20 ปีของ Chevrolet ในประเทศไทย มีรุ่นไหนจำหน่ายมาแล้วบ้างอย่างเป็นทางการ

กลายเป็นข่าวช็อกไปทั่วทั้งโลก เมื่อทาง General Motors ได้ประกาศตัดสินใจยุติการทำตลาดแบรนด์ต่าง ๆ ในเครือทั่วทั้งโลก รวมทั้งในประเทศไทย จะคงเหลือไว้เฉพาะในตลาดที่สหรัฐฯ, อเมริกาใต้, จีน และเกาหลีใต้เท่านั้น ทำเอาคนที่ใช้งานแบรนด์ในเครือ GM อยู่ ไม่ว่าจะเป็น Chevrolet, Holden อยู่ร้อง "เฮ้ย" ไปตาม ๆ กัน ซึ่งในประเทศไทยนั้น มีทั้งโรงงานผลิตและสำนักงานภายใต้ชื่อ เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) และเปิดดำเนิ

Chevrolet Zafira
เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) เริ่มต้นการทำตลาดอย่างเป็นทางการในประเทศไทยได้อย่างสวยหรู ด้วยการเปิดตัวรถอเนกประสงค์อย่าง Chevrolet Zafira มาเป็นรุ่นแรกเมื่อปี 2543 โดยเริ่มเปิดตัวครั้งแรกที่งาน BOI Fair 2000 โดยเริ่มจำหน่ายทั้งรุ่น 1.8 GL และ 1.8 CD พร้อมเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร รหัส X18XE ECOTEC 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ก่อนที่จะเพิ่มรุ่นย่อยมาอีกหลายรุ่น รวมทั้งเพิ่มเครื่องยนต์เบนซิน 2.2 ลิตรมาอีก 1 ตัว ลากยาวจำหน่ายมาได้ถึง 5 ปี ก่อนที่จะยุติการจำหน่ายไปเมื่อปี 2548

Chevrolet Optra
ในปี 2546 ทางเชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์ซีดานออกมาอีก 1 รุ่น นั่นคือ Chevrolet Optra ที่ทำให้แบรนด์นี้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น แถมยังมีตัวเลือกในแบบแวนอย่าง Chevrolet Optra Estate มาอีกด้วย ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.6 และ 1.8 ลิตร รวมทั้งในช่วงวิกฤติน้ำมันแพง ยังมีเวอร์ชั่น CNG หรือเติมก๊าซ NGV มาเป็นตัวเลือกอีกด้วย และเมื่อปี 2551 ก็ได้ออกมาเพิ่มอีก 1 โฉม และเป็นโฉมสุดท้ายที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ก่อนจะยุติการจำหน่ายไปเมื่อปี 2556

Chevrolet Lumina
หลายคนอาจจะลืมไปแล้วว่า เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) เคยวางจำหน่ายรถยนต์ซีดานขนาดกลางอย่าง Chevrolet Lumina มาแล้วเมื่อช่วงปี 2546 พร้อม ๆ กับ Chevrolet Optra โดยเริ่มต้นใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เป็นขนาด 3.8 ลิตร V6 ก่อนที่ภายหลังจะมีการนำเครื่องยนต์ 3.6 ลิตร V6 เข้ามาเป็นตัวเลือกอีกขนาด แต่ด้วยความที่เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเยอะมาก ไม่ค่อยเหมาะกับตลาดเมืองไทย ทำให้รถยนต์รุ่นนี้มีจำหน่ายถึงปี 2551 เท่านั้น

Chevrolet Colorado
ขยับมาถึงปี 2547 เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ได้ทำการเปิดตัวรถกระบะขนาดกลาง ลงมาสู้ในตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการด้วยรุ่น Chevrolet Colorado โดยเริ่มแรกเป็นการร่วมกันพัฒนากับ Isuzu โดยใช้ทั้งพื้นฐานและเครื่องยนต์เดียวกันกับ Isuzu D-Max ทั้ง 2.5 ลิตร Turbo และ 3.0 ลิตร Turbo ทำให้กลายเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ เชฟโรเลต ไปเลย ก่อนที่จะแยกทางกับอีซูซุในเรื่องของเครื่องยนต์ ในปี 2554 เปิดโฉมที่ 2 ด้วยการเลือกใช้เครื่องดีเซล Duramax ทั้ง 2.5 Turbo และ 2.8 Turbo ก่อนที่จะเลิกใช้งานเครื่องยนต์ 2.8 ลิตรในภายหลังเมื่อปี 2559  แต่ยังคงใช้โครงสร้างของ Isuzu อยู่จนถึงปี 2562 จึงค่อยหันมาใช้งานโครงสร้างของตัวเอง และยังเป็นรุ่นที่คงการจำหน่ายได้ยาวนานที่สุดจนถึงปัจจุบัน

Chevrolet Aveo
เมื่อถึงปี 2549 เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ได้ลงมาลุยตลาดรถขนาดเล็กดูบ้าง ด้วยการส่ง Chevrolet Aveo มาลงตลาด ด้วยเครื่องยนต์ทั้งขนาด 1.4 ลิตร, 1.6 ลิตร และช่วงหลังยังมีตัวเลือกในแบบเชื้อเพลิง CNG ให้ใช้งานได้อีกด้วย ก่อนที่จะหยุดผลิตไปเมื่อปี 2555

Chevrolet Captiva
ย่างเข้าปี 2550 เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ได้ทำการเปิดตัวรถอเนกประสงค์ขนาดกลาง 7 ที่นั่ง กลางงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 28 โดยเริ่มต้นมีตัวเลือกให้เลือกเป็นเจ้าของได้ 4 รุ่น ทั้งเบนซิน 2.4 ลิตรในรูปแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร Turbo ในรูปแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ AW เช่นกัน ซึ่งถือเป็นรถอเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะมาปรับโฉมอีกครั้งเมื่อปี 2554 และครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2558 แล้วก็หยุดไปเมื่อปี 2561 ท่ามกลางข่าวว่าทางเชฟโรเลตจะเลิกการจำหน่ายรถอเนกประสงค์รุ่นนี้แล้ว

แต่แล้วก็เกิดเซอร์ไพรส์ เพราะเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ได้ทำการเปิดตัว Chevrolet Captiva โฉมใหม่อีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนจากเดิมไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยการจับมือกับ SAIC Motor ค่ายรถยนต์จากจีน ร่วมกันพัฒนารถยนต์ใหม่ขึ้นมาจากรถพื้นฐานจาก Baojun 530 ที่จำหน่ายในประเทศจีน ใส่เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 Turbo ขนาด 7 ที่นั่ง ส่งมารวมทั้งหมด 3 รุ่น ในราคาเริ่มต้นวันเปิดตัวเพียง 999,000 บาท และจะกลายเป็นรถยนต์รุ่นสุดท้ายที่ถูกจำหน่ายโดยเชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย)

Chevrolet Cruze
หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างดี กับรถซีดานอย่าง Chevrolet Optra ไปแล้ว เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ก็ได้ลงมาลุยตลาดนี้อีกรอบ ด้วยการส่ง Chevrolet Cruze มาเมื่อปี 2553 โดยรอบนี้จัดเต็มกว่าเดิมด้วยการมีทั้งเครื่องยนต์ เบนซินขนาด 1.6 ลิตร, 1.8 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล Turbo ขนาด 2.0 ลิตรมาเพิ่มเป็นทางเลือกอีกด้วย สร้างยอดขายได้อย่างดีต่อเนื่อง ก่อนที่จะยุติการผลิตไปเมื่อปี 2561 ทีผ่านมานี้เอง

Chevrolet Sonic
มาถึงปี 2555 เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ได้ตัดสินใจเข้ามาลุยตลาดรถขนาดเล็กดูอีกครั้ง ด้วยการส่ง Chevrolet Sonic รถยนต์ Sub Compact ลงมาเสริมทัพแทน Chevrolet Aveo ซึ่งรอบนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 ขนาดคือ เบนซิน 1.4 ลิตรและ 1.6 ลิตร มีทั้งในรูปแบบของ Sedan และ Hatchback แต่ก็มีอายุจำหน่ายเพียงแค่ไม่กี่ปี ก่อนที่จะหยุดผลิตไปเมื่อปี 2558

Chevrolet Trailblazer
ในช่วงที่ตลาดรถอเนกประสงค์ที่ใช้พื้นฐานจากรถกระบะ  PPV (Pick-up Passenger Vehicle) กำลังเริ่มบูม เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ก็ไม่พลาดที่จะลงมาร่วมลุยในตลาดนี้เช่นกัน ด้วยการส่ง Chevrolet Trailblazer มาสู้ด้วยเมื่อปี 2555 เริ่มต้นใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกันกับรถกระบะ Chevrolet Colorado อย่างเครื่องดีเซล Duramax ทั้ง 2.5 Turbo และ 2.8 Turbo และยกเลิกเครื่อง 2.8 Turbo ไปเมื่อปี 2559 ช่วงเดียวกับ Colorado ออกมาเพียงโฉมเดียว แต่ก็สามารถสร้างยอดขายได้ดีต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

Chevrolet Spin
หลังจากทำตลาดในรถอเนกประสงค์ SUV อย่าง  Chevrolet Zafira ประสบความสำเร็จ เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) ก็อยากลองเพิ่มตลาดในเมืองไทยด้วยการส่งรถ MPV อย่าง Chevrolet Spin มาบ้างเมื่อปี 2556 ด้วยการชูเป็นรถ 7 ที่นั่งขนาดเล็ก ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรเป็นขุมกำลัง แต่ด้วยความไม่นิยมเอาเสียเลยของคนไทย ทำให้อีกเพียงแค่ 3 ปี ก็ได้หยุดทำตลาดในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ

แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับทาง เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) แต่ด้วยกลไกทางการตลาด ที่ไม่มีความต้องการ กำลังซื้อก็ไม่เกิด ทุกอย่างต้องเป็นไปตามสัจธรรม แต่ก็ถือว่า 20 ปีที่ผ่านมา Chevrolet ได้สร้างกระแสให้กับวงการยานยนต์ของประเทศไทยได้อย่างมากมาย และเชื่อว่าวันหนึ่งอาจจะพร้อมกลับมาได้อีกครั้งในเร็ววันนี้