บุกลุยพม่า กับทริปสุดมัน Nissan Intelligent Driving Experience ด้วย Terra, Navara และ X-Trail

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 8 พ.ค. 62 00:00
  • 12,055 อ่าน

พม่า หรือเมียนมาร์ในภาษาอย่างเป็นทางการปัจจุบัน เพิ่งจะเริ่มเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านของไทย ที่มีอาณาเขตติดกันยาวกว่า 2,202 กิโลเมตร กลายเป็นอีก 1 แหล่งท่องเที่ยวใหญ่ที่คนไทยเริ่มไปกันมากขึ้น ทั้งไปกราบสักการะพุทธสถานอันหลากหลาย อาทิ พระธาตุอินทร์แขวน, เจดีย์ชเวดากอง หรือจะเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่าง สะพานอูเบ็ง

Nissan Intelligent Driving Experience

ช่องทางในการเดินทางเข้าไปเที่ยวที่พม่านั้น ก็มีหลากหลาย ทั้งการเดินทางด้วยเครื่องบิน ไปลงยังเมืองต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ย่างกุ้ง อดีตเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่, เนย์ปิดอว์ เมืองหลวงในปัจจุบัน หรือจะอาศัยการขับรถ หรือนั่งรถเข้าไป ตามด่านที่มีอยู่หลายแห่ง อย่างเช่น ด่านแม่สอด จ. ตาก, ด่านแม่สาย จ. เชียงราย, ด่านพระเจดีย์สามองค์ จ. กาญจนบุรี เป็นต้น

Nissan Intelligent Driving Experience

ที่เกริ่นมานี่ อาจจะงงว่า แล้ว AUTODEFT ที่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องยานยนต์ ไปเกี่ยวอะไรกับทางประเทศพม่า สาเหตุก็เพราะว่า ทางเราได้รับเทียบเชิญมาจากทางนิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม Nissan Intelligent Driving Experience (N.I.D.E.) Go Anywhere Myanmar ที่จะขับรถนิสสันรวม 3 รุ่น ได้แก่ Nissan Terra, Navara และ X-Trail ตลุยกันจากกรุงเทพมหานคร วิ่งยาวเข้าไปที่ประเทศพม่า ก่อนที่จะพุ่งขึ้นทางเหนือไปจบทริปที่ อ.แม่สาย จ. เชียงราย ระยะทางรวมกว่า 3,000 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 11 วัน

Nissan Intelligent Driving Experience

การเดินทางครั้งนี้ สื่อมวลชนที่ได้เข้าร่วมทริป จะถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม โดยผมเองในฐานะทีมงานของ AUTODEFT ได้อยู่ในกลุ่มแรกของการเดินทางเลย เริ่มต้นตั้งแต่กรุงเทพ แล้วไปจบที่เมืองย่างกุ้ง ใช้เวลารวมกัน 3 วัน 2 คืน ระยะทางรวมกว่า 1,000 กิโลเมตร ทั้ง 3 วัน เราจะได้ขับครบทั้ง 3 รุ่น ส่วนเส้ยทางการเดินทางนั้น มีทุกรูปแบบจริง ๆ และผมเชื่อว่า การเดินทางแบบนี้ หาโอกาสเดินทางได้ยากจริง ๆ ถือเป็นทริปเส้นทางที่แปลกใหม่สำหรับผม และเชื่อว่าในประเทศไทยน่าจะมีไม่มาก ที่เดินทางในเส้นทางเดียวกับพวกเราในทริปนี้

Nissan Intelligent Driving Experience

เริ่มต้นการเดินทางในวันแรกของกรุ๊ปแรก ผมได้เริ่มต้นทริปด้วย Nissan Terra รถสไตล์ PPV น้องใหม่มาแรง ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 7 สปีด ให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า และมีแรงบิดมหาศาลที่ 450 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบความปลอดภัยมากมาย ทั้งกระจกมองหลังอัจฉริยะ หรือ Intelligent Rear View Mirror (IRVM) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นทัศนวิสัยด้านหลังขณะขับขี่ นอกจากนี้ยังติดตั้งเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง หรือ Lane Departure Warning (LDW) เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW) และเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM) ที่มาพร้อม เทคโนโลยีตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection (MOD) นอกจากนี้ยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มาพร้อมเทคโนโลยีป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD) และระบบ Electronic Rear Differential-Lock รวมถึง เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) และเทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC) ที่ช่วยให้สามารถควบคุมความเร็วของรถได้ในสภาวะการขับขี่ที่สูงชัน ดังนั้นจึงเป็นรถที่พร้อมสำหรับการเดินทางในเส้นทางที่คาดหมายไม่ได้ในครั้งนี้จริง ๆ

Nissan Intelligent Driving Experience

เพื่อนร่วมรถของเราในทริปนี้ มีอีก 2 ท่านครับ เป็นเพื่อนปัฐจาก MThai Auto และน้องเบิร์ดจาก MassAutoCar  เราเริ่มทริปกันที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ วิภาวดี ไม้แรกนั้นผมรับช่วงก่อนเลยครับ (จากการที่โอน้อยออกแล้วแพ้) โดยการเดินทางเข้าพม่านั้น เราจะใช้ด่านบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งถือว่ายังเป็นด่านใหม่ เปิดมาได้ไม่กี่ปี ช่วงอยู่ในประเทศไทยก็ยังเป็นเส้นทางการเดินทางที่สะดวกสบายอยู่ พวกเราจึงใช้ความเร็วกันหน่อย เผื่อเวลาเอาไว้ช่วงในพม่า เราจะได้ไม่ต้องเร่งการเดินทางมาก กำลังเครื่องระดับ 190 แรงม้านั้นหายห่วงครับ ถึงแม้ว่าจะไปกัน 3 คน พร้อมสัมภาระอีกมากมายที่ท้ายรถ เพราะแถวที่ 3 ถูกพับลงให้เรียบ แล้วทำการบรรจุน้ำขวดมากมายเอาไว้เพียบ แต่ไม่คณามือระดับ Terra อยู่แล้ว สามารถวิ่งเร่งเครื่องตาขบวนได้อย่างไม่เดือดร้อนรอบเครื่องแต่อย่างใด

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

ในที่สุด เราก็เดินทางมากันถึงด่านบ้านพุน้ำร้อนกันได้อย่างตรงเวลา ขั้นตอนการข้ามด่านนั้น เนื่องจากทางทีมงานของนิสสัน ได้ทำการขออนุญาตกันมาล่วงหน้าแล้ว ทำให้ขั้นตอนที่ด่านประเทศไทยนั้น ผ่านไปได้ด้วยดีแบบรวดเร็ว เมื่อผ่านด่านมาแล้ว เราก็ต้องขับรถไปอีกราว 3 กิโลเมตร เพื่อผ่านด่านของพม่ากันอีกครั้ง เส้นทางตรงนี้ก็เริ่มเป็นทางลูกรังแล้วครับ ฝุ่นแดงปลิวว่อนเต็มไปหมด แต่ก็ถือว่ายังพอจะเรียบอยู่ พอมาถึงตรงด่านพม่า จุดนี้เรียกว่าด่านบ้านทิกิ เราต้องจอดรถรอเพื่อทำเรื่องผ่านแดนเข้าไปที่ประเทศพม่า ขนาดว่ามีการดำเนินการขออนุญาตมาล่วงหน้าแล้ว เรายังต้องจอดรถรอเพื่อทำตามขั้นตอนให้เรียบร้อย นั่นคือการตรวจสอบเอกสารการเดินทางของทุกคน, เอกสารของรถ รวมทั้งต้องขูดรอยเอาเลขตัวถังด้วย และที่สำคัญ การที่จะเอารถเข้าไปวิ่งในประเทศพม่านั้น เราต้องเอาป้ายกระดาษห่อพลาสติก ทำหน้าที่เป็นทะเบียนชั่วคราว แปะเอาไว้ที่ป้ายทะเบียนทั้งด้านหน้าและด้านหลังด้วยทุกคัน ไม่อย่างนั้นเราจะไม่สามารถวิ่งรถในพม่าได้ครับ

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

ในที่สุด ขั้นตอนที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของพม่าก็ผ่านไปได้ด้วยดี ใช้เวลาในการจอดรอขั้นตอนอยู่ราว 40 นาทีได้ ต่อไปก็จะเป็นขั้นตอนเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองทวาย เมืองที่ถูกปกครองโดยชนเผ่าชาวกะเหรี่ยง ที่สมัยก่อนมีการสู้รบเพื่อแบ่งแยกดินแดนออกมาจากประเทศพม่า แต่ด้วยนโยบายใหม่ของรัฐบาลใหม่ ทำให้ตอนนี้ทั้ง 2 ฝ่ายแบ่งแยกการปกครองกันอย่างสงบ ทำให้การสู้รบในวันนี้หมดลงไปแล้ว เพราะถ้าวันนี้ยังคงรบกันอยู่ เราคงไม่มีโอกาสในการผ่านแดนเส้นทางนี้แน่นอนครับ

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

เส้นทางจากบ้านทิกิ ไปสู่จุดหมายแรกคือที่พัก ณ เมืองทวายนั้น เริ่มต้นด้วยเส้นทางโหด ๆ กันก่อนเลย เพราะเมื่อหลุดออกมาจากด่านแล้ว เราก็ต้องขับรถผ่านเส้นทางที่เป็นภูเขาล้อมรอบ ตัวถนนนั้นเป็นลูกรังพัง ๆ ที่ฝุ่นนั้นฟุ้งกระจายไปทั่วยามเมื่อตัวล้อวิ่งผ่านตะกุยลงไปยังก้อนดินเล็ก ๆ ที่เรียงรายกองตามพื้น ทำเอาบรรดาผู้ขับในทริปนี้ ต้องใช้ความระมัดระวังให้มากขึ้นเป็นอย่างมาก (โชคดีเหลือเกินที่ผมซัดไม้แรกไปแล้ว รอบนี้จึงเป็นคิวของน้องเบิร์ด MassAutoCar ที่จะต้องใช้ทักษะประจำตัวในการขับขี่เส้นทางแบบนี้แทน ด้านซ้ายนั้น จะเป็นเหวลึก ที่ลงไปแล้วจะเป็นแม่น้ำตะนาวศรีที่ทอดยาวขนาบข้างอยู่ตลอดเส้นทาง เรียกได้ว่าห้ามพลาดเด็ดขาดตลอดทั้งเส้นทาง เส้นนี้ถ้าพลาดก็ “ซ้ายตาย ขวาสลบ” แน่นอนครับ ถ้าใครนึกสภาพความพังไม่ออก ลองนึกสภาพเวลาเราขับรถบนทางลูกรัง ที่ไม่ได้มีการถมหินใหม่มาแล้วร่วม 10 ปี หรือถ้าใครเคยไปเที่ยวแถวเขากระโจม ถนนพังระดับเดียวกับช่วงแรก ๆ ของเส้น Off-Road ทางขึ้นเลยครับ แต่เส้นนี้มันยาวประมาณ 100 กิโลเมตรเลยครับ เรียกได้ว่า หลับแล้วหลับอีก เราก็ยังคงได้เห็นฝุ่นฟุ้ง ขวาเป็นเขา ซ้ายเป็นเหวลึกลงสู่แม่น้ำอยู่ตลอดเส้นทาง ผมงีบหลับแล้วตื่นมาใหม่ 2 รอบ ทิวทัศน์ก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงเลยครับ นี่ถ้าไม่ได้สุดยอดช่วงล่างของ Nissan Terra นะ สงสัยคงจะหลับไม่ลง

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

ที่พม่านั้น เวลาจะช้ากว่าที่ประเทศไทยครึ่งชั่วโมงครับ เวลาตามนาฬิกาข้อมือของผมบอกเอาไว้ว่าบ่ายโมงแล้ว แต่เวลาของพม่านั้นคือเที่ยงครึ่ง ก็ได้เวลาในการแวะรับประทานอาหารเที่ยงกันแล้ว ร้านที่เราแวะนั้น เป็นร้านที่อยู่ในเส้นทางเดิมนี่แหล่ะครับ ดังนั้นเราก็ยังคงอยู่ในดงฝุ่นอยู่ แต่ด้วยความที่ไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้แล้ว พวกเราก็เต็มใจที่จะกินข้าวกันท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้ แต่ไม่ต้องห่วงครับ เพราะทีมงานนั้นดูแลพวกเราอย่างดี ทำให้อาหารมื้อแรกแบบ Local ในประเทศพม่า เรายังคงเอร็ดอร่อยกันได้อย่างเต็มที่ อาหารก็คล้ายกับประเทศไทยครับ พวกไก่ทอด, ไข่พะโล้ แกง อะไรพวกนี้ แต่ก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปบ้าง อย่างไก่ทอดเนี่ย ที่บ้านเราก็ยังคงมีความนุ่มชุ่มฉ่ำในเนื้ออยู่ แต่ของเขามันแห้งมาก ไม่ได้เป็นร้านเดียวนะ แต่ทุกร้านที่กินแล้วมีไก่ทอด จะเป็นแบบนี้ ส่วนไข่พะโล้บ้านเราตัวน้ำก็จะมีความหวานหน่อย แต่บ้านเขานั้นเค็มเลยครับ ซดคำแรกไปเล่นเอาซะคอแห้งเลย และอาหารส่วนใหญ่จะมันมาก เห็นน้ำมันกองอยู่ที่ในจานเยิ้ม ๆ ทุกเมนู ใครไม่ชอบอาหารมันก็คงต้องเลือก ๆ หน่อย ส่วนผมไม่เกี่ยวครับ กินได้หมด เพราะรสชาตินั้นไม่ได้ต่างจากอาหารไทยมาก เราจึงอิ่มหมีพีมันกันไปตามท้องเรื่องเลยล่ะ

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

อิ่มอร่อยกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาในการเดินทางต่อแล้วครับ ผมและเพื่อนร่วมรถ ก็ยังคงเดินทางในรถ Nissan Terra อยู่เช่นเดิม ถึงแม้ว่าอากาศในช่วงนั้น น่าจะอยู่ที่ราว 40 องศาน่าจะได้ แต่เมื่อขึ้นรถไปได้แปปเดียว ระบบทำความเย็นบนรถ ก็สามารถสร้างอากาศเย็นภายในห้องโดยสารให้นั่งสบายได้ในระยะเวลาเพียงอึดใจเดียว พวกเรายังคงเดินทางไปในเส้นทางเดิม บรรยากาศเดิม ๆ ฝุ่นก็ยังเยอะเหมือนเดิม มีด่านความมั่นคง หรือที่ทำการของเขจ้าหน้าที่กะเหรี่ยงเป็นระยะ ซึ่งทางพี่ไกด์ชาวพม่า ได้เตือนพวกเราตั้งแต่ก่อนออกเดินทางกันแล้วว่า ในสถานที่ราชการแบบนี้ ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด รวมทั้งตัวของเจ้าหน้าที่เอง ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือทหาร ก็ห้ามถ่าย เพราะมีกฎเอาไว้ว่าห้ามถ่ายเพื่อความมั่นคง ถ้าใครฝ่าฝืน อาจจะมีการยึดกล้อง ยึดเมโมร่การ์ด ยึดโทรศัพท์ หรือถ้าเลวร้ายมากกว่านั้น ก็อาาจะถึงกับถูกดำเนินคดีได้เลย พวกเราก็รับทราบกันดี เพราะคงไม่มีใครอยากกินข้างแดงในแดนพม่าแน่นอนครับ

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

วิ่งมาได้สักระยะหนึ่ง พวกเราก็เดินทางมาถึงจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีอาชีพในการ “ร่อนทอง” (ชื่อหมู่บ้านอะไร จำไม่ได้จริง ๆ ขออภัยด้วยครับ) ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงมีการทำอาชีพนี้กันอยู่ โดยยังคงเป็นการร่อนทองแบบดั้งเดิม ก็คือการเอาถาดไม้ที่คล้ายกับกระทะ จากนั้นก็ตักดินในบริเวณที่คาดว่าจะมีทองอยู่ จากนั้นก็ร่อนเอาเศษดินออกไปให้หมดด้วยการปล่อยให้น้ำเข้ามาในกระทะ แล้วให้ดินชะเอาดินร่อนออกไปนอกกระทะจนหมด ถ้ามีทองอยู่ มันก็จะยังคงกองอยู่ที่ก้นกระทะ ก็รวบรวมเอาไปขายได้ ปัจจุบันสายแร่ทองเริ่มจะเหลือน้อยแล้ว ปัจจุบันจึงเหลือเพียงไม่มากที่ยังคงทำมาหากินด้วยวิธีนี้กันอยู่ ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวบ้านสาววัยดึก ที่ยังคงนั่งใส่เสื้อคอกระเช้า นุ่งผ้าถุง นั่งร่อนหาทองกันอยู่

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

หลังจากชมวิถีการร่อนทอง และถ่ายภาพบรรยากาศของแม่น้ำตะนาวศรีกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราชาวคณะ Nissan Intelligent Driving Experience ก็เริ่มเดินทางกันต่อ ซึ่งก็ยังคงเป็นเส้นทางเหมือนเดิมต่อไปอีก แต่ผ่านครึ่งทางมาแล้วแหล่ะ (ทุกคนถามกันตลอดทางว่า เมื่อไหร่จะหมดสักทีฮะ) เอาจริง ๆ ตอนนี้เราสงสารโช๊คของรถทุกคันมากเลย เพราะมันต้องรับหน้าที่ในการรองรับความกระเด้งกระดอนของตัวรถตลอดเวลา แทบไม่ได้พักกันเลย เชื่อว่าถ้าเราเอามือไปจับโช๊คในตอนนั้น กระบอกโช๊คน่าจะร้อนจี๋เลย แต่มันก็ยังคงทำงานได้ดี ไม่งอแง ทำงานตามหน้าที่ได้เต็มสมรรถนะตลอดเส้นทางเลย

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

การขับรถในประเทศพม่าตอนนี้นั้น จะต้องขับชิดขวาครับ แต่ถ้าสังเกตกันดูแล้ว รถส่วนใหญ่จะเป็นรถที่มีพวงมาลัยด้านขวา เนื่องมาจากที่รถส่วนใหญ่ที่เอามาขายในพม่านั้น จะเป็นรถมือสองสภาพดี ที่ส่งตรงมาจากประเทศญี่ปุ่น แต่อาจจะสงสัยอีกว่า แล้วทำไมถึงไม่ขับแบบเดียวกับญี่ปุ่นหรือประเทศไทยก็คือการขับรถในเลนด้านซ้ายล่ะ คำตอบก็คือ ถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อนที่ประเทศพม่าจะถูกปกครองโดยทหารแล้วทำการปิดประเทศนั้น พม่าถูกปกครองโดยประเทศอังกฤษ เริ่มต้นในการใช้ถนนหนทาง ก็วิ่งเหมือนกับในประเทศอังกฤษ คือวิ่งเลนด้านซ้าย ใช้รถพวงมาลัยขวา แต่พออังกฤษไม่ได้ปกครองแล้ว รัฐบาลทหารพม่าก็ไม่อยากให้มีความเป็นอังกฤษหลงเหลืออยู่ จึงได้ทำการปรับการวิ่งให้สลับกับอังกฤษซะ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจเรื่องความปลอดภัย แต่สนใจแต่เฉพาะการเมืองมากกว่านั่นเอง

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

หลังจากควบ Nissan Terra เดินทางกระด๊อกกระแด๊กมานาน (มาก) แล้ว ในที่สุดเราก็พ้นเส้นทางฝุ่นกันได้เสียที อีกเพียงไม่กี่กิโลเมตร (ประมาณเกือบร้อยกิโลเมตรเอง) เราก็จะเดินทางถึงที่พักในเมืองทวายแล้ว ถนนหนทางนั้น ให้ลองนึกถึงถนนหมู่บ้านแถวต่างจังหวัด คือเป็นทางลาดยางมะตอยขนาดแคบ รถสวนกันกระจกมองข้างแทบจะชนกัน แต่ไม่น่าห่วงครับ เพราะรถในพม่านั้น ยังคงมีไม่เยอะมาก ส่วนใหญ่จะยังคงใช้การเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์เป็นส่วนใหญ่ นาน ๆ เราจะเจอรถโดยสารสักคัน ที่รถยังไม่เยอะนั้น เนื่องจากในเขตทวาย ยังอยู่ในการปกครองของทางฝั่งกะเหรี่ยงอยู่ รายได้ของชาวบ้านในพื้นที่ยังคงไม่มากนัก และการซื้อรถนั้น จะเป็นการซื้อสดทั้งหมด ยังไม่มีสถาบันทางการเงินเปิดมาเพื่อให้กู็ซื้อรถยนต์กัน ดังนั้นจึงแทบจะหารถวิ่งไม่ได้ การเดินทางของชาวคณะเรานั้น จึงไม่ต้องซีเรียสกับการเดินทางสักเท่าไหร่

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

ขยับขับออกมาอีกหน่อย ถนนก็เริ่มจะกว้างขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นการเดินทางแบบเลนสวนอยู่ดี ซึ่งพี่ไกด์บอกว่า ถนนนี้เป็นถนนสายหลักของเขตนี้แล้ว รถอาจจะมากขึ้น แต่ยังขับช้ากันอยู่ ดังนั้นเวลาแซง ก็ให้ระมัดระวังกันมากขึ้นเสียหน่อย เพราะลองคิดดูว่า พวงมาลัยอยู่ด้านขวา แต่ต้องขับรถชิดขวา เวลาแซงที ก็มองเห็นรถที่สวนมาลำบากมาก ต้องให้ผู้นั่งด้านข้าง เป็นผู้ส่งสัญญาณในการแซงทุกครั้ง พี่ไกด์แนะนำเพิ่มเติมว่า เวลาเราขับไปติดรถคันหน้า คนขับก็จะแสดงความมีน้ำใจด้วยการส่งสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อบอกให้แซงได้หรือห้ามแซง (เหมือนรถบรรทุกในบ้านเรา) แต่ด้วยความที่ว่า คนขับรถที่นี่มี 2 ยุค นั่นคือคนยุคเก่า ถ้าให้แซงได้ เขาจะเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อให้สัญญาณว่าข้างหน้าปลอดภัย แต่สำหรับคนรุ่นใหม่นั้น จะเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวาเพื่อบอกว่าข้างหน้าปลอดภัย ดังนั้นถ้าเห็นสัญญาณไฟเลี้ยว ก็เดากันเองละกันว่าคนขับเป็นคนยุคเก่าหรือคนยุคใหม่  (อะไรวะ)

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

ถนนเส้นทางหลักในพม่าแถบเมืองทวายนั้น อย่าได้ถามหาความเรียบครับ ถนนเป็นคลื่นเป็นลอนอยู่ตลอดเส้นทาง หาได้มีช่วงไหนที่นั่งรถได้นิ่ง ๆ เลย เอาเป็นว่าถนนตามต่างจังหวัดแบบไม่ใช่ทางหลัก ยังเรียบมากกว่าหลายเท่าตัว ถ้ารถมีช่วงล่างไม่ดีจริง อาจจะมีอาการเมารถได้ตลอดเส้นทางเลยครับ

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

ในที่สุดพวกเราก็เดินทางมาถึงจุดหมายที่โรงแรม Hotel Dawei ตั้งอยู่ในจุดที่ห่างจากทะเลทวายประมาณ 40 นาที (พี่ผู้นำทางอกว่า จำได้แต่เวลา จำระยะทางไม่ได้) ตัวโรงแรมสวยมากครับ คล้ายกับเอาอาคารแบบดั้งเดิมมาปรับปรุงใหม่ให้เป็นโรงแรม แต่เรื่องของวันนี้ยังไม่จบครับ เพราะหลังจากเช็คอินเข้าห้องพัก เปิดแอร์ร่วมชั่วโมงแล้วก็ยังไม่เย็นสักที จึงได้เรียกพนักงานมาช่วยดูให้หน่อย หลังจากที่ดูเรียบร้อยแล้ว เข้าก็บอกว่า “แอร์ที่นี่เป็นอย่างนี้แหล่ะ เย็นช้า ต้องเปิดนานๆๆๆๆๆ ถึงจะเย็น เพราะไฟในเมืองดึงกันไปดึงกันมา ไฟเลยจ่ายไม่เต็ม ทำให้แอร์ทำงานได้ไม่เต็มที่ครับ” (พนักงานพูดไทยได้ เพราะเคยไปอยู่เรือประมงที่ชุมพรมาก่อน) สรุปว่าต้องรออีกนานมาก กว่าที่แอร์จะเย็นให้ (ทั้งคืนนอนไม่ต้องห่มผ้า เพื่อน ๆ ว่ามันเย็นมั้ยล่ะ) แถมนอน ๆ อยู่ ไฟก็ดับอีก ดับอยู่ประมาณ 3-4 ครั้ง แต่ดีว่าดับครั้งนึงไม่เกิน 5 นาที เอาเป็นว่า จบทริปวันแรกด้วยความเมื่อยล้า และโหยหาความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving ExperienceNissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

การที่เราไปเยี่ยมเยือนเมืองไหน ถ้าเราอยากเห็นวิถีชีวิตที่เป็นจริงของชาวบ้าน ให้ไปเยี่ยมเยือนตลาดชาวบ้านในยามเช้า ดังนั้นในเช้าวันที่ 2 ของการเดินทางใน Nissan Intelligent Driving Experience (N.I.D.E.) Go Anywhere Myanmar เราจึงได้มีโอกาสเดินทางไปชมกับตลาดเช้า 100 ปีกัน ซึ่งเป็นตลาดเก่าดั้งเดิมที่ชาวบ้านยังคงใช้เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้ากันเป็นประจำทุกวัน (ตลาดใหม่มีแล้ว แต่ตลาดนี้คลาสสิคกว่า พี่ไกด์บอก) ตัวโครงสร้างตลาดมันคือแบบโบราณจริง ๆ อาจจะมีดัดแปลงใส่หลังคาสังกะสี แต่มันก็เหมือนตลาดเก่าอยู่ดี ของที่วางขายก็มีหลากหลาย ทั้งของสด ที่ส่วนใหญ่เป็นปลา และน่าจะเป็นปลาทะเลเกือบทั้งนั้น เพราะทวายเป็นเมืองที่อยู่ติดทะเล แต่ก็มีอย่างอื่นด้วย เช่นของแห้ง. อาหาร, ผ้าโสร่ง, ผ้าถุง ฯลฯ หาของที่ทันสมัยแทบไม่ได้ ตาชั่งยังคงเป็นแบบโบราณอยู่เลยครับ หรืออย่างร้านขนมจีน ปกติบ้านเราจะเอาตัวน้ำยาตักใส่ถุงร้อนแล้วมัดยาง จากนั้นค่อยเอาใส่ถุงก๊อบแก๊บเพื่อถือกลับบ้านไป แต่ที่นี่ไม่ใช่ครับ เขาจะเอาน้ำยาตักใส่ถุงก๊อบแก๊บแล้วมัดปากถุงถือกลับบ้านเลย และเท่าที่เดินทั้งตลาด (ไม่ใหญ่มากหรอก เดิน 10 นาทีก็ทั่วแล้ว) ไม่เห็นถุงร้อนแม้แต่ร้านเดียว

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

Nissan Intelligent Driving Experience

หลังจากสำรวจตลาดเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเดินถึงรถเพื่อเดินทางกลับโรงแรมเพื่อออกเดินทางไปจุดหมายต่อไป พวกเราก็ได้เจอกับร้านชายามเช้า (คนพม่าไม่ชอบดื่มกาแฟ แต่ดื่มชานมแทน) ที่ร้านนี้มีของ 2-3 อย่างที่เราสัมผัสได้ของความเป็นชาวบ้าน ทั้งชานม ที่ดื่มแบบร้อน, ปาท่องโก๋ตัวยาวเบ้อเริ่ม ที่ขาย 2 ตัว 150 จ๊าด (3 บาท), โรตีโอ่งจิ้มนมแสนอร่อย แผ่นละ 150 จ๊าด (3 บาท) คณะเราราว 20 คน เฮโลกันรุมเข้าไปในร้านนี้ ซัดชานมร้อนคนละแก้ว, ปาท่องโก๋และโรตีโอ่งจำนวนที่นับไม่ได้ สรุปราคาออกมาอยู่ที่ประมาณ 200 บาท เฉลี่ยคนละไม่ถึง 10 บาท ถือเป็นอาหารยามเช้าแบบชาวพม่าที่แท้จริงครับ

Nissan Intelligent Driving Experience

สำหรับการเดินทางในทริป Nissan Intelligent Driving Experience (N.I.D.E.) Go Anywhere Myanmar ครั้งนี้ กำลังจะเริ่มต้นวันที่ 2 ต่อไป แต่ยังมีเรื่องราวมากมายที่จะบันทึกเอาไว้ใน AUTODEFT ดังนั้น ผมจึงขออนุญาตมาต่อกันในตอนต่อไป ในเร็ววันนี้ครับ

เดินทางและเรียบเรียงโดย EARTHPARK02

อ่านตอนที่ 2 ได้ที่นี่

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ