หลากหลายจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยียานยนต์เปลี่ยนโลก

  • โดย : พิสน ลีละหุต
  • 29 มิ.ย. 63 00:00
  • 5,283 อ่าน

เทคโนโลยีบนรถยนต์นั้น มีความก้าวหน้าขึ้นเป็นอย่างมาก จนบางครั้งมีหลายระบบที่คนใช้งานยังไม่เคยรู้เลยว่ามีระบบนั้นระบบนี้อยู่บนรถของตัวเอง แต่ก็มีระบบหลายอย่างที่เราใช้กันอย่างชินชาแล้ว วันนี้เราลองมาดูกันหน่อยว่า ระบบหรืออุปกรณ์บางอย่างที่อยู่บนรถยนต์จนแทบจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปแล้ว เริ่มต้นมาจากจุดไหนบ้าง ลองมาดูกัน

Semper Vivus Hybrid

รถยนต์ Hybrid
เราอาจจะเริ่มรู้จักคำว่ารถยนต์ hybrid ที่ใช้การขับเคลื่อนรถยนต์ร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์แบบสันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าจากค่ายแดนปลาดิบอย่าง Toyota Prius เมื่อปี 1997 แล้วทราบกันหรือไม่ว่า รถยนต์ระบบ Hybrid นั้น เคยมีมาตั้งแต่ปี 1900 แล้ว โดยฝีมือของ Ferdinand Porsche ออกมาเป็น  Semper Vivus ที่เป็นรถต้นแบบ Prototype ที่ต่อยอดมาจากการเป็นรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบที่ออกแสดงโชว์ในงาน Expo in Paris แต่วิ่งได้ไม่ไกลและชาร์จไม่สะดวก Ferdinand Porsche เลยจัดการนำเอาเครื่องยนต์มาติดตั้งไว้ใช้งานเป็นเครื่องปั่นไฟแทน (ระบบเดียวกับ e-Power ของนิสสันในปัจจุบันนั่นเอง) ก่อนที่จะผลิตออกมาเป็นตัวจำหน่ายจริง Lohner-Porsche Mixte หลังจากเปิดตัวต้นแบบมา 1 ปี แต่ด้วยข้อจำกัดอะไรหลาย ๆ อย่าง รวมทั้งการเปิดตัวและได้รับความนิยมอย่างสูงของ Ford Model-T ทำให้รถยนต์ระบบ Hybrid ก็หายไปจากตลาด ก่อนที่จะเริ่มกลับมามีชีวิตใหม่หลังผ่านไปอีกกว่า 90 ปี

Packard Air Conditioner

ระบบปรับอากาศในรถยนต์
ระบบปรับอากาศภายในรถยนต์ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถยนต์ปัจจุบันไปแล้ว โดยจุดเริ่มต้นนั้น เริ่มมาตั้งแต่ช่วงปี 1940 (ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2) เมื่อ Packard รถยนต์ระดับหรูสัญชาติอเมริกัน ได้ทำการติดตั้งระบบปรับอากาศ Babcock and Bishop ลงในรถยนต์ของตัวเอง แต่ด้วยความที่ราคามันสูง และขนาดที่ใหญ่เทอะทะ เลยทำให้ไม่ได้รับความนิยม ก่อนที่จะยุติการติดตั้งไปภายในปีเดียวเลย ก่อนที่จะเริ่มกลับมาติดตั้งใหม่อีกครั้งบน Chrysler Imperial ในปี 1953 ที่มีขนาดเล็กกว่า ทำให้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์เริ่มได้รับความนิยมตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

Buick Riviera Touch Screen

หน้าจอระบบสัมผัส
หายคนอาจจะเข้าใจไปเองว่า หน้าจอระบบสัมผัสภายในรถยนต์ เริ่มใช้งานได้เป็นครั้งแรกหลังจากการเปิดตัวของสมาร์ทโฟนเปลี่ยนโลกอย่าง iPhone แต่เมื่อย้อนไปดูแล้ว จะเห็นได้ชัดเจนว่า ระบบหน้าจอกลางระบบสัมผัสนั้น มีมาก่อนการเปิดตัวของ iPhone ร่วม 2 ทศวรรษด้วยซ้ำ โดยหน้าจอระบบสัมผัสเริ่มใช้งานบนรถยนต์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1986 บน  Buick Riviera ที่เรียกกันว่า Graphic Control Center เป็นหน้าจอขนาด 9 นิ้ว แสดงผลแบบหน้าจอเขียวพร้อมกราฟฟิคพื้น ๆ เอาไว้ใช้ควบคุมวิทยุ, แอร์ และระบบอื่น ๆ แต่คนใช้งานไม่ค่อยถูกใจมันเท่าไหร่ ระบบนี้เลยถูกทิ้งลงขยะไปเมื่อปี 1990

Porsche 956 Dual-Clutch

เกียร์อัตโนมัติ Dual-clutch
บ้านเราเริ่มรู้จักกับเกียร์อัตโนมัติ Dual-clutch หรือว่าคลัทช์คู่ในภาษาไทย จากการติดตั้งใน Ford Focus และ Fiesta แล้วเกิดปัญหานั่นเอง และในตลาดโลกก็น่าจะเริ่มรู้จักเกียร์ระบบนี้ตั้งแต่การมาของ  Volkswagen Golf R32 ในปี 2003 แต่ความเป็นจริงแล้ว เกียร์อัตโนมัติ Dual-clutch เริ่มจดทะเบียนสิทธิบัตรมาตั้งแต่ปี 1935 โดยวิศวกรชาวฝรั่งเศสนาม Adolphe Kégresse แต่ก็ไม่เคยผลิตขึ้นมาจริง จนกระทั่ง Porsche จับเอาแนวคิดนี้มาพัฒนาเพิ่มเติมตั้งแต่ปี 1964 ก่อนที่จะเริ่มติดตั้งและใช้งานจริงใน Porsche 956 ลงการแข่งขันประเภทรถต้นแบบกลุ่ม C รายการ  FIA World Sportscar Championship เมื่อปี 1983 ก่อนที่ทาง AUDI จะเอามาใส่ใน S1 quattro ในการแข่งขัน Rally ในปี 1985 ด้วยเช่นกัน

Honda Accord Navigation

ระบบนำทาง Navigator
ปัจจุบันเรามีการใช้งานระบบนำทางอย่าง Google Maps ที่มีความแม่นยำ ละเอียด และใช้งานง่ายกันอย่างเคยชิน แต่ถ้า เป็นระบบนำทางในรถยนต์ที่ใช้ระบบดาวเทียม GPS ก็จะเป็น Mazda Eunos Coupé ตั้งแต่ปี 1990 แต่ถ้ามองว่าเป็นระบบนำทางในรถยนต์ครั้งแรกแล้ว คงต้องเป็นใน Honda Accord และ Honda Vigor ตั้งแต่ปี 1981 ที่อาศัยการจับทิศทางด้วยแก๊ส Helium บวกกับการทำงานของระบบวัดระยะทางของรถ ทำให้ตัวระบบนำทางรู้ว่าตอนนั้นรถอยู่ตรงไหนบนโลกนี้แล้ว แต่ด้วยตัวระบบที่มีน้ำหนักมากถึง 9 กิโลกรัม รวมทั้งมีราคาประมาณ 1 ใน 4 ของ Honda Accord ในตอนนั้น ระบบนี้เลยถูกเลิกไปหลังจากการเปิดตัวเพียงแค่ปีเดียว

Toyota Crown Engine start-stop

ระบบ Engine start-stop
รถยนต์ใหม่ในปัจจุบัน เริ่มมีการติดตั้งระบบ Engine start-stop หรือระบบดับเครื่องและสตาร์ทอัตโนมัติหลายรุ่นแล้ว เพื่อลดการใช้งานน้ำมันในช่วงที่รถจอดสนิท เราอาจจะเริ่มคุ้นเคยกันตั้งแต่ BMW นำมาใช้งานเมื่อปี 2007 แต่รุยนต์รุ่นแรกที่ทำการติดตั้งระบบนี้ คือ Toyota Crown เมื่อปี 1974 โดยระบบนี้จะทำการดับเครื่องยนต์เมื่อมีการหยุดนิ่งเกินกว่า 1.5 วินาที และจะติดเครื่องขึ้นมาอีกครั้งเมื่อคนขับทำการเหยียบคลัทช์ลงไปใหม่

Dunlop Maxaret ABS

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS
แทบจะเป็นระบบความปอดภัยมาตรฐานสำหรับรถยนต์ในปัจจุบันไปแล้ว กับระบบเบรกป้องกันล้อล็อก Anti-Lock Brake System หรือที่เรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า ABS ที่จะช่วยไม่ให้ล้อนั้นหยุดนิ่งเมื่อเรากดเบรกแรง จนทำให้รถสามารถเสียหลักแล้วลื่นไถลไปได้ โดยระบบนี้ถูกคิดค้นมาตั้งแต่ปี 1923 โดยวิศวกรชาวฝรั่งเศสนาม Pierre Cayla ที่ใช้เป็นระบบไฮโดรลิกในการช่วยลดแรงดันจากแป้นเบรกไปสู่ตัวเบรก ลดความเสี่ยงในการทำให้ล้อล็อกจนทำให้รถเสียหลักได้ ระบบนี้ถูกจดสิทธิบัตรและมดสอบการใช้งานตั้งแต่ปี 1923 และถูกรับรองในปี 1925 แต่ไม่เคยถูกผลิตออกมาเพื่อใช้งานจริงเลย ก่อนที่จะเริ่มมีการนำกลับมาใช้ติดตั้งบนรถยนต์จริงในช่วงปี 1966 โดย Dunlop Maxaret ABS แทน

ข้อมูลจาก Autocar

ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com

5 เรื่องน่าสนใจ