Deft Scoop : 5 SUV ที่ถูกลืมไปจากชาวไทย……..ยังมีขายอยู่หรือ?

  • โดย : Autodeft
  • 16 ส.ค. 59 00:00
  • 20,810 อ่าน

ถ้าจะกล่าวถึงกลุ่มรถอเนกประสงค์ SUV ที่จำหน่าย มีหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเล็ก กลาง ใหญ่ ล้วนมีจุดประสงค์เดียวกันคือขับเคลื่อนความสุขและตอบโจทย์การใช้งานได้หลายรูปแบบ สนองความต้องการให้กับกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน รวมถึงกลุ่มรักการผจญภัยที่ยังถวิลหารถประเภทนี้อยู่

แต่สำหรับเมืองไทยนี้ บรรดาผู้เล่นจากหลายประเทศ ต่างช่วงชิงความได้เปรียบรวมถึงอยากแบ่งเค้กในตลาดรถกลุ่มนี้ด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ และการจากทำตลาดกลับพบว่ากลุ่มรถ SUV มีทั้งดาวรุ่งประสบความสำเร็จ และดาวร่วงถึงขั้นยุติขายหรือขายกันต่อไป แต่ด้วยการประชาสัมพันธ์จากค่ายรถที่อาจโปรโมทน้อยทำให้ไม่สามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่สนใจได้ โดยได้นำมาสรุปให้ แต่จะมีรุ่นรายบ้างนั้น เริ่มจาก

Nissan X-Trail

1. Nissan X-Trail 2.5

Compact SUV จากค่ายเพื่อนที่แสนดี ที่ทำตลาดมาเกือบ 2 ปี ดีกรีรถที่ขายดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ส่งสารพัดฟังก์ชั่นหลากหลายทั้ง ระบบ Advanced Chassis Control เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย พร้อมพรั่งด้วยระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน  ช่วยป้องกันมิให้ตัวรถไหลขณะออกตัวบนทางลาดชัน (HSA – Hill Start Assist) ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน โดยใช้กำลังเครื่องยนต์หน่วงเพื่อชะลอความเร็วให้ต่ำลงโดยไม่ต้องเหยียบแป้นเบรก (HDC – Hill Descent Control) ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ ในขณะที่ผู้ขับขี่ถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง (AEB- Active Engine Brake) ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ เพื่อประสิทธิภาพในการทรงตัวให้ดียิ่งขึ้น (ARC – Active Ride Control) และบนถนนปกติยังมี ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง ช่วยป้องกันการหลุดโค้ง  (ATC – Active Trace Control) เป็นต้น

รวมถึงออฟชั่นภายนอกภายใน ที่โดดเด่นไม่แพ้เจ้าอื่นๆ ทั้ง หลังคาพาโนรามิกใหม่ ช้วยให้ความรู้สึกที่โปร่งโล่งสบาย  เบาะนั่งหรู 7 ที่นั่ง และระบบ  Nissan Connect เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน โดยผ่าน Application  เชื่อมโลกโซเชี่ยลอย่างทันใจ ทันท่วงทีและประตูท้าย เปิด-ปิด ไฟฟ้า พร้อมขุมพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร 171แรงม้า แรงบิด 233 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ X-TRONIC CVT และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในราคาเพียง 1,551,000 บาท

 

Chevrolet Captiva

2. Chevrolet Captiva

อีกหนึ่ง Compact SUV จากค่ายโบว์ไท ที่ยืดหยัดทำตลาดมาเกือบ 10 ปี แม้จะแต่งหน้าทาปากมาหลายรอบจนกลายเป็นรุ่นแซยิดเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดปรับโฉมอีกครั้งให้ดูสง่างามขึ้น ด้วย ด้วยกระจังหน้าสไตล์ ดูอัลพอร์ทใหม่ เพิ่มความหรูหราด้วยกรอบโครเมี่ยมพร้อมไฟหน้า Projector ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED-Daytime อยู่ในโคมเดียวกับไฟหน้า ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ และล้ออัลลอย 5 ก้าน สีทูโทนใหม่ 19 นิ้ว เพิ่มความสปอร์ตและหรูหรายิ่งขึ้น

เด่นด้วยระบบความบันเทิง My Link แบบจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เชื่อมต่อทั้งความบันเทิงและการสื่อสารด้วยการเชื่อต่อสมาร์ทโฟน ทั้ง  Apple Car Play และ Android Auto สะดวกสบายและเป็นเอกลักษณ์ด้วย ชุดเบาะนั่ง 3 ตอน 7 ที่นั่ง สามารถพับเก็บได้และพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ 930 ลิตร พร้อมระบบความปลอดภัยใหม่ ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา (Side Blind Zone Alert) ระบบแจ้งเตือนการจราจรและสิ่งกีดขวางด้านหลัง (Rear Cross Traffic Alert) และระบบช่วยเหลือการถอยจอด (Rear Park Assist) ส่งท้ายด้วยขุมพลังทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร 167 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ VCDI  2.0 ลิตร  163 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ในราคาเริ่มต้นที่ 1,549,000- 1,689,000 บาท ทำให้ Chevrolet Captiva ยังคงน่าสนใจอีกหนึ่งรุ่น

 

KIA Sorento

3. KIA Sorento เจนสอง

SUV ไซด์กลาง จากแดนกิมจิ ที่ยังทำตลาดอยู่ถึงแม้ทั่วโลกเปิดตัวเจน 3 ไปแล้ว เด่นด้วยกระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมแบบโครเมี่ยม พร้อมไฟหน้าและไฟ LED Daytime แกร่งด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว หรูหราเทียบเท่ารถพรีเมี่ยมด้วย เบาะนั่งหนังแท้ 7 ที่นั่ง พร้อมเครื่องปรับอากาศ Dual Zone แยกอิสระ ซ้าย-ขวา บันเทิงด้วย ชุดเครื่องเสียงพร้อมจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว

มั่นใจด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผันคอมมอนเรล CRDI ขนาด 2.2 ลิตร  197 แรงม้า จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหดเปลี่ยนเกียร์บวก/ลบ แต่จำหน่ายเพียงรุ่นขับล้อหน้าเท่านั้นทำให้ KIA Sorento เจน 2 เสียเปรียบเมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกันที่มีทั้ง รุ่นขับสี่ และ ขับหน้า ในราคา 1,694,000 บาท

Hyundai Tucson

4. Hyundai Tucson เจนสอง

SUV ร่วมชาติเดียวกับ KIA ที่ยังมีความน่าสนใจไม่น้อยจนได้ฉายา The Sexy SUV ด้วยดีไซน์ชวนเย้ายวนใจ ด้วย ไฟหน้าเป็น Projector พร้อมไฟหรี่แบบเส้นใหม่ ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์ใหม่ พร้อมสปอยเลอร์พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีรมดำ พร้อมยางขนาด 225/60 R 17 ออฟชั่นภายในเด่นไม่เป็นรองใคร ด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั้น เครื่องเล่น DVD หน้าจอ 7 นิ้วสามารถเล่นได้ ทั้ง วิทยุ CD MP3 DVD เชื่อมต่อทั้ง AUX USB Bluetooh A2DPพร้อมระบบ Naviจาก Speed Navi พร้อมลำโพง  6 จุด เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อม Dual-Zone ปรับอิสระซ้าย-ขวาพร้อมระบบฟอกอากาศ

มาพร้อมขุมพลังเร้าใจด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผัน CRDI ขนาด 2.0 ลิตร 177 แรงม้า แรงบิด 392 นิวตันเมตร ผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ Full Time On Demandควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า กระจายกำลังแบบ 50:50 ในราคาเพียง 1,690,000 บาท

Audi Q3

5. Audi Q3

ปิดท้ายด้วย SUV จากแดนอินทรีเหล็ก ที่ยังทำตลาดมาเรื่อยๆ ถึงแม้รายรอบไปด้วยคู่แข่งสัญชาติเดียวกัน มาพร้อมรูปทรงสไตล์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว สวยงาม สไตล์ Crossover Coupe นั่งสะดวก ขับสบาย ออฟชั่นครบครัน มาพร้อมขุมพลังให้เลือกถึง 2 ขนาดตั้งแต่ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ TFSI 2.0 ลิตร 180 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ TDI 2.0 ลิตร 184 แรงม้า ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ quattro ลุยได้ทุกสภาวะและการเข้าโค้ง ในราคาเริ่มต้น 2,549,000 -2,749,000 บาท ทำให้ Audi Q3 กลายเป็น SUV หรู ที่น่าจับตามองอีกรุ่น

 

 

เรื่องและเรียบเรียงโดย นายเต้ย

 

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รวดเร็วก่อนใคร ได้ที่ Autodeft.com 

5 เรื่องน่าสนใจ