JD Power เผยปัญหาการใช้งานรถใหม่มากที่สุด คือปัญหาเสียงลมดังเกินไป ตามมาด้วยคลื่นวิทยุไม่ชัด

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 27 ธ.ค. 64 00:00
  • 5,403 อ่าน

ปัญหาการใช้งานรถใหม่นั้น ต้องยอมรับว่ามีเกิดขึ้นทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ อยู่ที่ว่าจะมีมาก มีน้อย และได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างไรมากกว่า ล่าสุดทาง JD Power ได้เปิดเผยข้อมูลออกมาว่า ปัญหาที่ทางผู้บริโภคพบมากที่สุด ก็คือปัญหาเสียงลมดังเกินไป ส่วนที่เหลือเป็นปัญหาในด้านการใช้งานเช่น คลื่นวิทยุไม่ชัด, แอร์เย็นช้า, ปลั๊กไฟ/พอร์ตชาร์จ USB ไม่เพียงพอ เป็นต้น

JD Power ผู้ให้บริการด้านองค์ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ให้บริการที่ปรึกษา และการวิเคราะห์ข้อมูล ได้เปิดเผยข้อมูลใหม่ในการสำรวจผู้ที่ใช้งานรถยนต์ใหม่ประจำปี 2564 ได้ผลออกมาว่า 59% จากปัญหาทั้งหมด 217 เรื่องที่ได้รับการประเมินโดยเจ้าของรถใหม่นั้นเกี่ยวข้องกับการออกแบบของรถยนต์

คุณภาพของรถยนต์ใหม่ถูกวัดจากจำนวนปัญหาที่พบต่อรถยนต์ใหม่ 100 คัน (PP100) ในช่วง 1 ถึง 6 เดือนแรกของการเป็นเจ้าของ โดยคะแนน PP100 ยิ่งต่ำ แสดงว่ารถรุ่นนั้นยิ่งมีคุณภาพสูง ในการศึกษาปีนี้ คะแนนเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ที่  147 PP100 โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นปัญหาด้านการออกแบบ (87 PP100) มากกว่าปัญหาจากความผิดพลาดในการผลิต (58 PP100)

ถึงแม้ปัญหาที่ผู้ซื้อรถยนต์ใหม่พบมากที่สุด คือ ปัญหาเสียงลมดังเกินไป (รอบตัวรถ) มาจากความผิดพลาดในการผลิต (10.4 PP100) แต่ปัญหา 5 อันดับแรกที่เหลือทั้งหมดนั้นอยู่ในกลุ่มปัญหาด้านการออกแบบ ได้แก่ คลื่นวิทยุไม่ชัด (6.9 PP100) แอร์เย็นช้า (6.0 PP100) ปลั๊กไฟ/พอร์ตชาร์จ USB ไม่เพียงพอ (5.5 PP100) และความสามารถในการกันสะเทือนไม่ดี (4.9 PP100)

“ในการพัฒนารถยนต์ใหม่  ปัจจัยด้านคุณภาพและความครบถ้วนของฟีเจอร์พื้นฐานต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก” มณีณัฐฐา  จิระเสวีจินดา - ผู้อำนวยการงานวิจัยฝ่ายยานยนต์ส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย ที่นีลเส็นไอคิว กล่าว “ลูกค้ามีความคาดหวังสูงต่อฟีเจอร์พื้นฐานของรถยนต์ เช่น มีแอร์ในส่วนด้านหลังรถ และมีปลั๊กไฟ/พอร์ตชาร์จ USB เพียงพอ โดยที่คุณภาพของรถไม่ได้ถูกวัดจากคนขับเท่านั้น แต่วัดจากผู้โดยสารด้วยเช่นกัน ดังนั้นแบรนด์จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าฟีเจอร์พื้นฐานทั้งหมดนั้นตอบโจทย์และเหมาะสมกับประเภทของรถยนต์”

ข้อมูลสำคัญเพิ่มเติมที่ได้จากการสำรวจปี 2564:

• ปัญหาด้านการออกแบบที่ได้รับการรายงานมากที่สุด คือ ปัญหาเกี่ยวกับฟีเจอร์/ปุ่มควบคุม/จอแสดงผล: กลุ่มปัญหาเกี่ยวกับฟีเจอร์/ปุ่มควบคุม/จอแสดงผลพบมากที่สุดถึง 17.3 PP100 ซึ่งหนึ่งในปัญหาหลัก คือ ปลั๊กไฟ/พอร์ตชาร์จ USB ไม่เพียงพอ (5.5 PP100) และพอร์ตชาร์จ USB ชาร์จช้าเกินไป (3.1 PP100)  นอกจากนี้ลูกค้ายังระบุถึงปัญหาเกี่ยวกับที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าไม่สามารถล้างกระจกได้สะอาดตามต้องการ (1.5 PP100) และแตรรถยนต์เสียงดังไม่พอ (1.3 PP100)

• ปัญหาเล็กๆ ที่ถูกมองข้าม กลายมาเป็นปัญหา 20 อันดับแรกที่ถูกพูดถึง: ปัญหาเกี่ยวกับพรมปูพื้นรถ (3.4 PP100) การจับคู่/การเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ/อุปกรณ์ผ่านระบบ Bluetooth® ที่ติดตั้งมากับรถยนต์ (2.8 PP100) และกระโปรงหลัง/ประตูท้าย/ฝาท้าย เปิด/ปิดยาก (2.1 PP100) คือปัญหาที่พบเจอบ่อย

• เจ้าของรถยนต์คันใหม่ที่อายุน้อยระบุจำนวนปัญหาที่พบสูงกว่า: เจ้าของรถอายุไม่เกิน 30 ปี พบปัญหาสูงสุดที่ 166 PP100 ในขณะที่เจ้าของรถอายุ 50 ปีขึ้นไปสังเกตเห็นปัญหาของรถน้อยกว่าที่ 153 PP100 โดยปัญหาที่พบมากที่สุด คือ ประสบการณ์ในการขับขี่ (26.3 PP100) ซึ่งปัญหานั้นเกี่ยวข้องกับความสามารถของรถในการกันสะเทือนที่ไม่ดี  (5.2 PP100) และเบรกมีเสียงดัง (4.0 PP100) ในขณะที่ลูกค้าที่สูงวัยกว่าพบปัญหาที่ภายนอกรถยนต์มากกว่า

ผลจากการจัดลำดับสูงสุดของการศึกษาวิจัย
• Toyota Yaris ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก (150 PP100)
• Mazda2 ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลางระดับต้น (147 PP100)
• Mitsubishi Pajero Sport ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดใหญ่ (132 PP100)
• Isuzu D-Max Hi-Lander X-Cab ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถกระบะตอนขยาย (116 PP100)
• Toyota Hilux Revo D-Cab ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถกระบะ 4 ประตู (116 PP100)

การศึกษาในครั้งนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับ 2 กลุ่มปัญหาหลักที่เจ้าของรถยนต์ใหม่ประสบ ได้แก่ กลุ่มปัญหาด้านการออกแบบ และกลุ่มปัญหาที่เกิดจากความผิดพลาดในการผลิต การศึกษานี้ได้เจาะถามถึงปัญหาต่างๆ ซึ่งครอบคลุมทั้งหมด 8 หมวดหมู่ ได้แก่ ปัญหาภายนอกรถยนต์; ปัญหาจากประสบการณ์การขับขี่; ปัญหาจากฟีเจอร์/ปุ่มควบคุม/จอแสดงผล; ปัญหาจากเบาะที่นั่ง; ปัญหาเครื่องเสียง/ระบบสื่อสาร/ระบบความบันเทิง/ระบบนำทาง; ปัญหาจากระบบทำความร้อน/ระบบระบายอากาศ/ระบบความเย็น; ปัญหาภายในห้องโดยสาร และปัญหาเครื่องยนต์/ระบบเกียร์

ผลการศึกษาคุณภาพรถใหม่ในประเทศไทย (IQS) ประจำปี 2564 ได้จากการประเมินคำตอบของเจ้าของรถยนต์คันใหม่ 4,571 ราย ที่ซื้อรถยนต์ในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนตุลาคม 2564 ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ และรถยนต์อเนกประสงค์จำนวน 77 รุ่น จากทั้งหมด 10 ยี่ห้อ โดยมีการเก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนามในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนพฤศจิกายน 2564

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ