รถใหม่ใครมาก่อน!! Mazda 3 กับ Mazda CX-8 สองยนตกรรมค่าย Zoom-Zoom พร้อมบุกไทยในปีหมู

นับเป็นปีทองของค่ายรถยนต์ Zoom-Zoom อย่าง Mazda ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการรถยนต์เมืองไทยกับยอดขายตลอดปี 2018 มากกว่า 70,000 คัน

โดยยอดขายมากกว่า 70,000 คันนี้ส่วนหนึ่งมาจากพระเอกในสังกัดอย่าง Mazda 2 รถ B-Car ยอดนิยม โกยยอดขายอันดับ 1 ของค่ายอยู่ที่ 45,972 คัน เพิ่มขึ้น 45% ตามมาด้วยอเนกประสงค์หรู Mazda CX-5 คว้ายอดขายสูงสุดอันดับ 2 ของค่าย 8,184 คัน และกระบะแกร่ง Mazda BT-50 PRO Thunder กลับมาเป็นขวัญใจลูกค้าอีกครั้ง ด้วยยอดขายอันดับ 3 อยู่ที่ 7,498 คัน เพิ่มขึ้น 26%

ส่งผลให้มาสด้าในไทยสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 6.7% และถือเป็นส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดของ Mazda ทั่วโลกและในปี 2019 นี้ Mazda จะตั้งเป้ายอดขายมากกว่า 75,000 คันและครองส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 6.7% ปีนี้เตรียมที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 6 รุ่น ด้วยกัน โดย 2 รุ่นจะเป็นโมเดลใหม่ และอีก 4 รุ่นที่เหลือจะเป็นการปรับปรุงใหม่หรือ Model Year ให้กับตัวสินค้าที่จำหน่ายในปัจจุบัน ในส่วน 2 รุ่นที่เป็นโมเดลใหม่ คงเป็นใครไม่ได้นอกจาก Mazda 3 เจนใหม่ กับ Mazda CX-8 อเนกประสงค์สุดหรู 

เริ่มกันที่ Mazda 3 เจนใหม่นับเก๋งเจเนอเรชั่นที่ 4 เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Los Angeles Auto Show 2018 ในรูปแบบ Sedan และรุ่น Hatchback 5 ประตู หล่อเหลาที่ลบทิ้งภาพเดิมๆของ Mazda 3 ถอดแบบดีไซน์จาก Mazda Kai Concept ผสมผสานกับเอกลักษณ์ Kodo Design เจน 2 ตั้งแต่กระจังหน้า พร้อมไฟหน้า LED ทรงเรียวขึ้น หลังคารถที่โค้งมนกรอบกระจกประตูหลังบริเวณ เสา C แตกต่างอย่างชัดเจน ขอบโครเมี่ยมที่กรอบกระจก เพิ่มความหรูมากขึ้น ด้านหลังของรุ่น Hatchback มาพร้อมสปอยเลอร์หลังทรงเท่และด้านท้ายมาพร้อมไฟ LED วงกลม 2 ดวง และด้านท้ายรุ่น Sedan บอกได้เลยว่าแตกต่างจากเจนที่แล้วอย่างสิ้นเชิง

ภายในโดดเด่น แบบ “less is more” ดีไซน์แผงคอนโซลหน้าออกแบบเน้นไปแนวสปอร์ตด้วยการบุวัสดุผิวสัมผัส พร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ตรงกลางแผงคอนโซล 8.8 นิ้ว พร้อมระบบความบันเทิง Mazda Connect infotainment system รวมถึงปรับปรุงการเก็บเสียงให้เงียบยิ่งขึ้นและพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ดีไซน์ใหม่

ขุมพลังมีความเป็นไปได้ว่าเมืองไทยจะได้เครื่องยนต์เบนซินใหม่หมด SKYACTIV-X 2.0 ลิตร เป็นครั้งแรก โดยพลังมากสุด 190 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตันเมตร ชูเด่นด้วยระบบจุดระเบิดรูปแบบใหม่ Spark Controlled Compression Ignition (SCCI) ทำให้เครื่องยนต์เผาไหม้ได้ดีแถมรีดสมรรถนะได้อย่างเร้าใจ และยังรักสิ่งแวดล้อม พร้อมระบบซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ บรรจุและอัดอากาศ ทำงานร่วมกันเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน และเครื่องยนต์มีการตอบสนองได้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

ส่วนขุมพลัง SKYACTIV ดั้งเดิม ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร จะอยู่ต่อหรือไม่ต้องติดตามกันไป พร้อมระบบ G-Vectoring Control Plus system หรือ ระบบควบคุมแรงบิดให้เหมาะสมในขณะเข้าโค้งและให้ความแม่นยำในการถ่ายทอดกำลังลงล้อ พร้อมระบบความปลอดภัย i-Activsense ชัดเจนแล้วว่า Mazda 3 เจนใหม่เจอกันกลางปีนี้แน่นอน

และอีกรุ่นที่น่าจับตามองสำหรับรถยนต์อเนกประสงค์ตระกูล CX นั่นคือ Mazda CX-8 Crossover ที่มาแทรกกลางระหว่าง Mazda CX-5 และ Mazda CX-9 โดยภายนอกคล้ายกับรุ่น CX-5 เจนปัจจุบัน แต่ปรับรายละเอียดให้แตกต่างกันโดยเฉพาะกระจังหน้าเปลี่ยนเป็นทรงแนวนอนติดตราโลโก้ มาสด้า ไฟหน้าใหม่ทรงเรียวแบนแบบ LED และด้านท้ายคล้ายคลึงกับรุ่น Mazda CX-9 ไม่ว่าจะเป็นคิ้วขอบไฟท้ายตรงกลางฝากระโปรงพร้อมตำแหน่งโลโก้ ที่ต่ำลงมา

ภายในหรูด้วยโทนสี้นำตาลเข้มพร้อมเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง เด่นด้วยเบาะตอนสองมีคอนโซลกลางคั่นกลางไว้เป็นที่พักแขนกับที่วางแก้วในตัว หุ้มด้วยวัสดุหนังแท้ Nappa ส่วนเบาะตอนสาม นั่งสบายรองรับคนตัวใหญ่สูงถึง 170 ซม. ได้เต็มที่ และเมื่อพับแถวสามลงจะมีพื้นที่บรรทุกของมากสุด 572 ลิตร พร้อมแผงหน้าปัดดีไซน์ใช้งานง่าย แบบเดียวกับรุ่น Mazda CX-5 พร้อม multi-information gauge หน้าจอสี TFT รวมไปถึงจอ Active Driving Display ช่องปรับอากาศออกแบบในทรงเหลี่ยมคล้ายลูกศรชี้ หน้าจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบ MZD Connect ผ่านลำโพงคุณภาพ 10 ตัว จาก Bose พวงมาลัยดีไซน์จาก CX-9 เบาะนั่งโดยสารเพิ่มความสบายในทุกสัมผัสมากยิ่งขึ้น

ขุมพลังเตรียมลุ้นว่าจะมาในแบบไหนระหว่าง เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ SKYACTIV-D ขนาด 2.2 ลิตร พัฒนาใหม่ เพิ่มพลังเป็น 190 แรงม้าที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที กับ ขุมพลังเบนซินเทอร์โบ Skyactiv-G 2.5 ลิตร สูงสุด 230 แรงม้าที่ ที่ 4,250 รอบ/นาที แรงบิด 420 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบนาที ทั้งสองขนาดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด เลือกได้ทั้งรุ่นขับหน้าและขับสี่ AWD

พร้อมระบบควบคุมแรงบิดให้เหมาะสมในขณะเข้าโค้งและให้ความแม่นยำในการถ่ายทอดกำลังลงล้อ ให้ดีขึ้นกว่าเก่า หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC+) รวมถึงปรับปรุงระบบความปลอดภัยจัดเต็ม i-ACTIVSENSE ไม่ว่าจะเป็น Smart City Brake Support (SCBS) = ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ ที่เพิ่มระบบตรวจจับคนเดินเท้าในเวลากลางคืนเข้ามา, Adaptive LED Headlamps (ALH) = ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำแยกอิสระซ้าย-ขวา, Lane Departure Warning System (LDWS) = ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน, Rear Cross Traffic Alert (RCTA) = ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง, Blind Spot Monitor (BSM) = ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน พร้อมกล้องรอบคัน 360 องศา เบื้องต้นทาง Mazda ยังไม่ระบุว่าจะเปิดตัวช่วงไหนแต่รับรองว่าปีนี้ได้เจอตัวจริงอย่างแน่นอน แต่ว่า 2 รุ่นนี้ทั้ง Mazda 3 เจนใหม่กับ Mazda CX-8 ใครจะเปิดตัวก่อนหรือหลังงานนี้ต้องติดตาม

 

เรื่องและเรียบเรียงโดย นายเต้ย

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com