข้ามาช่องน้ำมันดีเซล เพื่อเติมน้ำมันที่ทั่วโลก เริ่มยอมรับในเรื่องความประหยัดและการรักษาสิ่งแวดล้อม ไปพร้อมกับสมรรถนะในการขับขี่ที่ไมได้จางหายไป

                ตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา ปตท. ในฐานผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญต่อน้ำมันดีเซล ทางบริษัทมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ในปี 2008  มีการพัฒนาเนื้อน้ำมันให้ตอบสนองได้มากขึ้นในแง่ของพลังงานทางเลือก PTT B5 Plus  ก่อนที่สองปีให้หลังจะเปลี่ยนเป็น Blue diesel  และเมื่อปีกลายก็พัฒนาอีกครั้งให้ผ่านมาตรฐานยูโร 4  แต่ครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทคนไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก

                PTT Hyforce  เป็นน้ำมันดีเซลสูตรสังเคราะห์เกรดพรีเมียม  (Synthetic Diesel) ใช้เทคโนโลยีการผลิตเดียวกับการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานสังเคราะห์ ด้วยกระบวนการ Hydro-Treat ที่ใช้ในการผลิตน้ำมันเครื่องบิน (Bio Jet) โดยการเติมไฮโดรเจนเข้าไปในโมเลกุลของไฮโดรคาร์บอนจนได้เป็นน้ำมันดีเซลโมเลกุลเดี่ยว ทำให้ PTT HyForce สามารถจุดระเบิดได้เร็วยิ่งขึ้น ช่วยให้เครื่องยนต์เผาไหม้ได้หมดจดยิ่งกว่า

ทั้งยังเพิ่มสารเติมแต่งคุณภาพสูง Hy-Booster ที่ให้กำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์ได้ถึงขีดสุด ตั้งแต่ออกตัว แรงไม่มีตกจนถึงแรงปลาย เพื่อรถดีเซลสมรรถนะสูงโดยเฉพาะ ที่สำคัญเมื่อออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ PTT Hyforce  จะเป็นน้ำมันดีเซลชนิดแรกที่ผ่านมาตรฐาน Euro  5  

ในวันนี้การเปิดตัว PTT Hy Force  ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นกับความสามารถของน้ำมันใหม่จาก  ปตท ซึ่งทางบริษัทก็มั่นใจมากในผลิตภัณฑ์ ทีได้ซุ่มอุส่าผลิตมานานแรมปี  โดยในการทดสอบ ก็ไม่ได้ยากมากมายนัก ให้เราขับขี่รถยนต์สองคัน และหนึ่งในสองคันจะเป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซล  PTT Hyforce

ที่จริงการทดสอบ เป็นรถยนต์หรูหลายรุ่น แต่พอถึงคิวเราก็มาจับเอาได้กับ  BMW Series 5  ซีดานกลางดีเซลยอดนิยมในตลาดรถนั่ง ในรุ่น  520d  ซึ่งใต้ฝากระโปรงมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล  4  สูบแถวเรียง ขนาด  2.0 ลิตร  ให้กำลังสูงสุด  184  แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที และให้แรงบิดสูงสุด  380 นิวตันเมตร ที่  1,750 – 2,750  รอบต่อนาที

ในการทดสอบเราตัดสินใจใช้วิธีบ้านๆเรียบง่าย คือเขาเกียร์  D  เหยียบเบรกด้วยเท้าขวาแล้วสลับเป็นคันเร่งเมื่อไฟเขียว เมื่อทุกอย่างพร้อมสัญญาณไฟดับลง ใน BMW 520d  คันแรก เราเหยียบคันเร่งแทบทะลุรถให้แรงดึงที่เร้าใจก้นจมพื้นหลังติดเบาะ แต่ในช่วงรอบเร่งปลายๆจะเหมือนไม่กี่กำลังเท่าไร ทั้งที่เป็นช่วงแรงบิดสูงสุด จึงพอสรุปว่าคันแรกก็น่าจะน้ำมันดีเซลทั่วไปที่เราใช้กันอยู่ทุกวี่วัน  และเราเข้าเส้นในระยะ  300 เมตร ของการทดสอบในเวลา 14.371  วินาที

หลังจากขับคันแรกไปแล้ว เราก็กระโจนสู่ BMW 520d  อีกคัน โดยรถเหมือนกันทุกประการ ทางทีมงานบอกว่าก็แค่เติมน้ำมันไม่เหมือนกันเท่านั้น

เมื่อทุกอย่างพร้อมเราทำตามกฎเดิม ไฟเขียวเรากดคันเร่งมิดพื้น รถพุ่งออกอย่างรวดเร็วจนเกินคาดแต่แล้ว ระบบควบคุมการลื่นไถลก็ทำงาน ซึ่งหมายความว่าเครื่องยนต์ทำกำลังแรงบิดมากขึ้น จนทำให้รถมีอาการลื่นไถล จากแรงบิดที่เครื่องทำกำลังได้มากขึ้น แต่แม้จะลื่นไถลในช่วง  60  ฟุตแรก เมื่อเร่งเครื่องยนต์ต่อไป สามารถรู้สึกได้เลยว่า เครื่องยนต์เร่งได้ดีอย่างผิดหูผิดตา โดยเฉพาะการทำงานเครื่องยนต์ในรอบปลายๆ ยังให้กำลังต่อเนื่องอย่างไม่มีตก รวมถึงจะว่าไป ก็พอจะรู้สึกว่าเครื่องยนต์เสียงดังน้อยลงด้วย

            แม้จะเสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับระบบลื่นไถล แต่ ด้วยสมรรถนะของน้ำมัน PTT Hyforce ที่ทำให้เราไปได้ในรอบสูงมากยิ่งขึ้นในทุกเกียร์ ทำให้เราเข้าเส้นด้วยเวลาที่ดีกว่าคันแรกเล็กน้อย ที่ 14.329 วินาที อย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าไม่นับช่วงเสียเวลาจากระบบควบคุมการลื่นไถล น่าจะได้เวลาดีกว่านี้อย่างแน่นอน

            ความจริงจากข้อมูลจาก PTT  ระบุว่า เมื่อเติม PTT HyForce  รถยนต์คันเดียวกันสามารถเร่งดีขึ้นกว่า 0.3  วินาที และนอกจากนี้ มาตรฐานน้ำมันยูโร 5  ยังยืดอายุการใช้งานของ Diesel Particulate Filter หรือ DPF  ที่ติดตั้งในรถยนต์เครื่องดีเซลรุ่นใหม่ๆ เพื่อกรองเขม่า จากเครื่องยนต์

            สำหรับ  PTT Hyforce  ใหม่ มีกำหนด วางจำหน่ายในวันที่ 9 ตุลาคมนี้เป็นต้นไปใน สถานีทั่วประเทศกว่า 61  แห่ง  ส่วนราคาจำหน่ายจะเคาะขายที่ลิตรละ  32.99 บาท สูงกว่าน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ราวๆ  3  บาท ใครที่สนใจก็ลองมองหาโลโก้ PTT HyForce ซึ่งผมอยากแนะนำว่า สำหรับใครที่ใช้รถหรูเครื่องดีเซลขอบอกว่าเหมาะมาก และคุ้มที่จะจ่าย

 

ผู้เขียนและผู้ทดสอบ ณัฐยศ ชูบรรจง

สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและการทดสอบต่างๆได้ที่ facebook