ชวนสัมผัสใกล้ชิด!! รถยนต์ FORD ในงาน Motor Expo 2020 พร้อมทดลองขับ

เริ่มต้นขึ้นแล้วกับงาน Motor Expo 2020 ตั้งแต่วันนี้ ถึง วันที่ 13 ธันวาคมนี้ ค่ายรถยนต์ฟอร์ดเรียกได้ว่ายกทัพรถยนต์ในค่ายมาจัดแสดงกันแบบแน่นบูธในงาน ไม่ว่าจะเป็น ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุด ในครั้งนี้ทีมงานของเราจะพาทุกท่านไปสัมผัสคันจริง พร้อมทดลองขับกันในงาน โดยทุกคนที่สนใจสามารถมาชมรถคันจริง และติดต่อทดลองขับในงานกันได้เลย

ที่บูธรถยนต์ฟอร์ดในงาน Motor Expo 2020 ครั้งนี้ ยังได้นำเอารถแข่งจากทีมฟอร์ด ไทยแลนด์ เรสซิ่ง ที่เพิ่งคว้า 2 ถ้วยรางวัลจากการแข่งขันไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรีส์ มาจอดโชว์ตัวให้ได้ชมแบบใกล้ชิด รวมไปถึง ฟอร์ด มัสแตง รุ่นพิเศษสุดเท่ มาให้ทุกคนได้ยลโฉมคันจริงกันในงาน และในงานครั้งนี้ทางฟอร์ด ยังได้จัดเต็มข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับรถรุ่นใหม่ทุกรุ่นภายในงาน และที่ผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ

ในวันนี้ทีมงานจะได้พาไปสัมผัสกับ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ที่โดดเด่นด้วยรูปโฉมใหม่ทั้งไลน์อัพ สะท้อนตัวตนที่แตกต่างของผู้ขับขี่ รองรับทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย

เริ่มต้นกับรถกระบะ Ford Ranger XLT ใหม่ รุ่นยอดนิยม ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่สุดโฉบเฉี่ยวดุดัน ด้วยกระจังหน้าสไตล์สปอร์ตสีดำเงาตกแต่งด้วยโครเมียม พร้อมระบบความปลอดภัยที่ถูกติดตั้งเพิ่มเข้ามาเป็นมาตรฐาน ที่ในงานครั้งนี้ทางฟอร์ดก็ได้จัดเตรียมรถไว้พร้อมให้ทุกคนที่สนใจ ได้มีโอกาสสัมผัสและทดลองขับคันจริงกันในงาน

โดยในการขับทดสอบในงานครั้งนี้ ทุกท่านจะได้สัมผัสกับฟิลลิ่งการขับขี่ในสถานีจำลองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทดลองขับในช่วงการควบคุมรถในช่วงความเร็วต่ำ ลองใช้งานอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในต่างๆ การทดสอบสมรรถนะของตัวรถ กับการวิ่งในสถานีสลาลม สัมผัสฟิลลิ่งของตัวรถกับความสามารถในการควบคุมได้อย่างแม่นยำและง่ายดาย พวงมาลัยไฟฟ้าที่มีน้ำหนักเบาควบคุมง่าย ช่วงล่างการตอบสนองเมื่อต้องควบคุมรถเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาต่อเนื่องสลับไปมา อาการของตัวรถที่นิ่งก็บ่งบอกได้ถึงช่วงล่างที่เหนือชั้น

จนไปถึงช่วงสั้นๆ ที่ให้เราได้ทดลองอัตราเร่งการออกตัว กับขุมกำลังเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน Duratroq TDCI 2.2 ลิตร (รหัส P4AT) High Power ที่แรงสุด 160 แรงม้า แรงบิด 385 นิวตันเมตร มีให้เลือกทั้งระบบเกียร์ธรรมดา หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดที่ทีมงานได้ทดลองขับ ความรู้สึกที่ได้นั้นคล่องตัวมากทีเดียว

ก่อนที่จะหมดรอบการขับทดสอบ ทีมงานก็ได้ลองทดสอบระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HLA) ที่ได้รับการติดตั้งเพิ่มเข้ามา ใน Ford Ranger XLT ใหม่ ก็สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจได้อย่างมากในการขับขี่ ในสถานการณ์จริงอย่างการขึ้นลานจอดรถหรือจอดติดอยู่กลางเนินทางขึ้นสะพาน เป็นต้น ทำให้หมดกังวลได้เลยกับการที่รถจะไหลถอยหลัง คุณสามารถที่จะยกเท้าออกจากเบรก และย้ายไปเหยียบคันเร่งได้แบบไม่ต้องกลัวว่ารถจะไหล โดยระบบจะเข้ามาช่วยเบรกให้รถไม่ไหลลงประมาณ 3 วินาที นั้นเอง

นอกจากนี้ภายในบูธ FORD ยังมี ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค ที่มาพร้อมอุปกรณ์เสริมใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายและตอบโจทย์การใช้ชีวิต อย่างฝาปิดกระบะท้ายควบคุมด้วยไฟฟ้า (Power Roller Shutter) ซึ่งเป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะประเทศไทยที่ติดตั้งอุปกรณ์นี้มาจากโรงงาน และรถกระบะรุ่นย่อยใหม่ล่าสุด ฟอร์ด เรนเจอร์ XL สตรีท ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งฟอร์ด เรนเจอร์ จากทีมฟอร์ด ไทยแลนด์ เรสซิ่ง อีกด้วย

หลังจากที่ได้ทดลองขับ Ford Ranger XLT ใหม่ กันไปแล้ว ทีมงานก็ขอมาลองขับทดสอบกับ Ford Everest 2.0L Bi-Turbo Titanium+ 4x4 A/T กันบ้าง โดย Ford Everest รถเอสยูวีขนาดกลาง ที่มาพร้อมโฉมใหม่ดีไซน์สปอร์ตทั้งไลน์อัพ เด่นด้วยกระจังหน้าใหม่เป็นเอกลักษณ์ ตัวอักษรนูน ‘EVEREST’ บนฝากระโปรงหน้า พร้อมมือจับ กระจกข้าง และล้ออัลลอยใหม่ในรุ่นเทรนด์ โดยฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อัจฉริยะมากมาย และตัวเลือกสีภายนอกใหม่ สีขาว สโนว์ เฟลก ไวท์ เพิร์ล สำหรับรุ่นเทรนด์ ไทเทเนี่ยม และไทเทเนี่ยม พลัส และเพิ่มสีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู ในรุ่นสปอร์ต

ซึ่งในงานครั้งนี้ทางฟอร์ดก็ได้จัดเตรียมรถไว้ให้ได้ทดลองขับกันด้วยเช่นกัน นอกจากสถานีขับทดสอบที่เหมือนกันกับ Ford Ranger XLT ใหม่แล้ว สำหรับ Ford Everest ที่มีระบบความปลอดภัยมากมายและระบบตัวช่วยอัจฉริยะ จึงมีสถานีทดสอบให้ได้ลองใช้งานระบบจริงกับทั้งระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ที่ให้เราเพียงกดปุ่มที่มีรูปพวงมาลัยและตัว P ที่อยู่บริเวณคอนโซลกลาง ระบบจะช่วยหาช่องจอดที่เหมาะสม และถอยรถเข้าจอดโดยอัตโนมัติ โดยที่เราสามารถปล่อยมือออกจากพวงมาลัย และให้ระบบจัดการทุกอย่าง เรามีหน้าที่เพียงแค่ควบคุมเกียร์ และเบรกเท่านั้น

รวมไปถึงระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน ที่เรดาร์และกล้องหน้าจะทำงานร่วมกันเพื่อตรวจจับสัญญาณของคนเดินถนน และยานพาหนะอื่นๆ ระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ ในรูปแบบของเสียงและข้อความ หากระบบประเมินว่าอาจมีความเสี่ยงเกิดขึ้น เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติจะทำงานทันที ซึ่งจากการได้ทดลองใช้ระบบนี้แล้วบอกได้เลยว่าระบบของรถทำงานได้อย่างสมบูรณ์และปลอดภัยไม่ชนกับรถจำลองคันด้านหน้า นับเป็นระบบที่ช่วยเข้ามาเสริมความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างมาก แต่สิ่งสำคัญคือสติและความไม่ประมาทของผู้ขับขี่เป็นสำคัญ

และที่งาน Motor Expo 2020 ครั้งนี้ ทางฟอร์ดก็ยังได้นำเอา ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง อัดแน่นด้วยดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ ด้วยขุมพลังจากเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ ขนาด 2.0 ลิตร ที่ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ส่งมอบกำลังสูงสุด 213 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร พร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่ Terrain Management System ถึง 6 รูปแบบที่ปรับได้ตามสภาพเส้นทาง และเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะมากมาย มาให้สัมผัสและทดลองขับกันในงานอีกด้วยเช่นกัน

รวมไปถึงฟอร์ด มัสแตง รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 55 ปี ที่มาพร้อมกับออปชั่นเสริมเพิ่มเอกลักษณ์ของเจ้าของรถ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ มีวางจำหน่ายในประเทศไทย 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นเครื่องยนต์ 5 ลิตร V8 GT Coupe Performance Pack และรุ่นเครื่องยนต์อีโคบูสต์ 2.3 ลิตร

ที่บูธฟอร์ดในงาน Motor Expo 2020 ครั้งนี้ ยังมาพร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษมากมายภายในงานและที่ตัวแทนจำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ ดังนี้

• ฟอร์ด เรนเจอร์ XL สตรีท มาในราคา 669,000 บาท พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ดาวน์เพียง 25,500 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง

• ฟอร์ด เรนเจอร์ DBL XLT รุ่นเกียร์ธรรมดา ราคาพิเศษช่วงแนะนำ เพียง 799,000 บาท จากราคาปกติ 854,000บาท พิเศษ รับฟรีชุดแต่งแท้จากฟอร์ด มูลค่ากว่า 10,000 บาท และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง

• ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค ราคาพิเศษช่วงแนะนำเริ่มต้นที่เพียง 979,000 บาท จนถึง 1,265,000 บาท ไวลด์แทรค ทุกรุ่นมาพร้อมโปรแกรมการขยายการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. พร้อมฟรีโปรแกรมบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ นาน 4 ปี หรือ 60,000 กม. และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 2 ปี

• ฟอร์ด เอเวอเรสต์ มีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น ด้วยราคาสุดเร้าใจเริ่มต้นเพียง 1,299,000 บาท ถึง 1,799,000 บาท ทุกรุ่นมาพร้อมโปรแกรมขยายการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. รับฟรีชุดอุปกรณ์เสริมไฟฟ้า กล้องหน้า-หลัง พร้อมแท่นชาร์จไร้สายมูลค่ากว่า 10,000 บาท และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง

สามารถดูรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้เว็บไซต์ www.ford.co.th