ทุบสถิติใหม่! ISUZU D-MAX 1.9 Ddi Blue Power โชว์ท็อปฟอร์มแกร่ง ทน อึดโดยไม่ดับเครื่องยนต์ ตลอด 6,128 กม.
- โดย : Autodeft
- 27 ก.ค. 60 00:00
- 22,618 อ่าน
ISUZU ฉลองครบรอบ 60 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย จัดเต็ม! ภารกิจครั้งใหม่พิสูจน์ความ “จิ๋วแต่เจ๋ง” ในแบบอึด ถึก ทน ของนวัตกรรมเปลี่ยนโลก เครื่องยนต์ “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านยนตรกรรมที่แข็งแกร่งและประหยัดน้ำมันใน “คาราวาน “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” พิสูจน์ความแกร่ง ประหยัด 6,128 กม. วิ่งทั้งวันทั้งคืนไม่ดับเครื่องยนต์” เส้นทางปักกิ่ง (กำแพงเมืองจีน) – ออร์โดส
โดยเป็นภาคต่อของบททดสอบสมรรถนะความทนทานของเครื่องยนต์ “ISUZU 1.9 Ddi Blue Power” ครั้งแรกของโลกที่จัดขึ้นเมื่อปลายปี พ.ศ. 2558 ที่สุดแห่งแนวคิดการทดสอบสุดหฤโหดที่ไม่มีใครกล้าทำมาก่อนคือ วิ่งต่อเนื่อง ทั้งวัน! ทั้งคืน! โดยไม่ดับเครื่องยนต์ผ่าน 3 ประเทศไทย ลาว และสิ้นสุด ณ เมืองอุรุมชี (Urumqi) เขตปกครองตนเองซินเจียง (Xingjiang) ประเทศจีน บนเส้นทางอันแสนโหด ระยะทาง 5,755 กิโลเมตร สำหรับภารกิจครั้งล่าสุดนี้เพื่อสร้างสถิติใหม่ด้านความทนทานของยอดเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน ISUZU 1.9 Ddi Blue Power ด้วยเส้นทางที่ยาวที่สุดกว่าครั้งก่อนถึง 6,128 กม. ด้วยเวลาเพียง 80 ชั่วโมง โดยไม่ดับเครื่องยนต์ ท้าพิสูจน์ความทนทานทุกสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศ
กลุ่มตรีเพชร โดย นางปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “ในวาระฉลองครบรอบ 60 ปีของการดำเนินธุรกิจอีซูซุในประเทศไทย กลุ่มตรีเพชรได้จัดกิจกรรมพิเศษหลากหลายรูปแบบ และหนึ่งในกิจกรรมนี้คือ การจัด “คาราวาน “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” พิสูจน์ความแกร่ง ประหยัด 6,128 กม. วิ่งทั้งวันทั้งคืนไม่ดับเครื่องยนต์” ซึ่งเป็นบททดสอบสุดหฤโหดที่ยังไม่มีผู้ใดกล้าทำมาก่อนนอกจากอีซูซุ โดยได้เคยจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเป็นครั้งแรกในโลกเมื่อปลายปี พ.ศ.2558 ระยะทาง 5,755 กม. ไทย-ลาว-จีน (อุรุมชี) สำหรับการเปิดตัวรถปิกอัพ “ISUZU D-MAX Blue Power” และ “เครื่องยนต์ ISUZU 1.9 Ddi Blue Power นวัตกรรมเปลี่ยนโลก!” ซึ่งตอกย้ำความมั่นใจในประสิทธิภาพด้านความแข็งแกร่งทนทานของเครื่องยนต์ที่เรียกได้ว่า “จิ๋วแต่เจ๋ง” ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นความสำเร็จของการเดินทางในปีนี้ ซึ่งเป็นภาคต่อของบททดสอบแรกจึงต้องท้าทายมากยิ่งขึ้น
ด้วยเส้นทางที่แปลกใหม่ และระยะทางที่ยาวไกลกว่าที่เคยจัดมา พิสูจน์โดยรถ ISUZU D-MAX Hi-Lander 1.9 Ddi Blue Power มาตรฐานโรงงาน เกียร์ออโตเมติก และเกียร์ธรรมดา รวม 2 คัน ขับโดยผู้ใช้รถอีซูซุตัวจริง 12 คน ซึ่งได้เข้าร่วมกิจกรรม “อีซูซุไดร์ฟวิ่งคลับ” จัดเป็น 3 ทีมๆ ละ 4 คน ผลัดกันขับทั้งวันทั้งคืนไม่ดับเครื่องยนต์ในเส้นทางรวม 8 ระยะ จากมหานครปักกิ่ง ณ กำแพงเมืองจีน 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก สู่เมืองออร์โดส ที่อยู่ใจกลางเขตปกครองตนเองมองโกเลีย และไปสิ้นสุดที่เมืองซีอาน เมืองแห่งประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ของจีนจึงเป็นสถิติใหม่ที่ช่วยการตอกย้ำความแกร่งทนทานของเครื่องยนต์ ISUZU 1.9 Ddi Blue Power ควบคู่ไปกับความประหยัดน้ำมันในแบบฉบับของอีซูซุ ซึ่งผ่านการประมวลผลโดยใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะ “ ISUZU Insight” เป็นตัวชี้วัด จึงเป็นบทพิสูจน์ที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ หรือกล้าทำมาก่อน นอกจากอีซูซุ ทั้งนี้ตลอดการเดินทางจะมีคณาจารย์สักขีพยานจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือร่วมไปกับรถ ISUZUทั้ง 2 คันนี้ด้วย ISUZU จึงขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกท่านที่เกี่ยวข้องที่ทำให้กิจกรรมครั้งนี้ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา”
“คาราวาน “อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์” พิสูจน์ความแกร่ง ประหยัด 6,128 กม. วิ่งทั้งวันทั้งคืนไม่ดับเครื่องยนต์”ใช้ระยะเวลาในการเดินทางรวม 80 ชั่วโมง แบ่งเส้นทางออกเป็น 8ระยะ ซึ่งนักขับทั้ง 3 ทีม ทีมละ 4 คนต้องสลับผลัดกันขับรถ ISUZU ทั้ง 2 คันตามระยะที่กำหนดแบบทั้งวัน ทั้งคืนตลอดระยะทาง 6,128 กิโลเมตรอันแสนยาวไกล บนเส้นทางหฤโหดที่มากด้วยอุปสรรคนานัปการ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสถิติใหม่แห่งความทนทานและประหยัดน้ำมันให้กับรถปิกอัพ “ISUZU D-MAX 1.9 Ddi Blue Power” แม้ว่าจะต้องฝ่าเส้นทางภูเขาลาดชัน หุบเหว ทะเลทรายและทางฝุ่น พายุฝน ลมกรรโชกแรง อากาศหนาวในยามค่ำคืน และร้อนจัดเกินกว่า 40 องศาในช่วงกลางวัน รวมถึงการจราจรอันคับคั่งของเมืองใหญ่ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทำให้บางเส้นทางใช้งานไม่ได้จึงต้องลงมาวิ่งตามเส้นทางท้องถิ่นที่มิใช่ทางไฮเวย์ แต่ก็สามารถถึงจุดหมาย ณ เมืองซีอานแบบสบายๆ และปลอดภัย
สมาชิกแต่ละทีมผู้ร่วมสร้างสถิติใหม่ของความทนทานและประหยัดน้ำมันของ “ISUZU 1.9 Ddi Blue Power” ครั้งประวัติศาสตร์นี้ต่างผลัดกันเล่าถึงความประทับใจว่า
ทีมที่ 1:
คุณธรรมนูญ ประเสริฐวัฒนากร - คุณสุชาติ วรรณวิทย์ - คุณอาคม มหิธิธรรมธร และ คุณสุรพงษ์ บุญปลูก กล่าวว่า “ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นมาก พอทราบว่าต้องช่วยกันขับถึง 6,128 กิโลเมตร ยิ่งอยากลองว่าจะเป็นอย่างไร ภารกิจจะสำเร็จหรือไม่ เมื่อได้ขับก็สัมผัสได้ถึงสมรรถนะความแรงของรถ ดีมากไม่มีตกเลย เส้นทางที่ขับก็จะเจอกับฝนตกหนักแถมยังขับในช่วงกลางคืน แต่ดีที่อีซูซุมีไฟตัดหมอก จึงช่วยได้เยอะมาก นอกจากนี้ ยังพบกับสภาพอากาศที่ร้อนมากในขณะที่อีกวันกลับเย็นลงอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อรถอีซูซุเลย เรียกว่าพบกับทุกสภาพอากาศจริงๆ”
ทีมที่ 2:
คุณชนะ แสงโพธิ์แก้ว - คุณสุภาพ นิลเพ็ชร์ - คุณจิรพันธ์ กัณทะพงษ์ และคุณอุดม ทรงศรีสวัสดิ์ กล่าวว่า “ทีมที่ 2 ต้องพบกับเส้นทางที่เต็มไปด้วยรถบรรทุก และทางชัน ผ่านภูเขา และทางโค้งมากมาย แต่ก็สามารถเร่งแซงรถบรรทุกได้อย่างสบาย แรงดี ไม่มีตกเลยครับ บางช่วงก็เจอช่วงฝนตกหนักเช่นกัน ทำให้พื้นถนนลื่นและมีร่องน้ำข้างทาง ขับด้วยความเร็ว 110 – 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ไม่มีอาการโคลงแต่อย่างใด สามารถยึดเกาะถนนได้ดีมากๆ มั่นใจมากครับ”
ทีมที่ 3:
คุณเพลิน แจ่มเพ็ชร - คุณศราวุธ แก้วผ่อง - คุณสนธยา พูนมาด และคุณสุเทพ เอี่ยมสำอางค์ กล่าวว่า ทีมที่ 3 พบกับอุปสรรคฝนตกหนัก ถนนขาด ขบวนจึงต้องเลี่ยงจากทางด่วนมาวิ่งในเส้นทางท้องถิ่น ต้องพบกับรถบรรทุกจำนวนมากยาวกว่า 7 กิโลเมตร ต้องแซงลัดเลาะมาเรื่อยๆ เพราะเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกชนกัน สภาพทางลาดชัน เลนสวนกัน ซึ่งรถบรรทุกเยอะมาก เจอเนินสูงชันตลอดทาง แต่รถอีซูซุอัตราเร่งดีมาก สามารถเร่งแซงได้สบายๆ
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com