เปิดโผรถใหม่ในเครือ Great Wall Motor จ่อเข้าไทย 28 มกราคม 2021

หลังจากที่ Great Wall Motor ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากเมืองจีนประกาศการลงทุนในเมืองไทย อย่างเต็มรูปแบบด้วยการซื้อโรงงานประกอบรถยนต์ที่จ.ระยอง รวมถึงการฟอร์มทีมงานตั้งบริษัทในเมืองไทยอย่างเป็นทางการรวมถึงได้ทำการสำรวจความต้องการของผู้ใช้รถชาวไทยและทัศนคติที่มีต่อแบรนด์น้องใหม่จากเมืองจีน

 

ล่าสุด เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมแล้วที่จะเปิดตลาดรถยนต์ไทยอย่างเต็มรูปแบบและเป็นทางการผ่านการประกาศนโยบายและแผนธุรกิจของ ภายใต้แนวคิด “Sawasdee Thailand – Experience Your New xEV World” ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นและจริงจังของกลุ่มธุรกิจรถยนตรายนี้ผ่านแบรนด์ในเครือ 4 แบรนด์ ทั้ง Haval เอสยูวีที่มียอดขายอันดับ 1 ของจีน, Great Wall ค่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์, WEY เอสยูวีหรู, และ ORA รถยนต์ไฟฟ้า โดยการจำหน่ายจะเป็นในรูปแบบประกอบในเมืองไทยแถมตั้งเป้าให้เป็นฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาของภูมิภาคนี้และนำเข้าสำเร็จรูปจากเมืองจีน โดยโผรายชื่อรถยนต์ในเครือที่มีแนวโน้มสูงที่จะเปิดตัวต่อชาวไทยอย่างเป็นทางการมีดังนี้

 

1. All New Haval H6

เอสยูวีเจเนอเรชั่นใหม่ (เจน 3) เปิดตัวครั้งแรกที่งาน เฉิงตู มอเตอร์ โชว์ 2020 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ออกแบบสุดพรีเมียม ล้ำยุค ควรค่าแก่การครอบครองเด่นด้วยสีตัวถังรถยนต์ใช้เกรดพรีเมี่ยมแบบเดียวกับรถซุปเปอร์คาร์ พร้อมความโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมแบบโครเมี่ยม ขนาบข้างกับไฟหน้า LED กับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/55R19 ไฟท้าย LED ตกแต่งหรู พร้อมชุดโครเมี่ยม ราวหลังคา เติมเต็มความหรูขึ้นอีกระดับ โดยพัฒนาจากแพลตฟอร์ม LEMON platform เน้นความคงทน การเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม

ภายในล้ำสมัยด้วยการตกแต่งที่ครบครันไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศที่มีระบบทำความสะอาดอัจฉริยะพร้อมด้วยเครื่องกรองอากาศและฝุ่นละอองและเครื่องกำเนิดไอออนลบเพื่อช่วยให้อากาศภายในรถบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น เบาะนั่งไฟฟ้าปรับได้ 8 ระดับ ประกอบกับดีไซน์อันโดดเด่น มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว กับจอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับการสื่อสาร 5 G หลังคาแบบ panoramic sunroof เครื่องปรับอากาศ dual-zone climate control พร้อมแอร์หลัง และเบาะนั่งกึ่งหนังแท้คุณภาพดี พร้อมเทคโนโลยีพิเศษที่ใส่เข้ามาเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยถอยอัตโนมัติ (Automated Reversing Assist) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการถอยรถแก่ผู้ขับ รวมไปถึงเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น ประกอบด้วย ระบบรักษาความปลอดภัย (Safety Feature) ระบบรักษาระยะห่างและความเร็ว (Intelligent Cornering) ระบบรักษาระยะห่างระหว่างรถ (Intelligent Dodge) และระบบควบคุมรถให้อยู่กึ่งกลางเลน (Lane Center Keeping) และดูแลความปลอดภัยรอบคันผ่านกล้อง 360 องศา

แรงด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร TGDI รุ่น GW4N20 190 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 340 นิวตันเมตรที่ 2,000-3,200 รอบ/นาที และเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร GW4B 163 แรงม้าที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิด 280 นิวตันเมตรที่ 1,400-3,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด 7DCT เลือกได้ทั้ง ขับสองล้อหน้า และ ขับสี่ อัจฉริยะที่มาพร้อมกับการอัปเกรดระบบ Firmware Over The Air (FOTA)

All New Haval H6 เอสยูวีเจนใหม่จะเป็นอีกหนึ่งรุ่นสำคัญของ Great Wall Motors ที่จะบุกตลาดเมืองไทย ถล่มคู่แข่งระดับหัวกระทิ ไม่ว่าจะเป็น Mazda CX-5, Honda CR-V, Mitsubishi Outlander, Peugeot 3008 และคู่ปรับร่วมชาติอย่าง MG HS อย่างเต็มรูปแบบ

 

2. Haval Big Dog

 

เอสยูวีรุ่นที่สองที่ใช้แพลตฟอร์ม LEMON platform ด้วยแนวคิดการพัฒนาแบบ ”3/4” ซึ่งหมายถึง มีขนาดใหญ่กว่ารถเอสยูวีโดยทั่วไปประมาณ 1/4 และเล็กกว่ารถรถเอสยูวีสไตล์ออฟโรดฮาร์ดคอร์ประมาณ 1/4 แกร่งดุดันกับ กระจังหน้ารถรูปแบบตารางสี่เหลี่ยมสไตล์เมทริกซ์ที่ดูน่าเกรงขามไฟหน้า LED แบบ earth eye ลึกลับและมั่นคง ดุจดัง “ดวงตาของโลก”พร้อมความสูงจากใต้ท้องรถมากถึง 210 มม. ลุยได้มั่นใจด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร รหัส GW4B15A ให้กำลังถึง 169 แรงม้าที่ 5,000-5,600 แรงบิด 285 นิวตันเมตรที่ 1,400-3,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด 7DCT

พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ทรงพลัง ด้วยระบบการขับเคลื่อน 6 โหมด ทั้งโหมดมาตรฐาน / โหมดสปอร์ต / โหมดโคลน / โหมดทราย / โหมดหิมะ / โหมดประหยัด ซึ่งจะมอบประสบการณ์การขับขี่ใหม่ให้กับผู้บริโภค ให้มีการเดินทางที่รวดเร็ว ชาญฉลาด ปลอดภัยยิ่งขึ้นและทคโนโลยีอัจฉริยะ อันได้แก่ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 2 ที่มีกล้องมองภาพอัจฉริยะด้านหน้า เรดาร์ตรวจจับระยะด้านข้าง อุ่นใจในทุกเส้นทางด้วยระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ด้วยเทคโนโลยีป้องกันอุบัติเหตุขณะขับขี่ ด้วยกล้องมองภาพ 360 องศา ระบบเตือนป้องกันการหลับในขณะขับขี่

 

3. GWM Canon

กระบะแกร่งน้องใหม่ดีไซน์ทัดเทียมกับคู่แข่งจากญี่ปุ่นและมะกันโดดเด่นในร่าง 4 ประตู Double Cab แบบเดียวกับรุ่น Great Wall POER ที่ขายในจีน ภายนอกหล่อด้วยไฟหน้า LED กับไฟส่องว่าง DRL LED ในโคมเดียวกันกับกระจังหน้าขนาดใหญ่สร้างความน่าเกรงขามเมื่อแรกเห็นรับกับกันชนหน้าใหญ่เสริมไฟตัดหมอก ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 เสริมด้วยบันไดข้าง พร้อมไฟท้าย LED ภายในหรูด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 4 ก้าน อ่านง่ายกับมาตรวัดเรืองแสงขนาด 7 นิ้ว กับจอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ปรับอุณหภูมิเบาะคู่หน้าและปรับไฟฟ้าคู่หน้า หุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้ และชาร์จเร็วชาร์จไวด้วย Wirless Charging

ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร GW4D20M 166 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบความปลอดภัยครบครันทั้ง ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ,กล้องหลังและผู้โดยสาร, ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC, ระบบอ่านป้ายจราจร, ระบบควบคุมความเร็วขณะออกตัวและลงทางชันนับเป็นกระบะอีกหนึ่งรุ่นที่หมายหมั้นปั้นมือสู้กับคู่แข่งร่วมชาติอย่าง MG Extrender กระบะที่ยอดขายโตวันคืนและกระบะญี่ปุ่น อเมริกกันอย่างเต็มรูปแบบ

 

3. ORA

แบรนด์นี้ถนัดเรื่องรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วน ซึ่งเป็นหนึ่งไฮไลต์หลักที่จะอวดโฉมให้คนไทยรู้จักมากขึ้น โดยรถยนต์ไฟฟ้ามีทั้งหมด 3 รุ่นดังนี้

- ORA R1 หรือ ORA Black Cat ดีไซน์สุดโดดเด่นที่เกิดจากการจับคู่สีภายนอก 12 แบบ และภายใน 8 แบบ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความงามทันสมัยสไตล์นากาจิม่า ประเทศญี่ปุ่น สุดล้ำด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ iFLYTEK และการอัพเกรดระยะไกล FOTA สบายตาด้วยหน้าจอความละเอียดสูงขนาดใหญ่ถึง 9 นิ้ว สบายใจกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 400 กิโลเมตร ในพื้นที่ห้องโดยสารกว้างใหญ่ พร้อมด้วยแพลตฟอร์มสุดพิเศษ ME ให้ทั้งความปลอดภัยและสามารถเชื่อถือได้ โดยมี 2 ทางเลือก ทั้ง มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 35 กิโลวัตต์ แรงบิต 125 นิวตัน-เมตร ความจุแบตเตอรี่ Lithium 30.7 kWh วิ่งได้ 310 กม./ชาจ์ และ 33 kWh วิ่งได้ 351 กม./ชาร์จ ความเร็วสูงสุด 102 กม./ชม.

- ORA R2 หรือ ORA White Cat รถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพและมีสไตล์ที่พิเศษกว่าใคร ด้วยระยะวิ่งที่ไกลถึง 401 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งสูงกว่าในรถยนต์ระดับเดียวกัน ห้องโดยสารขนาดใหญ่ที่มีความปลอดภัยสูงด้วยถุงลมนิรภัย 6 จุด และเป็น Smart Car เพียงรุ่นเดียวในระดับราคานี้ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Smart Home ได้

- ORA ES11 หรือ ORA Good Cat นับเป็นการเปิดตัวครั้งแรกสู่สายตาชาวโลก ที่แสดงให้เห็นถึงการออกแบบสุดล้ำด้วยนวัตกรรมที่มีพื้นฐานมาจากแนวคิด retro-futurism พร้อมระบบ Coffee Intelligence พร้อมรูปลักษณ์ที่ผสานสุนทรียศาสตร์งานดีไซน์แนวเรโทรกับความงามของโลกอนาคตอย่างสมบูรณ์แบบ โดดเด่นด้วยวัสดุพรีเมียมที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ตอบโจทย์การแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเอง ได้อย่างลงตัว สะดวกสบายด้วยระบบ Fast Charge ชาร์จไวแค่ 30 นาที ได้มากถึง 30 - 80% และด้วยระยะวิ่งที่ไกลถึง 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และจะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ทำให้ก้าวเข้าสู่ตลาดรถยนต์ A0 EV ได้อย่างแข็งแกร่ง

จับตารถยนต์รุ่นใหม่ในเครือ Great Wall Motor ที่จะเปิดตัวในเมืองไทยจะออกมาตามที่คาดการณ์หรือมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางใดนั้น พบกัน 28 มกราคม 2021

 

เรื่องและเรียบเรียงโดย นายเต้ย