1 วันกับ New Nissan Terra ที่ปลอดภัย มั่นใจได้ทุกสถานการณ์แบบ 360° SAFETY SHIELD
- โดย : พิสน ลีละหุต
- 23 ก.ย. 64 00:00
- 7,957 อ่าน
หลังการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ New Nissan Terra ไปได้ไม่นาน ทีมงาน AUTODEFT เองก็ได้มีโอกาสไปสัมผัสการชมรอบคัน และการได้รีวิว ทดลองขับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าใครยังอยากได้รับทราบว่ารถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง คันนี้นั้นดีงามอย่างไร ลองย้อนไปดูได้ในการรีวิวล่าสุด หรือใน YouTube ได้เลยครับ
แน่นอนว่า การกลับมาในรูปแบบ Big Minor Change ในรอบนี้ ทางนิสสันเพิ่มออพชั่นจัดเต็มมาให้มากมาย มีบางคนกลับตั้งคำถามแปลก ๆ มาว่า “จะใส่มาทำไมเยอะแยะ เอาออกแล้วลดราคาลงมาดีกว่า ไม่เห็นจำเป็นเลย ไม่ค่อยได้ใช้หรอก” อะไรประมาณนี้ วันนี้ผมในฐานะผู้ที่อยู่ในวงการรถยนต์มาไม่ต่ำกว่า 5 ปี ทดสอบรถยนต์มากมาย จะมาเล่าให้ฟังกันครับว่า ระบบที่มีอยู่บนรถใหม่ 2021 อย่าง New Nissan Terra นั้น จำเป็นต่อการใช้รถใน 1 วันขนาดไหน ลองมาดูกันนะครับ
รอบนี้ ผมมีโอกาสได้รับรถอเนกประสงค์ New Nissan Terra มาทดลองใช้งานกันอีกครั้ง แต่รอบนี้ผมจะไม่ทำในรูปแบบ Performance อีกแล้ว เพราะครั้งก่อนผมว่าเราทำการทดสอบไปรอบด้าน จนน่าจะครบถ้วนแล้ว (ย้อนไปอ่านหรือดูใน YouTube ได้เลย) เลยตั้งใจว่า ครั้งนี้จะลองใช้งานในรูปแบบชีวิตประจำวันดูบ้าง จะมาดูว่า New Nissan Terra ในรุ่น 2.3 VL 4x4 7AT ที่เป็นตัวท็อปบนสุด อุปกรณ์ความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ใส่มาให้มากที่สุด จะสามารถรองรับการใช้งาน 1 วันของผมได้ดีขนาดไหน
1 วันที่เราจะอยู่ด้วยกันนั้น ผมได้รับการขอความร่วมมือให้พาทีมงานในออฟฟิศเดียวกัน (เพจท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง) ไปทำการถ่ายภาพรีวิวที่พักแห่งหนึ่งในจังหวัดนครนายก เป็นจังหวะดีที่เราจะได้ลองใช้งานเลย ด้วยความที่เป็นรถอเนกประสงค์ 3 แถว 7 ที่นั่ง ตัวรถกว้างขวาง มีเบาะนั่งที่ใหญ่ นั่งสบาย ไม่อึดอัด ส่วนอุปกรณ์การถ่ายทำก็เยอะมาก แต่ไม่เป็นปัญหาเลยเมื่อรถคันนี้สามารถพับเบาะแถวสุดท้ายได้แบบพับเรียบ การขนของขึ้นรถก็เลยกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลย
แต่พอขนของขึ้นมาบนรถเยอะเข้า รวมกับการที่ทีมงานขึ้นมานั่งบนแถว 2 อีก กลายเป็นว่าถ้าเราขับในรุ่นอื่น การใช้งานกระจกมองหลังก็ต้องยกเลิกไปเลย มองไปก็คงเห็นแต่หน้าทีมงานกับของที่วางเกะกะสายตา ไม่มีทางมองเห็นรถด้านหลังได้เลย แต่ไม่ใช่กับ New Nissan Terra 2.3 VL 4x4 7AT คันนี้ครับ เพราะว่ากระจกมองหลังนั้น เป็นระบบ Intelligent Rear View Mirror (IRVM) ที่จะเป็นจากกระจกสะท้อนให้เป็นหน้าจอแสดงผลจากกล้องด้านหลังแทนด้วยการดึงปุ่มเดียวด้านหลังกระจกมองหลัง เราก็จะเห็นภาพจากด้านหลังของตัวรถได้ทันที ตัดภาพบนเบาะหลังแถว 2 และ 3 ทิ้งไปเลย แล้วเราก็มองภาพจากด้านท้ายรถ เห็นรถด้านหลังได้อย่างชัดเจน แถมยังปรับมุมมองให้ขยับขึ้น-ลง, ซ้าย-ขวาก็ได้ สะดวกสุด ๆ
แต่ก่อนออกเดินทาง จังหวะที่กำลังรับ Location ผ่านทาง Line จากน้องทีมงาน โอย อยากเคาะกะโหลกตัวเอง ดันลืมเอาสายชาร์จโทรศัพท์มาอีก power Bank ก็ลืมเอามาเพราะเก็บอยู่ในถุงเดียวกัน แล้วจะใช้ Google Maps เพื่อนำทางอย่างไร คำตอบนั้นง่ายมากเลยครับ ผมก็ใช้งานแท่น Wireless Charger ที่อยู่ใต้คอนโซลหน้า กับเชื่อมต่อ Apple CarPlay ผ่านระบบไร้สาย เพราะหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้วนั้นรองรับการใช้งานอยู่แล้ว สบายเลยครับ เรื่องลืมสายชาร์จกับ Power Bank ก็กลายเป็นเรื่องเล็กจิ๋วไปเลย
ตอนแรกทีมงานนัดกันเอาไว้ว่าเจอที่ออฟฟิศตอนตี 5 เพื่อวิ่งไปให้เริ่มถ่ายงานได้ที่หน้างานไม่เกิน 7 โมงเช้า แต่น้องคนนึงดันหาแท็กซี่เพื่อเดินทางมาออฟฟิศไม่ได้ (ช่วงเคอร์ฟิว แท็กซี่เลยยังไม่มี) เลยมาถึงที่นัดก็เกือบจะ 6 โมงเช้าแล้ว น้องทีมงานเลยแอบทำหน้าเศร้าแล้วบอกกับผมว่า “พี่เร่งให้หน่อยได้มั้ย กลัวจะกลับไม่ทันเคอร์ฟิว” ได้สิ เราก็เลยใช้ความเร็วเพิ่มจากที่เคยใช้ปกติไปเล็กน้อย แน่นอนครับว่าเรากำลังใช้งาน New Nissan Terra ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.3 ลิตร Twin Turbo ที่ให้กำลังได้สูงสุดถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร รวมทั้งยังมีการปรับตั้งให้ช่วงต้นตอบสนองการกดคันเร่งได้ดีมากขึ้น ให้ผมสามารถเพิ่มความเร็วได้รวดเร็วมากขึ้น และมีการปรับอัตราทดของพวงมาลัยให้มากขึ้น ทำให้ผมหมุนพวงมาลัยเพื่อเปลี่ยนเลนมุดเข้าช่องต่าง ๆ ระหว่างคันได้ง่ายขึ้น เพราะใช้การบิดหันพวงมาลัยลดลงจากตัวเก่าถึง 12% เลยมีความคล่องตัวในการขับขี่มากขึ้น แถมยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบ Blind Spot Warning (BSW) ที่คอยช่วยเตือนตอนเรากำลังเปลี่ยนเลนด้วยความรวดเร็ว จนอาจไม่ทันได้สังเกตให้ชัดว่ามีรถอยู่ด้านข้างในมุมบอดหรือเปล่า ถ้าเห็นไฟสีส้มกระพริบบนมุมกระจกมองข้างเมื่อไหร่ (ตอนเปิดไฟเลี้ยวมันจะกระพริบ แต่ถ้าไม่เปิด ไฟจะติดค้าง) ผมจึงสามารถเร่งความเร็ว ลดเวลาในการเดินทางได้เยอะเลยครับ (แต่ทุกการขับขี่ยังคงอยู่ในกฎจราจรทุกประการครับ)
เมื่อมาถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย และมาถึงตามเวลาเป๊ะ น้อง ๆ ก็เริ่มทำงานกันเลยครับ ระหว่างที่น้องกำลังทำงานกันอยู่ ผมเองก็ได้เริ่มเคลียงานขึ้นข่าวให้กับเพื่อน ๆ ชาว AUTODEFT ได้อัพเดทข่าววงการยานยนต์เฉกเช่นเดียวกับที่ทำทุกวัน เมื่อจัดการเสร็จแล้ว ก็ถึงช่วงเวลาว่างที่นั่งรอให้ถึงเที่ยงก่อนจะออกไปหาข้าวรับประทานกัน ผมเลยใช้เวลาช่วงนี้เปิดซีรีย์ดูสักหน่อย ครั้นจะเปิดจากโทรศัพท์มือถือ จอก็เล็กเกินไป งั้นเรามาเปิดดูผ่านหน้าจอกลางรถของ New Nissan Terra ดีกว่า ซึ่งหน้าจอนี้จะมีขนาด 11 นิ้ว พร้อมเครื่องเสียงจาก Bose และลำโพงอีก 8 ตำแหน่ง พร้อมแอมพลิฟายเออร์ โดยที่เขาจะมี Smart TV Stick ที่ทางนิสสันจัดเตรียมเป็นของแถมให้กับลูกค้าที่ซื้อรถทุกคนอยู่แล้ว เอาไว้เสียบกับช่อง HDMI ที่อยู่ข้างที่นั่งแถว 3 เปลี่ยนหน้าจอกลางให้กลายเป็น Android TV ได้ เปิด Wi-Fi Hotspot บนมือถือแล้วจัดการเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตซะ คราวนี้เพลินเลยครับ จะเปิดดู YouTube, Netflix, Disney+ Hotstar หรือแอพอื่น ๆ ก็ได้หมดเลยครับ เมื่อคืนผมดูจอห์น วิคค้างเอาไว้ เลยมาดูต่อให้จบซะเลย ต้องบอกว่าเครื่องเสียงดีมาก ฉากยิงกันทีนี่กระหึ่มรอบทิศทางเลย สะใจจริง ๆ
3
ได้เวลาต้องออกไปหาอะไรรับประทานเป็นมื้อกลางวันกันแล้ว พวกเราก็เลยเตรียมขึ้นรถไปหาอะไรมาใส่ท้องสักหน่อย จังหวะที่น้องคนหนึ่งต้องเอาของไปวางด้านหลัง แต่ดันเดินมาตรงประตูข้างแล้ว ไม่รู้จะพับเบาะยังไงเพราะมือถือของอยู่ ผมเองเลยเอื้อมมือไปกดปุ่ม 1-Touch Remote Fold and Tumble Seats ที่อยู่ข้างคนขับ เบาะแถวที่ 2 ก็ทำการพับตัวเบาะเองมาได้อัตโนมัติ น้องที่ยืนอยู่ข้างประตูเลยยกของไปวางด้านหลังได้อย่างง่ายดาย แล้วก็พับเบาะลงมาให้เป็นตำแหน่งเดิม จากนั้นก็ออกเดินทางไปหามื้อเที่ยงกันต่อได้เลยครับ
ช่วงนี้จะหาอะไรกินก็ยากหน่อย ก็เลยแวะร้านตามสั่งที่อยู่แถวนั้น เพื่อเอากลับไปแยกย้ายนั่งรับประทานมื้อเที่ยงแบบห่าง ๆ กันที่หน้างาน จังหวะนั้นคงมีคนคิดแบบนี่กันเยอะ มีช่องจอดเหลืออยู่ช่องเดียวพอดิบพอดีที่เราจะเข้าได้ต้องถอยหลังเข้าจอด ผมเองขับรถเพื่อทำการรีวิวรถมาเยอะแล้ว การถอยเข้าจอดสำหรับผมมันไม่ยากเท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่ขับรถยังไม่คล่อง มันจะกลายเป็นเรื่องยากไปทันที แต่สำหรับ New Nissan Terra คันนี้ที่มีระบบ Intelligent Around View Monitor (IAVM) ก็ทำให้เรื่องถอยหลังเข้าซองเป็นเรื่องง่ายทันที เพราะเราจะสามารถเห็นมุมมองรอบคันได้แบบ 360 องศา รอบข้างตัวรถมีอะไรก็เห็นได้หมด ภาพจากกล้องถอยหลังก็มีการหมุนเพื่อให้เห็นแนวเส้นที่รถจะหมุนไปได้อีกด้วย สะดวกสบาย เพิ่มความปลอดภัยให้ได้อย่างมากเลยครับ
ก่อนเข้าที่หน้างาน ก็ขอแวะเติมพลังด้วยกาแฟสักแก้ว ก็เป็นร้านในปั๊มที่ได้รับความนิยมสูงแหล่ะครับ เราก็จัดการจอดรถแล้วลงไปสั่งกาแฟกัน ได้รับเรียบร้อยก็เตรียมออกเดินทางไปหน้างานเพื่อจบมื้อเที่ยงแล้วทำงานกันต่อ ช่วงต้องถอยหลังออกจากซอง New Nissan Terra ก็มีระบบ Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ที่จะคอยเตือนจากไฟสีส้มบนกระจกมองข้าง รวมทั้งสัญญาณเสียงที่คอยเตือนเราว่า กำลังมีรถตัดหลังมาอยู่นะ ให้เราระวังด้วย ไม่ต้องคอยหมุนตัวไปมองเอง มองแค่กระจกข้าง ฟังเสียง และดูสัญญาณเตือน อีกทั้งยังมีระบบ IAVM กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทางและ MOD ระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน ที่ทำงานด้วย ยิ่งทำให้มั่นใจมากขึ้นเวลาถอยออกจากซอง และนี่คือส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน 360° SAFETY SHIELD ของ New Nissan Terra
เมื่อถึงหน้างาน เราก็แยกย้ายกันจัดการมื้อเที่ยงจนเสร็จ น้อง ๆ ก็จัดการงานของตัวเองจนเสร็จ ก็ได้เวลาต้องออกเดินทางไปอีกโลเคชั่นแล้ว ผมจึงได้ช่วยน้อง ๆ ขนของกลับมาเก็บที่รถ จังหวะที่ยกกล่องเก็บอุปกรณ์มาเพื่อเก็บไว้ท้ายรถ ผมลืมเปิดประตูท้ายไฟฟ้าทิ้งไว้ แต่จำได้ว่ามีกุญแจอยู่ในกระเป๋ากางเกง ก็ง่ายเลยครับ ผมก็จัดการวาดเท้าไปใต้ท้ายรถตรงกลาง ระบบ Auto Lift Gate ก็จัดการเปิดประตูท้ายได้เองอัตโนมัติ ผมก็แค่ถอยมายืนรอให้ประตูเปิดกว้าง ก็เอาของยกวางท้ายรถได้เลย สะดวกสุด ๆ
น้องทีมงานเอ่ยปากมาอีกครั้งว่า อยากจะขอเข้าพื้นที่หนึ่งเพื่อเข้าไปถ่ายรูปหน่อย จะพอพาไปได้ไหม แต่ทางมันขรุขระมากนะ แบบ Off-road หน่อย รถจะเข้าได้ไหม ผมเลยบอกว่า New Nissan Terra คันนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นรถสไตล์ครอบครัว แต่ลุยได้เต็มที่เลย เพราะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนได้แบบ Shift-On-The-Fly 4WD แบบไม่ต้องจอดรถได้ด้วย พอบอกไปนี่น้องยิ้มแป้นเลยครับ เลยจัดการบอกทางไป ซึ่งทางก็ขรุขระแหล่ะครับ แต่ก็ไม่ได้มากเท่าไหร่ จะมีแค่บางช่วงเท่านั้นที่เราต้องใช้ระบบ 4L เพื่อให้เดินทางได้อย่างมั่นใจ และเอาไว้คอยดูหินที่อยู่ข้างทางด้วย โดย New Nissan Terra จะทำการเปิดกล้องที่อยู่ด้านซ้ายของตัวรถกับด้านหน้าแสดงบนหน้าจอให้เราเห็นทันทีเมื่อเราเข้าสู่โหมด 4L เพื่อให้เราเห็นเส้นทางอย่างชัดเจนนั่นเอง จะสะดวกมากที่ต้องเดินทางในเส้นทางที่มีไลน์ในการวิ่งอยู่ทางเดียว หน้าจอจะช่วยให้เราวางล้อได้ถูกไลน์ ถ้าใครเป็นสายลุยออฟโรดจะรู้ดีว่า ถ้าพลาดย่ำผิดไลน์ อาจต้องเสียเวลากับการแก้ไขกันยาวเลย ดังนั้นการมีกล้องให้ดูไลน์ได้แบบนี้ สะดวกมากที่สุดเลยครับ
เมื่อจบภารกิจของวันนี้เรียบร้อย ก็เตรียมออกเดินทางกลับได้แล้ว ผมก็ขับมาเส้นทางเดิมแหล่ะครับ เวลาก็เริ่มเย็นจนพระอาทิตย์เตรียมตัวเลิกงานแล้ว ยอมรับเลยครับว่าตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเพลีย แต่ก็ไม่อยากเบรกเพราะกลัวจะไปถึงออฟฟิศเพื่อส่งทุกคนช้า แล้วจะกลับบ้านไม่ทันเคอร์ฟิวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเลยครับ โชคดีที่วันนี้ผมอยู่บน New Nissan Terra ที่มีระบบความปลอดภัยรอบตัว จังหวะที่เผลอขับรถออกนอกเลน ก็จะมีระบบ Lane Departure Warning (LDW) ที่จะคอยเตือนเราตลอดเมื่อเราขับเหยียบเส้น เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีระบบ Intelligent Forward Collision Warning (IFCW) ที่คอยเตือนทุกครั้งที่เรามีทีท่าว่าอาจจะชนรถข้างหน้าได้ ซึ่งระบบนี้จะทำงานได้เหนือกว่าที่ติดตั้งในคันอื่น ๆ เพราะกล้องและเรดาร์ที่คอยจับวัตถุด้านหน้า ไม่ได้จับเฉพาะรถคันข้างหน้าของเราเพียงเท่านั้น แต่จะจับข้ามเพิ่มไปอีก 1 คันด้านหน้า เพื่อให้การเตือนนั้นทำได้รวดเร็วมากกว่าทั่วไป และถ้าระบบประเมินได้ว่า รถเรายังมีความเสี่ยงที่จะปะทะกับรถข้างหน้า ระบบ Intelligent Emergency Braking (IEB) ก็จะเข้ามาช่วยเบรกลดความเร็วให้เราก่อน พร้อมกับเตือนที่หน้าจอให้ดังและมีไฟกระพริบให้ใหญ่กว่าเดิม เพื่อให้เราเบรกซ้ำไปจนรถอยู่ในระยะปลอดภัยได้ ผมเองเจอกับการเตือนแบบนี้อยู่ 2 รอบเลยยอมแพ้ ขอน้อง ๆ เพื่อแวะล้างหน้าล้างตาแล้วจัดกาแฟสักแก้วก่อนเดินทางต่อดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
สุดท้ายแล้วเราก็เดินทางมาถึงปลายทางกันอย่างปลอดภัย และพอมีเวลาเหลือให้ทุกคนถึงบ้านได้ทันเวลาเคอร์ฟิว และนี่ก็เป็น 1 วันเต็มของผมที่ถือว่าเป็นการทำงานปกติทั่วไปของผม นอกจากการทำข่าว, รีวิว ทดสอบรถแล้ว ก็ยังมีหน้าที่ช่วยงานแบบนี้ของออฟฟิศอีกด้วย ซึ่งบอกได้เลยครับว่า New Nissan Terra ทำให้การทำงานของผมสะดวกสบาย และปลอดภัยขึ้นเยอะ จากทั้งหมดที่ได้เล่าให้ฟังไปหมดแล้ว และคงเห็นแล้วใช่ไหมครับว่าระบบความปลอดภัยและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทั้งหมดที่มีอยู่บน New Nissan Terra 2.3 VL 4x4 7AT มันใช้งานได้จริง และมีโอกาสได้ใช้ทุกวันที่เราเดินทางเลย ผมเองในฐานะที่เป็นคุณพ่อลูก 2 มีทั้งวัยรุ่นและวัยเด็กน้อย ยิ่งใช้งานรถคันนี้มากเท่าไหร่ ยิ่งรู้เลยว่ารถคันนี้เหมาะกับคนที่มีครอบครัวแล้วมากขนาดไหน เพราะ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่คันนี้ ปลอดภัย มั่นใจทุกเส้นทาง เป็นรถครอบครัวที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคันแบบ 360° SAFETY SHIELD, ความใหญ่ของตัวรถ มีเนื้อที่ให้เด็ก ๆ ได้นั่งสบาย, ระบบความบันเทิงครบถ้วน เท่านี้ New Nissan Terra ก็ทำให้ครอบครัวของเราเดินทางได้อย่างมีความสุขและปลอดภัยแน่นอนครับ
ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่ AUTODEFT.com