รถมือสองในความทรงจำ!! ISUZU Cameo / ISUZU VEGA อเนกประสงค์รุ่นบุกเบิก…ประกอบจากโรงงานโดยตรง
- โดย : Autodeft
- 25 มิ.ย. 63 00:00
- 39,996 อ่าน
ในช่วงยุคทศวรรษ 90 ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์หรืออีกชื่อคือตลาดรถยนต์นั่งตรวจการณ์เริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น โดยช่วงนั้นหลังจากการเปิดตัว Suzuki Caribian 3 ประตูตามมาจนถึงรุ่นใหญ่อย่าง Mitsubishi Pajero 5 ประตู ทำให้ผู้ใช้รถในยุคนั้นมีเริ่มมีตัวเลือกหลากหลายขึ้น ทำให้ ตรีเพขรอีซูซุเซลส์ เล็งเห็นตลาดกลุ่มจึงมีการสั่งนำเข้า ISUZU Trooper สอดรับกับนโยบายนำเข้ารถยนต์เสรี
แต่เมื่อเหล่าประชาคม อีซูซุ ยุคนั้น อยากได้รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัดเล็กกว่า ISUZU Trooper แต่อยากได้คุณภาพดีกว่ารถประกอบจากไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ ผู้ดัดแปลงเจ้าดังที่ดัดแปลงรถปิกอัพ ISUZU ให้กลายเป็นสเตชั่นแวก้อนขนาดยาวและปิกอัพ 4 ประตู จึงเป็นที่มาของการแนะนำ เปิดตัวประตูที่ 5 สู่รูปแบบของชีวิต ภายใต้ชื่อ ISUZU Cameo ในรูปแบบรถยนต์อเนกประสงค์ 5 ที่นั่ง โดยเป็นการดัดแปลงมาจากปิกอัพมังกรทอง ISUZU Faster Z 2500Di 90 แรงม้า โดยอีซูซุ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เป็นผู้ประกอบส่วนหน้ารถกะแชสซีส์ ส่งไปให้ทาง บ.ในเครือ อีซูซู ในชื่อ บจก.อินเตอร์เนชั่นแนลออโต้เวิร์ค (IAW) เป็นประกอบตัวถังสมบูรณ์ทั้งคัน
ภายนอกดีไซน์คล้ายกับ ISUZU RODEO หรือ ISUZU MU Wizard อเนกประสงค์ชื่อดังที่ขายในอเมริกา และญี่ปุ่น มาผสมกับความเป็นมังกรทองเข้าด้วยจนลงตัวทุกรายละเอียด ด้วยกระจังหน้าโครเมี่ยมแบบเดียวกับเวอร์ชั่นอเมริกา พร้อมไฟหน้าฮาโลเจนแบบเต็ม เข้มด้วยกันชนหน้าทูโทน (ส่วนบนสีเดียวกับตัวรถ และ ส่วนล่างสีดำเข้ม) ล้ออัลลอยขนาด 14 นิ้ว 6 ก้าน พร้อมยางเรเดียลขนาด 205/75R14 ที่เปิดประตูและขอบไฟท้ายแนวตั้งเป็นแบบโครเมี่ยมและความโดดเด่นของรุ่นนี้จะอยู่ตรงที่ฝาท้าย ที่สามารถเปิดได้ถึง 2 บาน บน-ล่าง
ภายในให้ออพชั่นที่ครบครันในยุคนั้น ทั้ง พวงมาลัยพาวเวอร์ เบาะนั่งผ้าสีเข้มคุณภาพสูงพร้อมพนักพิงศีรษะ 4 จุด ทรงโดนัทกับเข็มขัดนิรภัย 3 จุดคู่หน้าเบาะหลังพับได้ 100 % เครื่องปรับอากาศจากโรงงาน พร้อมกล่องคอนโซลกลางและไฟในห้องโดยสาร รวมถึงวัสดุปูพื้นเป็นแบบพรมทั้งชิ้น
หลังจากนั้นเปิดตัวรุ่นปรับโฉมหรือ Facelift โดยกระจังหน้าใหม่แบบเดียวกับปิกอัพ Spacecab SLX ฉายาหน้าหนู พร้อมไฟหน้าฮาโลเจนใหม่เข้มด้วยกันชนหน้าทูโทน (ส่วนบนสีเดียวกับตัวรถ และ ส่วนล่างสีดำเข้ม) เช่นเดิม ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 14 นิ้ว 5 ก้าน พร้อมยางขนาดเดิม 205/75R14 กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ และเปลี่ยนที่เปิดประตูและขอบไฟท้ายเป็นสีดำทั้งหมดส่วนภายในเปลี่ยนวัสดุหุ้มเบาะเป็นกำมะหยี่และหมอนรองศรีษะแบบเต็ม 4 จุด ด้วยตัวรถที่สั้นกว่าเวอร์ชั่นปิกอัพ Faster Z มังกรทองทำให้ความคล่องตัวมีมากขึ้นด้วย ตัวรถมีขนาดสมส่วนตั้งแต่ความยาว 4,480 มม. ความกว้าง 1,690 มม. ความสูง 1,595 มม. ฐานล้อ 2,760 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 190 มม. น้ำหนักรถ 1,580 กก. และความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร
เครื่องยนต์กลไกของ ISUZU Cameo ยกชุดมาจากเวอร์ชั่นปิกอัพ ISUZU Faster Z มังกรทองกับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 2.5 ลิตร รุ่น 4JA1 Direct Injection ทำงานด้วยระบบแม่ปั้มนำมันเชื้อเพลิงแบบ VE ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 2,499 ซีซี ขนาดความโตกระบอกสูบ/ระยะชัก 93/92 มม. ให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้า ที่ 4,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 172 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด รุ่น MSG5K ซึ่งเครื่องยนต์ดังกล่าวได้รับการตอบรับจากเหล่าประชาคมอีซูซุว่าเป็นเครื่องยนต์ที่ อึดถึกทนที่สุด ประหยัดน้ำมันที่สุด โดยทำงานด้วยระบบโซ่ซึ่งอาจทำให้เสียงเครื่องยนต์ดังตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอย ก็ตาม
ระบบช่วงล่างให้ความนุ่มนวลด้วยช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมทอร์ชั่นบาร์และเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบแหนบทำจากวัสดุเหล็กล้าพร้อมโช้คอัพไฮดรอลิคทำงาน 2 จังหวะ ที่ให้ความนุ่มนวลแบบรถเก๋ง และพวงมาลัยพาวเวอร์แบบลูกปืนหมุนวน โดยราคาจำหน่ายในยุคนั้นเริ่มต้นที่ 398,000 -500,000 กว่าบาท ขายตั้งแต่ปี 1993-1995 และในช่วงปี 1995 การคิดภาษีสรรพสามิตในยุคนั้น ทำให้รถยนต์รุ่นนี้ต้องจำหน่ายในราคาที่สูงขึ้นถึง 7-8 แสนบาท ทำให้ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ตัดสินใจหยุดการจำหน่าย ISUZU Cameo ไปในที่สุด
3 ปีให้หลัง (ปี 1998) อีซูซุ เปิดตัวปิกอัพ ISUZU Golden Power ดีไซน์โค้งมนใหม่หมด และช่วงนั้น ISUZU Trooper และ ปิกอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ ISUZU Rodeo ยังจำหน่ายแค่สองรุ่น ทำให้ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ตัดสินใจนำ ISUZU Cameo กลับมาปัดฝุ่นอีกครั้ง เพื่อมาอุดช่วงว่างของรุ่น Trooper และ Rodeo ภายใต้ชื่อใหม่ ISUZU VEGA
ISUZU VEGA ยังคงดีไซน์เดียวกับ ISUZU Cameo แต่ครั้งนี้เปลี่ยนบุคลิกกลายเป็นรถยนต์ตรวจการณ์ SUV ขับเคลื่อน 4 ล้อประกอบในประเทศจากโรงงานอีซูซุ ด้านหน้าดีไซน์คล้ายกับปิกอัพ ISUZU Golden Power ตั้งแต่กระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟหน้าฮาโลเจนแบบเต็ม (เปลี่ยนมาเป็นแบบตราเพชรมัลติรีเฟลกเตอร์ ตามยุค ISUZU Dragon Eyes) เข้มด้วยกันชนหน้าทูโทน (ส่วนบนสีเดียวกับตัวรถ และ ส่วนล่างสีดำเข้ม) พร้อมการ์ดเสริมกันชนหน้า โป่งล้อหน้าซ้าย-ขวาออกแบบใหม่รับกับดีไซน์โค้งพร้อมไฟเลี้ยวซ้าย-ขวามุมบังโคลนหน้า เสาอากาศวิทยุ พร้อมชุดแต่งโครเมี่ยมแพ็คเกจที่กระจกมองข้าง กับ ที่เปิดประตู ล้ออัลลอยลายพิเศษขนาด 15 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/70 R15 ยางกันโคลนขึ้นรูป 4 ด้าน และรุ่นนี้ยังเหมือน ISUZU Cameo ด้วยฝาท้ายที่สามารถเปิดได้ถึง 2 บาน บน-ล่างแต่สำหรับ ISUZU VEGA อัพเกรดความสบายมากขึ้นด้วยสวิตช์เปิดฝาท้ายจากภายใน พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ติดตั้งที่กระจกฝาบน พร้อมยางอะไหล่ห้อยท้ายแบบสวิงพร้อมผ้าหุ้มครอบยางอะไหล่แบบไวนิล ติดตั้งที่ปัดน้ำฝนด้านหลังและกันชนหลังสีเดียวกับตัวรถ
ภายในยกดีไซน์จากปิกอัพรุ่น Golden Power/ Dragon Eyes มาตั้งแต่แผงคอนโซลหน้า แผงประตูด้านหน้ามาทั้งชุด พร้อมอัพเกรดความสะดวกสบายมากขึ้น ตั้งแต่ พวงมาลัยพาวเวอร์ 4 ก้าน หุ้มหนังปรับสูง-ต่ำได้ สวิตช์กระจกมองข้างปรับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมสวิตช์เปิด-ปิดฝาท้าย เครื่องปรับอากาศ วิทยุ-เทปพร้อมลำโพง 4 จุด จาก Pioneer กล่องคอนโซลกลางพร้อมเบรกมือคันโยกและที่วางแก้วในตั้ว เบาะนั่งกำมหยี่หุ้มทั้งแผงพร้อมพนักพิงศีรษะ 4 จุด กับเข็มขัดนิรภัย 3 จุด 4 ตำแหน่งและ 2 จุด กลางผู้โดยสารตอนหลัง โดยเบาะหลังสามารถพับได้แบบ 60/40 รวมถึงวัสดุปูพื้นเป็นแบบพรมทั้งชิ้น และหุ้มหลังคาแบบผ้าขึ้นรูป
หลังจากนั้นต้นปี 2000 มีการปรับโฉมอีกครั้ง โดยปรับหน้าตาใหม่แบบเดียวกับปิกอัพ ISUZU Super Dragon Eyes ด้วยไฟหน้าใหม่แบบ Xenon HID ที่ส่องสว่างกว่ารุ่นเดิม พร้อมกระจังหน้าใหม่ กันชนหน้าใหม่สีเดียวกับตัวรถขึ้นรูปชิ้นเดียว พร้อมไฟตัดหมอกหน้าและเพิ่มบันไดข้าง พร้อมออพชั่นจากเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ทั้ง เสาอากาศวิทยุ พร้อมชุดแต่งโครเมี่ยมแพ็คเกจที่กระจกมองข้าง กับ ที่เปิดประตู ล้ออัลลอยลายพิเศษขนาด 15 นิ้ว ยางกันโคลนขึ้นรูป 4 ด้าน ฝาท้ายเปิดได้ถึง 2 บาน บน-ล่าง พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ติดตั้งที่กระจกฝาบน พร้อมยางอะไหล่ห้อยท้ายแบบสวิง พร้อมที่ปัดน้ำฝนด้านหลังและกันชนหลังสีเดียวกับตัวรถ ภายในคงเดิมแต่ปรับใหม่ตั้งแต่กล่องคอนโซลกลางพร้อมช่องเสียบอุปกรณ์เสริมและไฟส่องแผนที่
ตัวรถมีขนาดสมส่วนตั้งแต่ความยาว 4,730 มม. ความกว้าง 1,690 มม. ความสูง 1,660 มม. ฐานล้อ 2,760 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 220 หรือ 230 มม. น้ำหนักรถ 1,840 กก. และความจุถังน้ำมัน 83 ลิตร พร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร รหัส 4JB1-T Direct Injection ทำงานด้วยระบบแม่ปั้มนำมันเชื้อเพลิงแบบ VE ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 2,771 ซีซี ขนาดความโตกระบอกสูบ/ระยะชัก 93/102 มม. ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,800 รอบ/นาที
จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและยังมีเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมโอเวอร์ไดร์ฟให้เลือก และขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Part-Time 4WD กับเฟืองท้าย Limited Slip และเพิ่ม Shift-on-the-fly โดยเปลี่ยนจากระบบขับเคลื่อน 2H เป็น 4H โดยไม่ต้องหยุดรถในความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. ในรุ่นปรับโฉมปี 2000 ระบบช่วงล่างให้ความนุ่มนวลด้วยช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมทอร์ชั่นบาร์และเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบแหนบทำจากวัสดุเหล็กล้าพร้อมโช้คอัพแก๊สทั้งหน้าและหลัง กับพวงมาลัยพาวเวอร์แบบลูกปืนหมุนวนโดยราคาจำหน่ายอยู่ที่ 9 แสนปลายๆถึงล้านต้นๆ
หลังจากนั้นปลายปี 2000 เป็นยุคเดียวกันกับ ISUZU Dragon Power มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่กับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ Direct Injection รหัส 4JH1-T 3.0 ลิตร ฉีดจ่ายน้ำมันด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมด้วยกล่องสมองกล ECU 16 บิต ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 2,999 ซีซี ขนาดความโตกระบอกสูบ/ระยะชัก 95.4/104.9 มม. ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที
จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและยังมีเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด พร้อมโอเวอร์ไดร์ฟให้เลือกเช่นเดิม และขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Part-Time 4WD Shift-on-the-fly โดยเปลี่ยนจากระบบขับเคลื่อน 2H เป็น 4H โดยไม่ต้องหยุดรถในความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. กับเฟืองท้าย Limited Slip ระบบช่วงล่างให้ความนุ่มนวลด้วยช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมทอร์ชั่นบาร์และเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบแหนบทำจากวัสดุเหล็กล้าพร้อมโช้คอัพแก๊สทั้งหน้าและหลัง พัฒนาให้มีความนุ่มนวลในทางออนโรดและหนึบในทางออฟโรดในชื่อช่วงล่างว่า Super Aussie Suspension ตัวรถมีขนาดเท่าเดิมแต่ด้วยได้เครื่องยนต์ใหม่เป็น 3.0 ลิตร ส่งผลให้น้ำหนักรถเพิ่มขึ้นเป็น 1,835 กับ 1,875 กก.
หน้าตาหล่อหรูด้วยกระจังหน้าแนวตั้งซี่ๆแบบโครเมี่ยมพร้อมไฟหน้าใหม่แบบ Xenon HID ที่ส่องสว่างกว่ารุ่นเดิม กันชนหน้าใหม่สีเดียวกับตัวรถขึ้นรูปชิ้นเดียวเสริมด้วยการ์ดกันชนหน้าขนาดใหญ่พร้อมไฟตัดหมอกหน้าทรงกลม บันไดข้าง ฝาครอบยางไหล่รถ และล้ออัลลอยลายใหม่ 15 นิ้ว พร้อมยาง 265/70 R15 และกาบข้างประตูใหม่ ภายในคงเดิมแต่เพิ่มมาตรวัดความเร็วแบบพื้นหลังสีเงินเมทาลิคพร้อมไฟเรืองแสงสีฟ้าและในปี 2001 มีการเผยรุ่นปรับปรุงอีกครั้ง ที่งานนี้เพิ่มสีทูโทน พร้อมแผงคอนโซลหน้าใหม่แบบสีเงินด้านกับกระจังหน้าแนวตั้งซี่ๆแบบสีทูโทนโครเมี่ยม และจำหน่ายมายาวนานจนปี 2004 เป็นอันสิ้นสุดยนตกรรรม เอสยูวี ขนานแท้ในชื่อ ISUZU VEGA โดยรับช่วงต่อให้ ISUZU MU-7 ทำตลาดต่อไปในปีเดียวกันจนถึงปี 2013 และยังเป็นต้นแบบให้กับ ISUZU MU-X ขายดีจนถึงปัจจุบัน
แฟนๆเหล่าประชาคมอีซูซุ หรือ คนที่สนใจจะซื้อเก็บไว้ใช้งานหรือสะสม มีจำนวนรถมือสองอยู่พอสมควร โดยสภาพรถมีแบบเดิมๆที่ยังรักษาและบางคันเอาไปแต่งยกสูงลุยๆในแบบออฟฟโรด โดยปัญหาประจำของ ISUZU Cameo กับ ISUZU VEGA ส่วนมากจะเจอแต่ปัญหาเล็กๆน้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องซีลที่กระจกหลังที่อาจปิดไม่สนิท อาจทำให้มีเสียงดังกึกๆตอนวิ่งถนนไม่เรียบ เรื่องของกล่องควบคุม ECM ในรุ่น VEGA เครื่อง 3.0 ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ รวมถึงเสียงเครื่องยนต์ที่ดังสนั่นลั่นบ้าน แต่ก็แลกมาด้วยกับความนุ่มนวของช่วงล่างและประหยัดน้ำมันถ้ารุ่น Cameo จะมีภาษีตรงที่เป็นเครื่องที่ทนทาน อึด ที่สุด จากเครื่องยนต์มังกรทอง 90 แรงม้า ทำให้อัตราสิ้นเปลืองทำได้ 14-15 กม./ลิตร ส่วน VEGA ทั้ง 2.8 และ 3.0 อาจกินน้ำมันพอสมควรเนื่องด้วยน้ำหนักรถและชุดเกียร์ฝากขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ติดมา
ด้านอะไหล่สบายหายห่วงด้วยชื่อ ISUZU ที่อยู่กับคนไทยมากว่า 60 ปี สามารถใช้อะไหล่ร่วมกับปิกอัพ Faster Z มังกรทอง ไปจนถึงรุ่น Dragon Eyes และ Dragon Power ได้สบายๆเรียกว่ามีเกือบทุกชิ้นทั้งอะไหล่แท้และเทียบคุณภาพสูง และด้วยราคารถมือสองสำหรับรุ่น Cameo ปี 1993-1995 จะเริ่มต้นที่ 85,000-150,000 บาท ส่วรนรุ่น VEGA ปี 1998-2004 เริ่มต้น 150,000- 280,000 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพรถเป็นหลัก ทำให้คนเล่นรถสนใจที่จะซื้อมาครอบครองกันสำหรับ ISUZU Cameo กับ ISUZU VEGA
บทความ โดย นายเต้ย
ที่มาข้อมูล บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
ที่มาภาพ grandprixphotolike, อีซูซุอึ่ง่วนไต๋กรุงเทพ
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com