Mazda Sky Activ 2 จ่อปั้นอัตราประหยัดเท่ารถไฟฟ้า
- โดย : Autodeft
- 29 มี.ค. 57 00:00
- 7,843 อ่าน
Mazda ซุ่มเงียบพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินปล่อยไอเสียต่ำ เล็งตีหัวค่ายชั้นนำประหยัดเท่า EV
ตั้งแต่เริ่มต้นยุคใหม่ของค่าย Mazda ค่ายรถยนต์ชั้นนำจากญี่ปุ่นเจ้านี้ ก็มีการปรับปรุงตัวเอง จนมีความแตกต่างจากคู่แข่งอย่างมาก และหลังจากมีกระแสข่าวว่าบริษัท ได้เริ่มโครงการพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นที่สองก็เป็นที่จับตาอย่างมาก
แม้หลายค่ายรถยนต์จะเริ่มเข้าสู่แนวทางของรถยนต์แบบไฮบริด หรือรถไฟฟ้ากันแล้ว แต่ Mazda ยังเชื่อว่า สมรรถนะของเครื่องยนต์เบนซินในปัจจุบันยังไปได้มากกว่านี้อีก และพวกเขามันใจว่าเครื่องยนต์ Mazda Sky Activ รุ่นต่อไปจะมีความสามารถในการลดมลภาวะได้ดีกว่า รถไฟฟ้าที่อาจจะมีไอเสียเป็นศูนย์จริง แต่ก็แค่เหมือนกับผลักภาระไปยังโรงไฟฟ้าเท่านั้น
Mazda Hazumi concept
ในอเมริกามีการทำอัตราสิ้นเปลืองของรถไฟฟ้าเสียบปลั้กออกมา ซึ่งใช้อัตราส่วนเทียบในอัตรา 35 ไมล์ต่อแกลลอน โดยประมาณ ซึ่งค่าสมมุติในการปล่อยไอเสียและอัตราประหยัดนี้พิจารณาจากการใช้ไฟฟ้าในการให้พลังงานในรถ และส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 90 ยังผลิตไฟฟ้าด้วยการเผาถ่านหิน ซึ่งมีการปล่อยมลภาวะสูงอยู่ดี
ตามรายงานล่าสุดจาก Green Car Report เผยว่า Mazda มองในเรื่องนี้เป็นสำคัญ และกำลังพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินให้มีความสามารถดังกล่าวอยู่ โดยในยุโรปอัตราประหยัด 35 ไมล์ต่อแกลลอนไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ ในรถเครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กสามารถทำได้จริง
แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ Mazda ในการที่จะต้องพัฒนาเครื่องยนต์เบนซิน Mazda Sky Activ 2 ให้มีอัตราการเผาไหม้ที่ดีกว่า อีกร้อยละ 30 เพื่อที่จะให้มีอัตราประหยัดราวๆ 50 ไมล์ต่อแกลลอน
เครื่องยนต์ Mazda Sky Activ
ตามแนวทางของ Mazda ที่ได้พูดถึงก่อนหน้านี้ พวกเขาต้องการที่ขยับกำลังอัดของเครื่องยนต์เพิ่มมากขึ้นจากปัจจุบันที่ทำได้ดีที่สุดที่ 14.0:1 เป็น 18.0:1 ซึ่ง จะทำให้เกิดการจุดระเบิดแบบ homogeneous charge-compression ignition (HCCI)
การจุดระเบิดแบบนี้เป็นที่คุ้นเคยมากในรถเครื่องยนต์ดีเซลซึ่งจะตัดการทำงานของระบบหัวเทียนออกไป และเช่นเดียวกันมันยังทำให้ถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่า ถึงร้อยละ 30
ถึงจะมีการติดตามการพัฒนา Mazda sky activ ใหม่รุ่นที่ 2 แต่ก็ยังคงไม่ใช่เรื่องที่เร็วนักสำหรับใครที่เฝ้ารอสุดยอดของเครื่องยนต์ เพราะ Mazda ยอมรับว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายและเครื่องยนต์บล็อกใหม่นี้กว่าจะพร้อมก็ในปี 2020
ที่มา Green Car Report
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com
[GALLERY326]