100 วันแรกในตำแหน่ง POTUS มาดูว่า Joe Biden จัดการนโยบายเกี่ยวกับรถไฟฟ้าไปอย่างไรแล้วบ้าง
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 30 เม.ย. 64 00:00
- 3,938 อ่าน
ตลาดใหญ่ของรถยนต์บนโลกนี้ อเมริกาถือว่าเป็นตลาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งบนโลกนี้ แน่นอนว่าการขยับของตลาดแห่งนี้ทีไร ก็ต้องส่งแรงกระเพื่อมไปยังส่วนต่าง ๆ ของโลกอยู่เสมอ การเข้ามาของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ จึงมีการเปลี่ยนแปลงของนโยบายอย่างมากมายโดยเฉพาะเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า วันนี้เรามาลองสรุปดูว่านโยบายใหม่ของ Joe Biden ที่อยู่ในตำแหน่งครบ 100 วันแรก ได้จัดการอะไรไปบ้าง
เปลี่ยนรถราชการให้เป็นรถไฟฟ้า
นโยบายนี้ Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ทำการประกาศนโยบายใหม่เมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่จะเปลี่ยนรถที่ใช้งานในราชการของสหรัฐฯ ที่มีรวมประมาณ 645,000 คัน ให้กลายเป็นรถไฟฟ้าทั้งหมด โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการลดการปล่อยมลพิษ รวมทั้งเป็นตัวอย่างให้ประชาชนได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุค EV และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เน้นการสั่งซื้อรถไฟฟ้าจากผู้ผลิตในธุรกิจของอเมริกา และผลิตในอเมริกาเท่านั้น
กลับมาใช้ EV tax credit อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ มีนโยบายในการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ ด้วยลดค่าภาษีรถยนต์ที่ขาย เป็นจำนวนสูงสุด 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 218,000 บาท/คัน (มากน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่) แต่ได้หมดโปรโมชั่นนี้ไปตั้งแต่ปีก่อน เต็มจำนวน 200,000 คันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่นโยบายนี้กำลังถูกนำกลับมาพิจารณาใช้งานอีกครั้ง โดยจะเพิ่มจำนวนไปอีก 600,000 คัน ถ้านโยบายนี้ผ่าน จะมีเพียง 2 ค่ายคือ Tesla และ GM ที่ไม่มีสิทธิ์ในการรับนโยบายนี้ เพราะได้ถูกใช้งานไปจนเต็มโควตาทั้งปี 2019 และ 2020 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จ่ายเงินชดเชยตรงให้ผู้ซื้อรถไฟฟ้า
นโยบายใหม่ได้ทำการตั้งงบประมาณจำนวน 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,120 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินชดเชยให้กับผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มเติมจากการลดภาษีไปด้วย ซึ่งถ้านโยบายนี้ผ่าน จะมีการแปะสติ๊กเกอร์เอาไว้ที่ป้ายราคารถไฟฟ้าทุกคันว่าจะได้เงินคืนจากทางรัฐบาลเท่าไหร่ ทั้งนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเงินชดเชยส่วนนี้จะได้เป็นจำนวนเท่าไหร่ และมีกฎเกณฑ์อย่างไรบ้าง
เพิ่มจุดชาร์จไฟฟ้า 500,000 จุดทั่วประเทศ
แน่นอนว่า การที่แท่นชาร์จไฟรถไฟฟ้า ที่ในปัจจุบันยังมีน้อยกว่าปั๊มน้ำมัน ทำให้ความนิยมในการซื้อรถยนต์ใหม่ให้เป็นแบบ EV เลยยังไม่เติบโตมากเท่าที่ควร ดังนั้นนโยบายใหม่ของ Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จึงได้มีการสั่งการให้สร้างจุดชาร์จไฟฟ้าใหม่อีก 500,000 จุดทั่วประเทศ โดยใช้การมอบงบประมาณตรงไปสู่แต่ละรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ติดตั้งให้ครบภายในปี 2030
พิจารณาค่าไอเสียและอัตราการใช้เชื้อเพลิงใหม่
ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ คณะทำงานของ Joe Biden จะมีการเปิดเผยของนโยบายใหม่ในส่วนของค่าไอเสียและอัตราการใช้เชื้อเพลิงของรถยนต์ใหม่ที่จะทำการขายในสหรัฐฯ ได้ เพื่อแจ้งให้ทางผู้ผลิตรถยนต์ทราบและปรับเปลี่ยนรถยนต์ใหม่ของตัวเองให้ได้ตามที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งน่าจะเป็นการบีบให้ผู้ผลิตต้องปรับปรุงรถให้ปล่อยไอเสียลดลง และมีอัตราการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้นประมาณหนึ่ง แน่นอนว่านโยบายนี้แตกต่างกับ Donald Trump อย่างมาก เพราะประธานาธิบดีคนก่อนได้ลดการเพิ่มตัวเลขนโยบายส่วนนี้ลงอย่างมาก แต่นโยบายใหม่นั้นจะมีการปรับตัวเลขไปมากขนาดไหน คงต้องติดตามกันต่อไป
เปลี่ยนแปลงคำสั่งห้ามนโยบายมาตรฐานใหม่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย
เมื่อปี 2019 ทาง Donald Trump ประธานาธิบดีคนก่อนได้มีนโยบายสั่งห้ามรัฐแคลิฟอร์เนียใช้นโยบายการกำหนดมาตรฐานค่าไอเสียและไร้มลพิษเป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นนโยบายที่เข้มงวดมากกว่ารัฐอื่น แต่เมื่อการเข้ามาใหม่ของ Joe Biden ได้มีการประกาศยกเลิกการห้ามครั้งนี้แล้ว ทำให้รัฐแคลิฟอร์เนีย ยังมีสิทธิ์ในการบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ที่ต้องการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่รัฐนี้ ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ให้อเมริกากลับมาเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถไฟฟ้าอีกครั้ง
Joe Biden ได้มีคำสั่งทบทวนนโยบายในการทำให้สหรัฐฯ ได้กลับมาเป็นผู้ผลิตหลักของชิ้นส่วนต่าง ๆ บนรถไฟฟ้า ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อจะได้ไม่ต้องพึ่งพาการผลิตจากประเทศจีนเป็นหลัก โดยเฉพาะในเรื่องการผลิตแบตเตอรี่และชิปเซ็ตต่าง ๆ แก้ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนจากการหยุดส่งออกชิ้นส่วนจากประเทศจีนได้
ทั้งหมดนี้เป็นนโยบายส่วนหนึ่งของ Joe Biden ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการพัฒนาและส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ที่เกิดขึ้นหลังการเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในระยะเวลาประมาณเพียง 100 วันเท่านั้น ส่วนจะส่งผลดี-ผลเสีย และส่งผลกระทบต่อวงการยานยนต์ของโลกนี้อย่างไรบ้าง คงต้องติดตามกันต่อไป
ข้อมูลจาก Roadshow
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com