“กล่อง E85” ประหยัดโดยแท้ หรือ อีกหนึ่งคำหลอกลวง
- โดย : Autodeft
- 11 ก.ย. 56 00:00
- 87,253 อ่าน
ล้วงลึกความจริงกล่อง E85 สรุปใส่แล้วประหยัด หรือแค่ความรู้สึกว่ามันประหยัด
ทุกวันนี้ ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงมากกยิ่งขึ้น ไม่ว่าใครก็อยากที่จะทำให้รถยนต์ของตัวเองประหยัดมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ยังไปถึงจุดหมาย ค่ายรถยนต์หลายเจ้าก็พัฒนารถยนต์ให้มีศักยภาพมากขึ้น และในช่วงหลังๆนี้ ค่ายรถยนต์ชั้นนำ ก็เริ่มมีการใส่เทคโลยีใหม่ๆ เข้ามา โดยเฉพาะความสามารถใช้พลังงานทางเลือกมากถึง 85% หรือแก๊สโซฮอล 85 หรือE85 ก็ล้วนถูกทั้งสิ้น
แนวคิดเรื่องการใช้พลังงานทางเลือกที่เป็นแอลกฮอลล์มากขึ้นมีมานานแล้ว โดยเฉพาะการใช้เชื้อเพลิงที่สกัดจากพืชได้ 100% จะช่วยให้มีราคาถูกลงอย่างมาก ทั้งยังส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกให้มีรายได้มากขึ้น แถมช่วยลดการนำเข้า แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
ด้วยมันมีข้อขำกัดในเรื่องคุณสมบัติของเชื้อเพลิงจากพืช ที่มาในรูปแอลกอออลล์ หรือ ที่เราเรียกจนชินปากว่า “เอทานอล” ซึ่ง เอทานอลเอง มีคุณสมบัติกัดกร่อนสูงกว่าเบนซินทั่วไป ทำให้ในการใช้น้ำมันหรือเชื้อเพลิงที่เป็นเอทานอล จะต้องมีการปรับปต่ง หรือดัดแปลงให้เหมาะสมก่อน
หลายคนรู้ดีว่า รถยนต์ที่จะใช้ เอทานอล หรือ มีความสามารถในารใช้พลังงานทางเลือก E85 ได้นั้น จะต้องมีการดัดแปลง ให้เหมาะสม แต่ที่หลายคนไม่รู้ คงไม่พ้นว่า มันต้องดัดแปลงอะไรบ้าง ทำให้เกิดบรรดาพ่อค้าหัวใสที่ใช้ความไม่รู้มาเป็นเครื่องจูงใจ โดยเฉพาะคนที่ต้องการจะประหยัด แต่ไม่อยากเสียเงินมากมาย ว่าพวกเขามีทางเลือก ยืนยาหอมของคำว่า E85 มาให้ ด้วยราคาที่ถูกกว่า น้ำมันแก็สโซฮอลล์ 95 ถึง 16.15 บาทในปัจจุบัน หรืออย่างน้อยก็ยังถูกกว่าน้ำมัน E20 ที่รถรุ่นใหม่ในปัจจุบันสามารถเติมใช้งานได้ถึง 11.2 บาท
ไม่เพียงเท่านี้ ด้วยคุณสมบัติบางประการของน้ำมัน E85 โดยเฉพาะค่าออกเทน (Ron) ที่สูงถึง 105 ทำให้เป็นที่ล่อตาล่อใจไม่เพียงคนที่อยากประหยัดเท่านั้น แต่รวมถึงบรรดาวัยรุ่นนักซิ่งทั้งหลายที่มองว่า เพียงเติมก็แรงแถมประหยัด ..กล่อง E85 เลยอยู่ในดวงใจของพวกเขาไปโดยปริยาย
“กล่อง E85” ...เป็นทับศัพท์ที่พ่อค้าแม่ขายทางด้านยานยนต์ นำมาใช้ในการพูดถึงระบบประมวลผลการสั่งจ่ายน้ำมัน ควบคุมการทำงานของระบบหัวฉีด ให้เป็นไปตามสภาพการทำงานที่เหมาะสม โดยจากที่ได้สอบถามไปยังผู้ค้ารายหนึ่ง ได้อธิบายว่า กล่องนี้ใช้ในการควบคุมเฉพาะการสั่งจ่ายน้ำมันเท่านั้น ไม่มีการดัดแปลงในส่วนของหน่อยประมวลผลกลาง หรือ ECU เพิ่มเติม และที่สำคัญมันไม่ทำให้รถขาดประกันอย่างแน่นอน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร เนื่องจากสามารถถอดออกได้ ถ้าต้องเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการ
ด้วยกล่องที่ว่านี้ จะเข้ามารับในประมวลผลเฉพาะการสั่งจ่ายน้ำมัน โดยพ่วงจากชุดสายไฟหัวฉีดเดิม แล้วประมวลค่าใหม่ ก่อนส่งกลับคืนไปยังหัวฉีด ทำให้มีอัตราส่วนผสม ระหว่างน้ำมันและอากาศที่ถูกต้อง ตามที่ควรจะเป็น ซึ่งหลายผู้ค้ามักจะพูดเป็นเสียงเดียวกัน จากที่สอบถามไปยังหลายเจ้า ว่า นอกจากกล่องแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องอัพเกรดระบบอื่นๆ เพิ่มเติม นอกจากซื้อกล่องติดตั้ง สงนราคา 8000-9000 บาทแล้วแต่ร้าน แล้วแทบจะใช้งานได้ทันที
ทั้งที่ความจริงรถยนต์ที่มาจากโรงงาน ซึ่งสามารถใช้น้ำมัน E85 ได้นั้น ต้องมีการทำหลายสิ่งหลายอย่างเพิ่มเติมมากกว่าแค่การประมวลผลเรืองการสั่งจ่ายน้ำมัน
การติดตั้งกล่องเพื่อประมวลผลเพิ่มเติมในการยกหัวฉีด เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการพัฒนารถยนต์ให้มีความสามารถในการใช้ E85 หรือ ที่ในวงการวิศวกรรมยานยนต์เรียกว่า Flex Fuel Vehicle หรือ FFV โดยการพัฒนาส่วนใหญ่นอกจาก การทำให้เครื่องยนต์มีอัตราส่วนผสมที่ถูกต้องแล้ว ยังต้องดูรองรับของระบบสั่งจ่ายน้ำมีนไปพร้อมกันด้วย
ระบบสั่งจ่ายน้ำมันที่ว่านี้ไม่ได้หมายถึงแค่เพียงท่อยางน้ำมันเท่านั้น และหลายคนก็มีความเชื่อผิดๆว่า ท่อยางน้ำมันที่เป็นวัสดุสังเคราะห์จะทนการกัดกร่อนของ E85 ได้ ทั้งที่จะต้องทีการตรวจสอบให้ดีก่อนว่า ท่อยางที่รถใช้อยู่รองรับหรือไม่ ถ้าไม่เมื่อผ่านนานวันไปก็จะมีการรั่วหรือฉีดขาดได้จากคุณสมบัติของน้ำมัน E85
แม้บางร้านจะขายพ่วงลดความกังวลใจลูกค้าวด้วยท่อน้ำมันที่สามารถทนการกัดกร่อนของ E85 แต่ ระบบจ่ายน้ำมันก็ยังมีหลายอย่างที่ต้องทำ
เริ่มจาก ถังน้ำมันเองก็ต้องทนการกัดกร่อนได้ เช่นเดียว ตัวปั้มน้ำมันเชื้อเพลิงเอง ชุดลูกลอย กรองเบนซิน ไปถึงชุดหัวฉีด ที่เครื่องยนต์เอง ซึ่งโดยทั่วไปด้วยความหนาแน่นของน้ำมันแก๊สโซฮอลหรือเอทานอลที่น้อยกว่า อาจจะต้องมีการขยายขนาดหัวฉีดเพื่อให้รองรับกับการสั่งจ่าย โดยปกติตามหลักการทางวิศวรรมควรจะใช้งานหรือยกที่ 80% และยังรวมถึงการรองรับของชุดหัวฉีดด้วย เนื่องจาก หัวฉีดที่ไม่ออกแบบมาให้ทนแอลกอฮอลล์อาจจะรั่วได้ในภายภาคหน้า หากไม่ได้ผลิตให้สามารถใช้ได้กับน้ำมันที่มีการกัดกร่อนสูงหรือเอทานอล แม้ปัจจุบันรถยนต์แทบทุกรุ่น จะรองรับพลังงานทางเลือก E20 แล้วก็ตาม
นั่นหมายถึงถ้าทำรถให้ใช้ E85 อย่างถูกต้อง ก็ต้องทำทั้งระบบ และการจูนก็ต้องสัมพันธ์กันกับการสั่งจ่ายน้ำมันเข้าไปสู่ห้องเผาไหม้ ให้มีอัตราส่วนที่ถูกต้อง ที่สำคัญการสั่งจ่ายหรือยกหัวฉีดเต็มอัตรา 100% จะทำให้มีการสึกหรอเร็วขึ้นต่อหัวฉีดและอาจจะได้ ส่วนผสมไม่ถูกต้องตามที่ควรจะเป็น และ ส่วนผสมที่บางเกินไป อาจจะส่งผลต่อการเสียดสีของเครื่องยนต์ยนต์ ทำให้มีความร้อนสูงขึ้นตามลำดับ เสียงต่อเครื่องยนต์พังได้
อาจจะต้องยอมรับว่า ในแง่ของการพัฒนารถยนต์รองรับน้ำมัน E85 ว่ามันกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในบ้านเร าด้วยคนไทย เห็นอะไรดีเซฟเงินในกระเป๋า ก็เดินหน้าเข้าใส่ แต่วันนี้ได้เวลาที่คุณต้องศึกษาให้ดี ก่อนเสียเงินว่า มันคุ้มค่าที่จะแลกกันหรือไม่
เรื่อง โดย ดินน้ำมัน
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com