MGC-ASIA ชู Maserati เสริมความแข็งแกร่งครบวงจร หวังเพิ่มรายได้ในปี 2560

หลังจากที่ กลุ่ม มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC-ASIA ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Maserati เพื่อ เสริมภาพลักษณ์ผู้นำด้าน อัลตร้าลัคชัวรี่ส์ เซ็กเมนต์ อย่างเป็นทางการ วันนี้กลุ่ม MGC-ASIA พร้อมแล้วที่จะเสริมความแข็งแกร่งและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพองค์กรเดินหน้าแข่งขันในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

โดย ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่ม บริษัท มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (MGC-ASIA) เปิดเผยว่า ในปี 2560 บริษัทฯ ได้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจให้ชัดเจน โดยแยกออกเป็น 8 กลุ่มธุรกิจหลัก เติมเต็มศักยภาพในการเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจสินค้าระดับ Luxury Segment ให้สมบูรณ์ โดยได้กำหนดเป้าหมายวิสัยทัศน์ปี 2020 หรือ Vision 2020 ในการที่จะเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ในประเทศไทยและอาเซียน บริษัทฯได้วางรากฐานของการเติบโตในธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ในทุกๆด้าน เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ในปี 2559 ที่ผ่านมา แม้จะมีปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ แต่ตัวเลขรายได้รวมของกลุ่มบริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จที่ระดับ 20,000 ล้านบาท ด้วยยอดจำหน่ายรถยนต์รวมกว่า 8,500 คัน

สำหรับปี 2560 นี้ บริษัทได้ตั้งเป้าการเติบโตของกลุ่มธุรกิจรถยนต์ใหม่ของบริษัทไว้ที่ 10,000 คัน ด้วยอัตราการเติบโตที่  15% ”, ธุรกิจศูนย์บริการหลังการขาย ตั้งเป้าการบริการไว้กว่า 225,000 คัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนด้านต่างๆ ในแต่ละกลุ่มและประเภทธุรกิจเริ่มต้นด้วย

- กลุ่มธุรกิจรถใหม่  ปีนี้เพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่นั่นคือ ยนตรกรรม Ultra Luxury อิตาเลียน สปอร์ตคาร์ ในชื่อ Maserati ในการเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ในประเทศไทยและอาเซียนด้วยเป้ารายได้ของกลุ่มสู่ระดับ 50,000 ล้านบาท โดยปีนี้เตรียมเปิดตัวรถ Maserati Lavante SUV รุ่นใหม่ล่าสุด ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 7.99 ล้านบาท เสริมไลน์อัพ ให้มีทางเลือกมากขึ้น จากเดิมจะมีเพียงรุ่นซีดานหรูรุ่น Ghibli, Quattroporte กับรถสปอร์ตซูเปอร์คาร์อย่างรุ่น Gran Cabrio และ Gran Turismo Sport

รวมถึงได้ลงทุนก่อสร้างโชว์รูม และศูนย์บริการมาตรฐานเพื่อรองรับลูกค้า ผ่านใจกลางธุรกิจบริเวณสุขุมวิท 26 ที่เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ อะไหล่ และเครื่องมือที่ทันสมัย ตลอดจนบุคลากรที่มีประสบการณ์และได้ผ่านการฝึกอบรมจาก ประเทศอิตาลี นอกเหนือจากนั้น เพื่อสร้างความมั่นใจสูงสุดให้กับลูกค้า ด้วยการมอบโปรแกรมการรับประกัน และฟรีค่าบำรุงรักษา (Warranty & Free Maintenance) ตลอดระยะเวลา 3 ปีหรือ 60,000 กิโลเมตร

ด้านแบรนด์อื่นๆในหมวด Ultra Luxury อย่าง Rolls-Royce Motor Cars Bangkok กับ Aston Martin ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ จากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆโดยได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า และเริ่มส่งมอบแล้ว รวมถึง โดยธุรกิจทั้ง 3 แบรนด์จะจัดกิจกรรมและสนับสนุนธุรกิจเรือยอร์ชหรู Azimut  ภายใต้ เอ็มจีซี-มารีน เอเชีย อย่างต่อเนื่อง

ส่วนธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ใหม่ เริ่มจาก BMW และ MINI ในนาม มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ทั้ง 7 สาขา ได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการให้บริการหลังการขายควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเพิ่มช่องทางในการนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้าซ่อมผ่านทางแอพพลิเคชั่นมือถือ อันเป็นผลทำให้ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตขึ้น 10% ด้านแบรนด์ Honda ในนามพัฒนาการ ฮอนด้า ออโตโมบิล และซัมมิท ฮอนด้า ออโตโมบิล ก็ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี จากการทำการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายของกลุ่มมีมากกว่า 3,100 คันในปีนี้ และ Nissan เยาวราช ภายใต้การเป็นตัวแทนจำหน่าย ในนามโยโกฮามา มอเตอร์ ซึ่งครบรอบการเปิดดำเนินการได้ 2 ปีนั้น มีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ พร้อมตั้งเป้าจำหน่ายเพิ่มขึ้น 10-15%ในปีนี้

- กลุ่มธุรกิจรถยนต์มือสอง ภายใต้แบรนด์มาสเตอร์ เซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์, บีเอ็มดับเบิลยู พรีเมี่ยม เซเลคชั่น, มินิเน็กซ์ และฮอนด้าเซอร์ทิฟายด์ ยูสคาร์  สามารถทำยอดจำหน่ายทะลุเป้าที่กำหนดไว้ โดยมีการส่งมอบรถพร้อมรับประกันไปแล้วกว่า 2,000 คันในปี 2559 โดยตั้งเป้าจำหน่ายกลุ่มเพิ่มขึ้น 10% ในปี 2560

- กลุ่มธุรกิจรถเช่า ภายใต้ มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยฟลีทรถกว่า 5,000 คัน ทั้งในส่วนธุรกิจรถเช่าระยะยาว (ฟลีท) โดยมีรายได้เติบโตขึ้น 10% ในส่วนธุรกิจรถเช่าระยะสั้น ภายใต้ซิกท์ ประเทศไทย มีอัตราการเติบโตกว่า 20 % ซึ่งเป็นผลมาจากการยอมรับของกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติที่ให้การยอมรับในการให้บริการมากยิ่งขึ้น รวมถึงธุรกิจบริการพนักงานขับรถ ที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในนาม มาสเตอร์ ไดร์ฟเวอร์ เซอร์วิสเซส ประเทศไทย (MDS) ปีนี้ขยายธุรกิจไปยังอาเซียนโดย มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล และ ซิกท์ ประเทศไทย ที่ได้ทำการขยายสาขาไปยังประเทศมาเลเซียกับประเทศลาว และมีแผนขยายสาขาสู่ประเทศเวียดนาม

- กลุ่มธุรกิจอาฟเตอร์มาร์เก็ต ภายใต้ มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส  (ประเทศไทย) ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรสำหรับรถที่หมดระยะเวลารับประกัน MMS-Bosch Car Service ทำรายได้กว่า 500 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจบริการหลังการขายได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นจากลูกค้า รวมถึงบริษัทและองค์กรชั้นนำเปิดคอร์ปอเรทเครดิต พร้อมมาใช้บริการกว่า 54,000 คันในปีที่ผ่านมา โดยมีฐานลูกค้ากว่า 150,000 ราย ยิ่งไปกว่านั้นจะขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนทั้งในส่วนของศูนย์เซอร์วิส และศูนย์การกระจายสินค้าไปยังภูมิภาค

- กลุ่มธุรกิจค้าส่งและเครื่องมือศูนย์บริการ ได้มีการขยายเครือข่ายค้าส่งสู่ภูมิภาค ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้แบรนด์บ๊อช และอะไหล่อาฟเตอร์มาร์เก็ตชั้นนำที่ทางบริษัทเป็นตัวแทนนำเข้า โดยมีร้านค้าอะไหล่ขายส่งและศูนย์บริการซ่อมรถทั่วไปเป็นลูกค้ากว่า 1,000 ราย จากการดำเนินธุรกิจมาครบ 7 ปี ประมาณการว่าภายในสิ้นปี 2563 นี้จะสามารถเปิดสาขาได้ทั้งสิ้น ครบ 30 แห่ง ครอบคลุมทั้งในเขตกรุงเทพและต่างจังหวัด รวมถึงขยายเครือข่ายและศูนย์กระจายอะไหล่ครอบคลุมทั่วประเทศในเร็ววันนี้ โดยตั้งเป้าผลประกอบการปีนี้ไว้ที่ระดับ 600 ล้านบาท พร้อมศึกษาลู่ทางการขยายตลาดสู่ประเทศต่างๆในอาเซียน

- กลุ่มธุรกิจให้คำปรึกษาและการบริการด้านประกันภัยครบวงจร ภายใต้ แม็กซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ (MAXI) ผลประกอบการเบี้ยประกันภัยรับกว่า 1,100 ล้านบาท เติบโตกว่า 20% จากปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งศึกษาลู่ทางการรับประกันภัยประเภทต่างๆเพิ่มขึ้น ในปี 2560 โดยตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับปีนี้ที่ระดับ 1,300 ล้านบาท พร้อมเตรียมขยายสาขาสู่จังหวัดภูเก็ต

- กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ในนาม ไอทเวนตี้โฟร์ (i24) ในปี 2560 ทาง i24 มุ่งเน้นแผนงานด้านดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งเต็มรูปแบบทุกแพลทฟอร์ม เพื่อเสริมศักยภาพการให้บริการทุกกลุ่มธุรกิจในเครือเอ็มจีซี-เอเชีย พร้อมทั้งเปิดให้บริการบริษัทฯชั้นนำจากอุตสาหกรรมอื่นๆ และกำลังก้าวสู่การเป็นเซอร์วิสโพรไวเดอร์เต็มรูปแบบที่ได้รับการรับรองจากบริษัทซอฟแวร์ชั้นนำของโลก

- กลุ่มธุรกิจศูนย์ฝึกอบรม ในนาม มาสเตอร์ ออโตโมทีฟ เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ (MAT) นอกจากได้มีการอบรมพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรทางธุรกิจ จัดหลักสูตรฝึกอบรมประเภทต่างๆให้กับบุคลากรและบริษัทชั้นนำภายนอก

และเมกกะโปรเจ็คยักษ์ในรูปแบบ Complex Auto City แห่งแรกในไทยและแห่งแรกในภาคใต้ฝั่งอันดามันและอ่าวไทย ของกลุ่ม MGC-ASIA ในปีนี้ ในชื่อโครงการ MGC-ASIA Autoplex  โดยจะเปิดที่แรกในจังหวัด ภูเก็ต ในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ โดยโครงการดังกล่าวใช้งบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท และยังคงมีแผนลงทุนอย่างต่อเนื่องในปีนี้ด้วยเม็ดเงินกว่า 350 ล้านบาท ประกอบด้วย โชว์รูม Rolls-Royce, Aston Martin, เรือยอร์ช Azimut , BMW และ MINI, รถยนต์มือสอง, ศูนย์ซ่อมสีและตัวถังครบวงจร

ส่วน โครงการ MGC-ASIA Autoplex  หาดใหญ่" ที่ประกอบด้วย โชว์รูม BMW และ MINI, Honda , MMS-Bosch Car Service,ฟลีทรถเช่า, รถยนต์มือสอง , ศูนย์ซ่อมสีและตัวถังครบวงจร  คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้

น่าจับตามองอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มธุรกิจยานยนต์ของคนไทยภายใต้ชื่อ MGC-ASIA และนับเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพไม่แพ้กลุ่มอื่นในภูมิภาคอาเซียน ด้วยกัน

 

 

เรื่องและเรียบเรียงโดย สุกิจ เลิศธนะแสงธรรม (นายเต้ย)

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com